28thMarch

28thMarch

28thMarch

 

June 17,2019

สิ้น“ครูมิว ศาลางาม” หมอช้างรุ่นสุดท้าย

          สิ้น “ครูมิว ศาลางาม” วัย ๙๑ ปี หมอสะดำอาวุโส หมอช้างรุ่นสุดท้ายแห่งเมืองสุรินทร์ ในอดีตเคยออกล่าช้างป่ากว่า ๑๖ เชือก นำมาฝึกเป็นช้างบ้าน และผู้เชี่ยวชาญด้านคชศาสตร์ เป็นเสาหลักในพิธีกรรมต่างๆ เกี่ยวกับช้าง  และการแสดงช้างในสุรินทร์-บุรีรัมย์ 

 

          เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๒ มีรายงานว่า นายมิว ศาลางาม หรือ ครูมิว อายุ ๙๑ ปี หมอสะดำอาวุโส หมอช้างรุ่นสุดท้ายแห่งเมืองสุรินทร์ เสียชีวิตด้วยอาการสงบ หลังป่วยติดต่อมานานหลายเดือน ที่บ้านพักเลขที่ ๖๔ บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้าของครอบครัว ลูกหลานและญาติพี่น้อง ซึ่งกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่รดน้ำศพ และสวดพระอภิธรรมศพในคืนแรก

          โดยนายสุพจน์ ก้านอินทร์ อายุ ๕๒ ปี หลานชาย “ครูมิว” เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวศาลางาม รู้สึกเสียใจกับการจากไปของครูมิว หมอสะดำอาวุโส ซึ่งนับเป็นหมอช้างรุ่นสุดท้าย เคยสอนวิชาคชศาสตร์ให้ตน  จนมีอาชีพเลี้ยงครอบครัวถึงทุกวันนี้ ตนทราบข่าวว่า คุณลุงมิวเสียชีวิต ก็รีบเดินทางมาจากจังหวัดกาญจนบุรีทันที เพื่อร่วมรดน้ำศพ และสวดพระอภิธรรมในคืนนี้

          ทางด้านนายบุญธรรม ศาลางาม อายุ ๔๘ ปี ลูกชายคนที่ ๖ ของ “ครูมิว” เล่าว่า คุณพ่อสอนวิชาคชศาสตร์ให้พี่ชายคนโตสืบแทน ส่วนตนเองก็ปฏิบัติตามที่ท่านสอนมา และจะพยายามเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เพราะว่าอายุยังน้อย วิชายังไม่แกร่งกล้า ยังไม่สามารถควบคุมตัวเองตามแบบฉบับที่คนโบราณเขาทำ ตนยังไม่พร้อม จึงให้พี่ชายคนโต สืบแทนคุณพ่อไปก่อน ครอบครัวศาลางาม เป็นควาญช้าง เลี้ยงช้างมาหลายชั่วอายุคน

          นายมา ทรัพย์มาก อายุ ๗๘ ปี หมอช้างที่เคยไปคล้องช้างกับ “ครูมิว” เล่าว่า ตนเคยไปคล้องช้างป่ากับตามิว แถวเวียงจันทน์ สปป.ลาว  กัมพูชา และพม่า ครูมิวหมอสะดำอาวุโส หมอช้างรุ่นสุดท้ายแห่งเมืองสุรินทร์ จับช้างป่าด้วยความเอาใจใส่ มีความมานะ เมื่อจับช้างป่าได้ก็นำมาฝึกปรือ บำรุงรักษาจนช้างมีความเชื่อง กลายเป็นช้างบ้าน และคัดเลือกช้างที่มีลักษณะดีไว้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์  มีลูกศิษย์เป็นหมอช้างหลายคน

          อนึ่ง นายมิว ศาลางาม เกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๑ ที่บ้านเลขที่ ๖๔ บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เป็นบุตรของ  นายแก้ว-นางมี ศาลางาม มีพี่น้อง ๔ คน เป็นชาย ๓ คน หญิง ๑ คน ได้รับการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ และสมรสกับนางมา   ศาลางาม มีบุตรด้วยกัน ๗  คน เป็นชาย ๔ คน หญิง ๓ คน 

          นายมิว ศาลางาม เป็นชาวกูยอะจีง (กูยเลี้ยงช้าง) ได้เรียนรู้วิชาคชศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาสำคัญสำหรับกลุ่มชาติพันธุ์กูย โดยเป็นลูกศิษย์ของหมอแก้ว สุขศรี และหมอท้าว ศาลางาม (ครูบาใหญ่ของช้างในสมัยนั้น) เรียนรู้เกี่ยวกับช้างตั้งแต่อายุ ๑๑ ปี เป็นมะช้างติดตามหมอช้างไปกับกองคาราวาน  จับช้างป่าด้วยความเอาใจใส่ มีความมานะและได้รับการปะชิเป็นหมอช้างใหญ่ เมื่ออายุย่างเข้า ๒๐ ปี จากนั้นนำกองคาราวานช้างไปจับช้างป่าตามแนวเขาพนมดงรักในเขตราชอาณาจักรกัมพูชา  ปีละ ๒-๓ ครั้งๆ ละ ๒-๓ เดือน  เมื่อจับช้างป่าได้ก็นำมาฝึกปรือ บำรุงรักษาจนช้างมีความเชื่องกลายเป็นช้างบ้าน และคัดเลือกช้างที่มีลักษณะดีไว้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ มีลูกศิษย์เป็นหมอช้างหลายคน อายุ ๒๕ ปี ได้รับการเลื่อนระดับหมอช้างจากบรรดาหมอช้างด้วยกันขึ้นเป็น  “หมอสะดำ”  หรือหมอสะดำอาวุโส จนกลายเป็นที่พึ่งของกลุ่มผู้เลี้ยงช้างในปัจจุบันทั้งในจังหวัดสุรินทร์ ต่างจังหวัดและต่างประเทศ

          สำหรับผลงานและเกียรติประวัติของ “ครูมิว ศาลางาม” ได้แก่ เป็นหมอช้างระดับ หมอสะดำ หรือหมอสะดำอาวุโส (ปัจจุบันอยู่ในระดับครูบาใหญ่ หรือกำลวงปืด) เพราะหมอช้างระดับครูบาใหญ่เสียชีวิตหมดแล้ว สามารถเป็นผู้นำพิธีกรรมต่างๆ เกี่ยวกับช้างและสามารถครองตนอยู่ในศีลธรรมกับฐานะหมอสะดำ หรือหมอสะดำอาวุโส  ถึงปัจจุบันเป็นเวลา ๘๐ ปี เคยออกไปจับช้างป่ามากกว่า ๔๐ ครั้ง และสามารถจับช้างป่าได้ทั้งหมด ๑๖ ตัว มีความสามารถจ่มคาถาผีปะกำ นำประกอบพิธีกรรมต่างๆ  เกี่ยวกับช้าง เช่น  เซ่นผีปะกำ การปะชิหมอช้าง การปะซะหมอช้าง การทำเชือกปะกำและการทำอุปกรณ์เกี่ยวกับการคล้องช้าง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคชศาสตร์ เช่น การดูคุณลักษณะของช้าง การบำรุงรักษาช้าง การฝึกช้างต่อ การเฝ้าระวังช้าง การสังเกตช้าง การคล้องช้างป่า การฝึกหัดให้ช้างเชื่อง การรักษาช้าง จิตวิทยาช้าง สมุนไพรอาหารช้าง ได้รับเชิญทั้งภายในและต่างประเทศ ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับช้างในพิธีต่างๆ เช่น การเปิดปางช้างหรือการตั้งศาลปะกำตามปางช้างต่างๆ ในประเทศไทย เป็นวิทยากรบรรยายเรื่องช้าง รับเชิญออกรายการโทรทัศน์ รับเชิญเป็นผู้นำประกอบพิธีเซ่นผีปะกำในโอกาสสำคัญๆ และเป็นผู้นำหมอช้างและควาญช้างจากจังหวัดสุรินทร์ ไปช่วยเคลื่อนย้ายช้างป่าในกรณีเจ็บป่วย เช่น ที่จังหวัดกาญจนบุรีและที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นต้น และยังเป็นหมอช้าง ระดับครูบาใหญ่ที่อาวุโสที่สุดในปัจจุบัน  กระทั่งได้รับยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรมสาขาภูมิปัญญาชาวบ้าน(หมอช้าง) จากชาวช้างในประเทศไทยและต่างประเทศ

          ทั้งนี้ การเลี้ยงช้างและการจับช้างป่า ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวกูยอะจีง และชาวเขมร  ซึ่งมีการสืบทอดวิชาคชศาสตร์ติดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน และมีการจัดระบบความรู้และเผยแพร่ให้กระจายกว้างขวางออกไปสมกับที่  “ ช้าง” ได้รับการยกย่องเป็นสัญลักษณ์แห่งสยามมาแต่อดีต  ช้างจึงมีความสำคัญอยู่ในชีวิตจิตใจของชาวไทยทั่วไป นายมิว  ศาลางาม  เป็นผู้สืบทอดภูมิปัญญาและองค์ความรู้ด้านคชศาสตร์แก่ชาวไทยและชาวโลก เป็นเสาหลักสำหรับการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เกี่ยวกับช้าง  และการแสดงของช้างในจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดบุรีรัมย์ และเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้จังหวัดสุรินทร์เป็นที่รู้จักแก่ชาวโลก

 

 

 ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๗๘ วันอาทิตย์ที่ ๑๖ - วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒

 

790 1459