29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

June 08,2019

นายกฯใหม่ต้องเร่งเครื่อง เพิ่มความแข็งแกร่งให้อีสาน

          ไม่พลิกโผ!! พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาชนะโหวต ๕๐๐ เสียง นั่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ ๒ ปชช.ให้เริ่มงานทันที เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง การท่องเที่ยว เกษตรกรรม การศึกษา และผู้ด้อยโอกาส เดินหน้าพัฒนาอีสานให้แข็งแกร่ง “หัสดิน” ชี้ถึงเวลาประเทศต้องเดินหน้า ฝั่งประธานหอการค้าภาคอีสาน ให้เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

          สืบเนื่องจากในวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๑.๐๐ น. ที่หอประชุมใหญ่ทีโอที ถนนแจ้ง วัฒนะ เป็นการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา ๒๗๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่รองประธานรัฐสภา โดยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ เสนอชื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนายกรัฐมนตรี 

          จากนั้น ในเวลาประมาณ ๒๓.๐๐ น. หลังประชุมนานกว่า ๑๒ ชั่วโมง ในที่ประชุมร่วมรัฐสภา มีมติด้วยคะแนน ๕๐๐ ต่อ ๒๔๔ เสียง เห็นชอบให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๐ โดยเสียงที่ได้มาจาก ส.ว.ทั้ง ๒๔๙ คน และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ รวมถึงพรรคการเมืองแนวร่วมอีก ๒๕๑ เสียง งดออกเสียง ๓ เสียง ได้แก่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภา, นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา, นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส. เขต ๑ จังหวัดศรีสะเกษพรรคภูมิใจไทย โดยในที่ประชุมมีสมาชิกรัฐสภาจำนวน ๗๔๗ คนจาก ๗๕๐ คน เนื่องจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจาก ส.ส. และนางจุมพิตา จันทรขจร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ลาประชุมเนื่องจากประสบอุบัติเหตุ

          “โคราชคนอีสาน” จึงได้ติดต่อไปยังตัวแทนภาคประชาชนในสาขาอาชีพต่างๆ ในภาคอีสาน เพื่อสอบถามถึงความคาดหวังในตัวนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๐ และปัญหาที่ต้องการให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามาแก้ไขโดยเร่งด่วน

นายกฯ ต้องทำงานทันที

          นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย หรือเสี่ยปิง ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี และประธานหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า “ทราบกันอยู่แล้วว่านายกรัฐมนตรี และรัฐบาลจะเป็นใคร แต่ว่าการเป็นรัฐบาลเสี่ยงปริ่มน้ำ นั้น จำเป็นที่จะต้องทำงานอย่างทุ่มเท และทำทุกอย่างที่ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในปัจจุบันเรื่องปากท้องของประชาชนเป็นปัญหาสำคัญ จึงอยากเห็นรัฐบาลชุดใหม่คำนึงด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเศรษฐกิจของภาคอีสาน จากที่มีการประชุมกันทั้ง ๒๐ จังหวัดในภาคอีสาน มีความเห็นเดียวกัน คือต้องการให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว และคำนึงถึงด้านเศรษฐกิจ เพราะในภาคอีสานมีลักษณะกายภาพที่ดีอยู่แล้ว เช่น ด้านคมนาคม ที่ทางรัฐบาลได้ทำไว้ จึงต้องการให้นำมาต่อยอด เพิ่มศักยภาพในเรื่องของขีดความสามารถในการแข่งขัน หรือขีดความสามารถในการเพิ่มมูลค่า นี่คือเรื่องของเศรษฐกิจบริการ ซึ่งเชื่อว่าคนอีสานมีความชำนาญ และความสามารถที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว”

          “ทิศทางหลังจากนี้ ต้องยอมรับว่า รัฐบาลที่ได้มานั้น เป็นรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพนัก แต่รัฐบาลจะต้องเร่งทำงานให้หนักขึ้น ซึ่งจะต้องต่อยอดจาก ๕ ปีที่ผ่านมา ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กล่าวคือ หลังจากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีเรียบร้อย ผมเห็นว่า อยากให้เริ่มทำงานกันทันที และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุด รวมทั้ง ต้องการให้นายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๐ มองเห็นศักยภาพของคนอีสานซึ่งมีประชากรจำนวนมาก มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุด มีขีดความสามารถ และอยากให้หน่วยงานภาครัฐหันมามองภาคอีสานมากขึ้น เพราะประตูอีสานก็เปรียบเสมือนเอเชียที่กำลังเติบโต และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ จึงอยากให้หันมามองในส่วนตรงนี้มากขึ้น” เสี่ยปิง กล่าว

นายกฯ ต้องทำตามสัญญา

          นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “ขณะนี้สินค้าหรือผลิตผลทางการเกษตรมีราคาตกต่ำลงมาก ทั้งที่พืชเกษตรถือเป็นรายได้หลักของคนรากหญ้าหรือเกษตรกรส่วนใหญ่ แม้ปีนี้จะมีปัญหาภัยแล้งที่จะช่วยให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้น แต่ปรากฏว่า ราคาสินค้าทางการเกษตรกลับตกต่ำลง อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรให้เป็นรูปธรรม สิ่งที่จะตามมาก็คือ ค่าครองชีพ จะเห็นว่าทุกวันนี้ ประเทศไทยมีอัตราค่าเงินเฟ้ออยู่ แม้จะเล็กน้อยแต่ก็ถือว่าเป็นปัญหา เพราะสินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาสูงขึ้น แต่ประชาชนกลับมีเงินในกระเป๋าน้อยลง สังเกตได้จากตลาดสด ตลาดนัด ในทุกวันนี้เงียบลงไปมาก 

          “อีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากๆ คือเรื่องของนักการเมือง ทุกวันนี้ประชาชนจะเห็นได้ว่า นักการเมืองสนใจแต่เรื่องการแย่งเก้าอี้ในสภา ไม่มีใครพูดถึงนโยบายสักคน แล้วเมื่อรัฐบาลมีรัฐมนตรีมาจากหลายพรรคการเมือง ก็จะส่งผลให้การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ที่พูดเอาไว้ช้าลง ที่ผ่านมา ๕ ปี ที่พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายปฏิรูประบบต่างๆ ก็เห็นว่าไม่สำเร็จ ผมต้องการจะเห็นคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามาแล้ว รีบเร่งผลักดันนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะการคอร์รัปชั่นในตัวนักการเมืองเอง จะต้องเอาให้ชัดเจนและหมดไปให้ได้ และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ต้องอยู่ให้ตลอดรอดฝั่งด้วย ไม่ใช่ทำงานได้แค่ ๖ เดือนก็ต้องมาเลือกตั้งกันใหม่ ต่างชาติที่ต้องการลงทุนก็จะไม่เชื่อมั่นในประเทศไทย ที่สำคัญจะต้องกระจายการลงทุนมายังจังหวัดต่างๆ ทุกวันนี้การลงทุนไปกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ หมด วันนี้รัฐบาลต้องมองเห็นจังหวัดภายนอกหรือต่างจังหวัดได้แล้ว ไม่ใช่ให้น้ำมาเป็นหยด แต่ต้องให้มาเป็นขันได้แล้ว จังหวัดในภาคอีสานจะได้เกิดการลงทุนมากขึ้น เศรษฐกิจในภาคอีสานก็จะดีขึ้นตามไปด้วย”

ต้องทำให้คนยากจนเป็นคนชั้นกลาง

          “แม้ว่าในอนาคตเราจะได้คณะรัฐมนตรีมาจากไหน เราก็ต้องยอมรับให้ได้ หากคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เกิดมีเรื่องราวไม่ดี มีภาพลักษณ์ออกมาในด้านลบ เราก็พร้อมที่จะเลือกตั้งใหม่ เพื่อจะให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ อะไรที่ชักช้าลีลาอยู่แบบนี้ก็ต้องจบได้แล้ว คนโคราชก็จะต้องอดทนกันต่อไป มีปัญหาอะไรก็ต้องเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ได้รับรู้ เมื่อรับรู้แล้วก็ต้องเร่งรีบเข้ามาแก้ไขด้วย รัฐบาลที่ดีจะต้องมองเห็นและทำให้ประชาชนในประเทศเป็นผู้มีฐานะในระดับกลางให้ได้ โครงสร้างของประเทศที่ดีไม่ใช่จะต้องมีคนจน คนรวย และคนที่ฐานะปานกลาง แต่คนส่วนใหญ่จะต้องอยู่ในระดับกลาง ทำมาหากินได้แบบไม่ติดขัด รัฐบาลชุดใหม่จะต้องผลักให้คนที่มีรายได้น้อยขึ้นมาเป็นคนชั้นกลางให้ได้ ส่วนคนรวยเราไม่ต้องไปห่วง แต่ต้องหันมาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มากขึ้น แล้วการลงทุน เศรษฐกิจ การค้าขายต่างๆ จะดีขึ้นในลำดับต่อไป” นายหัสดิน กล่าว

เรียกส.ส.กลับโคราช

          นายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “ขณะนี้เรื่องที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ เศรษฐกิจ ตราบใดที่ประเทศไทยยังไม่มีนายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาลชุดใหม่ยังไม่เรียบร้อย ความมั่นใจในการลงทุนจะมีน้อยลงไปเรื่อยๆ ทำให้การลงทุนในปัจจุบันมีการชะลอตัวลง ผมเองก็อยากจะให้รัฐสภารีบๆ สรุปกัน เพราะประเทศชาติรอต่อไปไม่ได้แล้ว และหลังจากเรื่องทุกอย่างลงตัวแล้ว มีรัฐบาลชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว คนที่เป็น ส.ส.ก็ต้องรีบกลับมาโคราชโดยด่วน เพราะเราได้รับโครงสร้างพื้นฐานมาหลายโครงการ ซึ่งแต่ละโครงการก็เป็นไปอย่างล่าช้า ทำให้นักธุรกิจขาดความมั่นใจที่จะลงทุน ส่วนโครงสร้างที่วางไว้ใน ๑๐ ปี ๒๐ ปี ผมว่าควรจะเริ่มดำเนินการได้แล้ว ดังนั้น ภาพลักษณ์ของโคราชก็จะยังไม่ชัดเจนแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ หากมีการวางแผนที่ดี ผมเชื่อว่า โคราชจะเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้จังหวัดใดในประเทศแน่นอน ถึงเวลาแล้วที่คนโคราชจะร่วมใจ และออกมาช่วยกันพัฒนาจังหวัด พร้อมใจกันที่จะเปลี่ยนแปลงจังหวัดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว ระบบภายในจังหวัด ระบบการจราจร และการพัฒนาต่างๆ ขอให้คนโคราชมั่นใจและเชื่อมั่นในความยิ่งใหญ่ของจังหวัดนี้ต่อไป”

โคราช’วอนแก้ไขเศรษฐกิจ

          ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเขาใหญ่ กล่าวว่า “ในส่วนของการท่องเที่ยว ในฐานะนายกสมาคมท่องเที่ยวเขาใหญ่ คาดหวังว่า ในวันนี้ประชาชนรออะไรอีกไม่ได้แล้ว เพราะทุกคนก็รอมานานมากพอแล้ว ขณะนี้ควรมีรัฐบาลที่สมบูรณ์ พร้อมจะเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งเรื่องการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมต่างๆ ประเทศไทยควรเดินหน้าได้แล้ว วันนี้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีได้แล้ว ซึ่งแน่นอนว่า เป็นนายกฯ ลุงตู่ และประเทศไทยมีแผนยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามต้องขับเคลื่อนไปตามแผน ส่วนปัญหาที่อยากจะให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแก้ไขให้โคราชโดยด่วน คือการท่องเที่ยว ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลักหรือเมืองรองก็มีปัญหาเหมือนๆ กัน โคราชทุกวันนี้ซบเซามาก หากให้โคราชคอยช่วยเหลือตัวเองอยู่แบบนี้ อาจจะเดินไปข้างหน้าได้ แต่ก็ลำบากพอสมควร ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลชุดใหม่ เข้ามาช่วยในเรื่องการท่องเที่ยว แก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เรียบร้อย”

แก้ปัญหาคนว่างงาน

          ดร.ฟ้าประทาน เติมขุนทด หัวหน้างานกิจกรรมนักศึกษา และหัวหน้าสาขาวิชาการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ กล่าวว่า “ผมในฐานะคนโคราช ที่มาทำงานอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ อยากให้นายกฯ คนใหม่เร่งแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจค่อนข้างย่ำแย่ เพราะส่งผลกระทบด้านอื่นๆ ในสังคม เช่น เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และอื่นๆ ทั้งนี้ ต้องการให้แก้ไขเรื่องอัตราการว่างงานของประชากรโดยเร่งด่วน และเรื่องการมีงานทำ เนื่องจากการทำงาน ไม่มั่นคง ประชากรไม่มีความมั่นคง ก็จะทำให้คุณภาพชีวิตค่อนข้างตกต่ำ จึงต้องการให้แก้ไขจุดนี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งหลังจากมีการเลือกนายกฯ แล้ว คิดว่า ทิศทางความขัดแย้งอาจยังมีอยู่ แต่หากนายกรัฐมนตรีสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนได้ ความตึงเครียดอาจจะพอลดลงได้บ้าง”

เร่งช่วยเหลือคนพิการ

          นางมณีรัตน์ ตัณฑวรรธนะ นายกสมาคมพิการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “คาดหวังการสนับสนุนช่วยเหลือในหลายๆ กระทรวงที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ เช่น กระทรวงมหาดไทย ในเรื่องงบประมาณ การอำนวยความสะดวก กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพิ่มเติมผู้ช่วยเหลือคนพิการ เพราะคนพิการติดเตียงส่วนมากจะขาดคนดูแล และเบี้ยยังชีพที่มีการส่งเรื่องขอเพิ่มจากเดือนละ ๘๐๐ บาท มีการเสนอไปสองทางเลือกคือ ๑,๐๐๐ บาท และ ๑,๕๐๐ บาท จึงอยากให้จัดการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในส่วนของการปกครองส่วนท้องถิ่นหรือภาคเอกชน ควรเสริม เช่น ที่จอดรถ ลิฟต์ สำหรับคนพิการ ห้องน้ำคนพิการให้ได้ตามมาตรฐาน โดยเฉพาะเทศบาล อบต.ที่ยังคงขาดการอำนวยความสะดวกเรื่องนี้”

          “สำหรับเรื่องที่อยากให้นายกฯ แก้ไขอย่างเร่งด่วนคือ เรื่องเบี้ยยังชีพคนพิการ เพราะในส่วนอื่นๆ มีการเพิ่มขึ้นแล้ว เช่น การขึ้นค่าแรง แต่เบี้ยยังชีพสำหรับคนพิการนี้ ๖ ปีแล้ว ที่ผู้พิการได้เดือนละ ๘๐๐ บาท นอกจากนี้ เรื่องอุปกรณ์ของคนพิการก็ควรเร่งด่วนเช่นกัน โดยที่ผ่านมาในส่วนของภาครัฐ ทาง คสช. เวลาที่ของบจ่ายอุปกรณ์ช้ามาก จึงอยากให้เล็งเห็นความสำคัญส่วนนี้ ให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณจ่ายอุปกรณ์ที่สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น” 

          นางมณีรัตน์ กล่าวท้ายสุดว่า คาดว่า ทิศทางหลังจากเลือกนายกรัฐมตรี จะดีขึ้น ขอให้เอาใจใส่ประชาชนมากขึ้น อย่างน้อยคนพิการมีอยู่ในสังคมประมาณ ๑๐% จึงอยากให้สนับสนุนเรื่องอาชีพ สวัสดิการ มีการตั้ง เฮลท์แคร์ สำหรับผู้พิการที่ไม่มีคนดูแล เช่น มีการจัดตั้งบ้านพักคนชราแล้ว จึงอยากให้ภาครัฐมีบ้านพักสำหรับคนพิการที่ไร้ญาติบ้าง และอยากฝากถึงนายกคนที่ ๓๐ ว่า อยากจะให้เล็งเห็นความสำคัญสำหรับคนพิการมากขึ้น ทั้งในเรื่องของเบี้ยยังชีพคนพิการ การอำนวยความสะดวก หรือการของบจัดอุปกรณ์ ตามที่กล่าวไว้แล้ว” นายกสมาคมพิการ กล่าว

 

 

 ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๗๖ วันพฤหัสบดีที่ ๖ - วันจันทร์ที่ ๑๐ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒

 

 


805 1459