June 12,2019
จับกัญชาอัดแท่งพันกิโล ยืนยันด่านตรวจสำคัญ ย้ำ“คนดีอย่ากลัวด่าน”
ตํารวจภูธรภาค ๓ ร่วมกับตำรวจทางหลวง สกัดจับกัญชาอัดแท่ง ในพื้นที่ อ.สีคิ้ว และอ.พระทองคำ ยึดของกลางน้ำหนักรวม ๑,๑๖๑ กิโลกรัม ด้านคนร้ายจอดรถทิ้งไว้อาศัยความมืดหนีเข้าป่า เตรียมขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ ย้ำด่านตรวจป้องกันอาชญากรรมและยาเสพติด ยืนยันคำเดิม “คนดีอย่ากลัวด่าน”
เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๒ เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค ๓ นครราชสีมา พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค ๓ (หัวหน้างานป้องกันปราบปรามยาเสพติด) พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พ.ต.อ.อิทธิพล นาคคำ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และนายปัญญา วงศ์ศรีแก้ว ปลัดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมชุดจับกุม ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค ๓ ร่วมแถลงผลการตรวจยึดยาเสพติดประเภท ๕ กัญชาอัดแท่ง น้ำหนักรวม ๑,๑๖๑ กิโลกรัม พร้อมของกลางซึ่งเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการกระทำผิด ๒ คัน
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค ๓ เปิดเผยพฤติการณ์ของคดีว่า เมื่อเวลา ๐๗.๐๐ น. วันที่ ๗ มิถุนายน ที่ผ่านมา นางสาวจิรัชญา ชอบกิ่ง ผู้ใหญ่บ้านวังโรงน้อย หมู่ ๔ ตำบลกฤษณา อำเภอสีคิ้ว ได้แจ้งเหตุพบรถยนต์ต้องสงสัยจอดทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะท้ายหมู่บ้านเป็นเวลาร่วม ๓ วัน พ.ต.อ.ทรงวุฒิ ไสยบุญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอสีคิ้ว พร้อมกำลังจึงรุดไปตรวจสอบพบรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีเขียว เลขทะเบียน ๔ กจ ๖๒๓๓ กรุงเทพมหานคร จอดทิ้งโดยมีผ้าคลุมอยู่บริเวณท้ายกระบะ ด้านในมีห่อพลาสติกสีดำห่อหุ้มวัตถุคล้ายกัญชาจำนวน ๔ ก้อน จึงแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบตามกระบวนการ ซึ่งเป็นกัญชาแห้งอัดแท่ง น้ำหนักรวม ๖๕๔ กิโลกรัม จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสืบสวนขยายผลการจับกุม
ต่อมาเมื่อเวลา ๐๗.๓๐ น. ในขณะรถยนต์ตรวจการณ์ตำรวจทางหลวง หมายเลข ๖๑๐๒ ออกตรวจตามเส้นทางรับผิดชอบบนทางหลวง ๒๐๕ ถนนสุรนารายณ์ เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญา กรรมและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ในขณะรถแล่นผ่านจุดตัดทางแยกทางหลวง ๒๐๕ กับทางหลวง ๔๐๐๘ ถนนพระทองคำ-ด่านขุนทด บริเวณทางแยกบ้านประคำ หมู่ ๑๐ ตำบลสระพระ อำเภอพระทองคำ พบรถเก๋ง ยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นแคปติวา สีขาว สี่ประตู เลขทะเบียน กฉ ๙๖๕๕ ศรีสะเกษ แล่นมาด้วยความเร็วและท้ายรถมีการบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นพิรุธต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับรถติดตามพร้อมส่งสัญญาณให้หยุด ปรากฏรถคันดังกล่าวไม่ยอมหยุด กลับเร่งความเร็วหลบหนีไปทางอำเภอพระทองคำ โดยเลี้ยวเข้าทางแยกบ้านประคำ หมู่ ๑๐ ตำสระพระ เจ้าหน้าที่ออกติดตามไปทันบริเวณป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน รถคันต้องสงสัยจอดทิ้งไว้และมีชายไทยช่วงอายุวัยกลางคน ลักษณะสันทัด ส่วนสูงประมาณ ๑๗๐ เซนติเมตร เปิดประตูวิ่งหนีหายไปในป่า เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุกอยู่ท้ายรถ พบกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน ๑๒ ห่อใหญ่ รวม ๕๐๗ แท่ง ห่อหุ้มด้วยกระดาษ ฟอยล์สีทอง บรรจุในกระสอบสีขาวซึ่งห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกอีกชั้น น้ำหนักรวมประมาณ ๕๐๗ กิโลกรัม จากนั้นตรวจยึดของกลางทั้งรถยนต์และกัญชาแห้งนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระทองคำ อ.พระทองคำ เพื่อสืบสวนขยายผลจับกุมตามกระบวนการ
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ระบุสวมแผ่นป้ายทะเบียนปลอม จึงตรวจสอบหมายเลขตัวถังรถกระบะคันดังกล่าวมีเลขทะเบียน กต ๘๔๑๙ ศรีสะเกษ โดยมีนางจุน ทองปาน อายุ ๕๙ ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ ๑๓๐ หมู่ ๑๓ ตำบลสระเยาว์ อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้ครอบครองรถกระบะคันดังกล่าว ส่วนรถเก๋งอยู่ระหว่างตรวจสอบโดยละเอียด แนวทางสืบสวนของกลางที่ตรวจยึดได้มีลักษณะบรรจุภัณฑ์มาจากแหล่งผลิตเดียวกัน มีต้นทางมาจากประเทศเพื่อนบ้าน มูลค่าซื้อขายกิโลกรัมละ ๕,๐๐๐-๗,๐๐๐ บาท ราคาที่กรุงเทพฯ กิโลกรัมละ ๑๕,๐๐๐ บาท หากส่งถึงปลายทางต่างประเทศจะมีราคากิโลกรัมละ ๒ หมื่นบาท รวมมูลค่าที่ตรวจยึดได้ ๒๓ ล้านบาท ล่าสุดพนักงานสอบสวน สภ.สีคิ้ว และ สภ.พระทองคำ กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลจังหวัดนครราชสีมาอนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดต่อไป
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค ๓ (หัวหน้างานป้องกันปราบปรามยาเสพติด) เปิดเผยว่า ยาเสพติดชุดนี้น่าจะมาจากทางประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านมาทางจังหวัดนครพนม ผ่านโคราชก่อนจะไปถึงจุดหมายปลายทางคือที่ส่วนกลาง เพราะดูจากการบรรจุหีบห่ออย่างดี และอยากจะฝากประชาชนว่า ด่านตำรวจโคราชเป็นด่านจริง ตั้งถูกต้องตามกฎหมาย เน้นย้ำในเรื่องอาชญากรรม และผลงานการจับกุมยาเสพติดจับได้ทุกเดือน โดยเฉพาะกัญชาจับได้ไม่ต่ำกว่า ๒,๐๐๐ กิโลกรัม และถ้ากัญชาชุดนี้หลุดออกนำไปขายยังต่างประเทศจะขายได้ไม่ต่ำกว่า ๒๐ ล้านบาท ช่วงนี้หน้าฝนคนร้ายจะใช้ช่วงเวลานี้ในการขนย้ายยาเสพติด แต่ตำรวจโคราชไม่กลัวฝน ฝนตกเราก็ตั้งด่านเหมือนเดิม
พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า การตั้งด่านตรวจของจังหวัดนครราชสีมา มีความจำเป็นอย่างมาก เพราะป้องกันทั้งเรื่องคดีอาชญากรรม และยาเสพติด ซึ่งผลงานก็เด่นชัดเราสามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดได้ทุกเดือน ส่วนในเขตตัวเมืองจังหวัดนครราช สีมา ยังเข้มงวดกวดขันเรื่องของการตั้งด่านอยู่เหมือนเดิม เพื่อ ดูแลความปลอดภัยในทุกๆ เรื่อง และขอยืนยันเหมือนเดิมว่า คนดีอย่ากลัวด่าน
ทั้งนี้ ตํารวจภูธรภาค ๓ ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งในการแจ้งเบาะแส ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถานประกอบการฯ ในการกระทําผิด โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๔๔, สายด่วน ๑๕๑ และ Application Police lert u ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดําเนินการปราบปราม จับกุม ดําเนินคดีผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติด ในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อให้สังคมปลอดภัย
ทหารร่วมต้านยาเสพติด
ด้านพล.ต.อัครเดช บุญเทียม รองแม่ทัพภาคที่ ๒ ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ ๒ กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติด ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต การค้า การลักลอบลำเลียงที่ทันสมัย เช่น เพิ่มปริมาณการผลิตที่สูงขึ้น ผู้ค้ารายใหญ่ รายย่อย เพิ่มมากขึ้นในทุกพื้นที่ ระบบการจำหน่าย การสร้างเครือข่ายจำหน่ายออนไลน์ และระบบการเงินอิเล็กทรอนิกส์สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในทุกระดับ ปัญหาดังกล่าว รัฐบาลกำหนดให้หน่วยงานด้านความมั่นคงทุกภาคส่วน บูรณาการในการแก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ ๒ ทุกหน่วยงาน ได้ร่วมบูรณาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในทุกพื้นที่ครอบคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีผลการปฏิบัติ ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ ถึง ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ เพื่อทราบ ดังนี้ ๑.มีการจับกุม ๕๖,๓๗๘ คดี ผู้ต้องหา ๕๗,๗๖๒ คน ยาบ้า ๒๐,๓๖๑,๘๕๓ เม็ด กัญชา ๖,๕๓๔ กิโลกรัม และ ไอซ์ ๓๖๙ กิโลกรัม มีการจับกุมคดีสำคัญ ๗๖ คดี รายใหญ่ ๒๐ คดี
๒.การสกัดกั้นนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน ในระดับกองทัพภาค มีศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ศอ.ปส.ชอน.) เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก และในระดับพื้นที่จะมีกองกำลังป้องกันชายแดน ได้แก่ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และกองกำลังสุรนารี รับผิดชอบให้มีการจัดตั้งที่บัญชาการทางยุทธวิธี บูรณาการการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่จังหวัดเลย จนถึงจังหวัดอุบลราชธานี เพื่ออำนวยการประสานงานการปฏิบัติสกัดกั้น ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดกับหน่วยงานและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ให้สามารถหยุดยั้งการลักลอบนำเข้ายาเสพติดให้ได้ที่แนวชายแดน
๓.กองทัพภาคที่ ๒ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และส่วนราชการต่างๆ ได้กำหนดจัดกิจกรรม “วันต่อต้านยาเสพติดโลกประจำปี ๒๕๖๒ ในวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๒ ณ สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา โดยได้จัดกิจกกรรม ๒ กิจกรรมหลัก ได้แก่กิจกรรมการบรรยายให้ความรู้และชมนิทรรศการจากส่วนราชการต่างๆ เกี่ยวกับโทษและพิษภัยของยาเสพติด และกิจกรรมแม่ทัพภาคที่ ๒ พบปะให้โอวาททหารใหม่ ผลัดที่ ๑/๖๒ และการบรรยายพิเศษ “รวมพลังทหารใหม่ต้านภัยยาเสพติด” โดยพันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน ผบ.พัน.สร.๓
๔.กัญชา ยังคงเป็นยาเสพติดประเภท ๕ ไม่อนุญาตให้ใช้เสพเพื่อความบันเทิง หรือสันทนาการ การผลิต นำเข้า หรือส่งออกกัญชา ยังคงเป็นความผิดตามกฎหมายห้ามจำหน่ายหรือมีไว้ครอบครอง เว้นแต่ได้รับอนุญาต ๔.๑ ผู้มีสิทธิ์ขออนุญาต ผลิต นำเข้า และส่งออกกัญชา ได้แก่ หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย จัดการเรียนการสอนทางการแพทย์/ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทันตกรรม แพทย์แผนไทย หรือหมอพื้นบ้านตามที่ รมว.สาธารณสุขกำหนด สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ศึกษาวิจัยทางการแพทย์ เภสัชศาสตร์ เกษตรกรที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ที่ร่วมดำเนินการกับหน่วยงานรัฐหรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศหรือ ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องใช้รักษาโรค และผู้ขออนุญาตอื่นๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ๔.๒ ผู้ที่จะครอบครองกัญชาได้โดยไม่เป็นความผิด ได้แก่ ผู้ป่วยที่แพทย์สั่งให้ใช้สามารถครอบครอง ใช้รักษาโรคตามที่แพทย์กำหนด และแพทย์ที่ได้รับอนุญาต สั่งให้ผู้ป่วยใช้เพื่อบำบัดรักษาโรค
ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๗๗ วันอังคารที่ ๑๑ - วันเสาร์ที่ ๑๕ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒
924 1,624