January 16,2020
รวบหนุ่มตระเวนงัดร้านกาแฟดัง สารภาพทำมากว่า ๓๐ ครั้ง
ตำรวจโคราชแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาตระเวนลักทรัพย์ร้านกาแฟดัง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานเพิ่มเติม เนื่องจากพบก่อเหตุในหลายพื้นที่ รับสารภาพก่อเหตุไม่ต่ำกว่า ๓๐ ครั้ง
เมื่อวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๗.๐๐ น. ที่ห้องประชุมไทรทอง สถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พ.ต.อ.อนิวรรตน์ สุรินทร์วงศ์ ผกก.สส.ภ.จ.นครราชสีมา แถลงข่าวจับกุมคดีลักทรัพย์ร้านกาแฟ “คาเฟ่คอร์ดยาร์ด” และร้านกาแฟละมุน ในพื้นที่รับผิดชอบ สภ.เมืองนครราชสีมา ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา, พ.ต.อ.ธีรภัทร์ มณีศรี, พ.ต.อ.ราชศักดิ์ ญาณอุบล รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา และ พ.ต.อ.อนิวรรตน์ สุรินทร์วงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา ดำเนินการ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว พ.ต.อ.กฤตยา และ พ.ต.อ.อนิวรรตน์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา ดําเนินการสืบสวนติดตามหาตัวคนร้ายมาดําเนินคดี กระทั่งวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๒ เวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น. สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา คือ นายศักดิ์สิทธิ์ (หนึ่ง) ดีขวาน้อย อายุ ๒๑ ปี บริเวณอพาร์ตเม้นท์ ภูแก้ว ถนนจอมสุรางค์ยาตร์ อ.เมืองนครราชสีมา โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือรับของโจร โดยใช้ยานพาหนะ
สำหรับพฤติการณ์นั้น พ.ต.อ.อนิวรรตน์ สุรินทร์วงศ์ ผกก.สส.ภ.จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๓ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านกาแฟ คาเฟคอร์ดยาร์ด ตั้งอยู่ภายในถนน ๓๐ กันยา ซอย ๑๒ อ.เมืองนครราชสีมา ได้ทรัพย์สินไปเป็นเงินสดจำนวนหนึ่ง และในวัน เดียวกันก็ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ ในร้านกาแฟละมุน ตั้งอยู่บนถนนสุรนารายณ์ ต.บ้านเกาะ อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกัน เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมจึงลงพื้นที่สืบสวน ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากร้านกาแฟที่เกิดเหตุทั้งสองร้าน พบว่า คนร้ายมีตําหนิรูปพรรณ การแต่งกาย เสื้อผ้า การปิดบังอำพรางใบหน้า และใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์แบบเดียวกัน จึงเชื่อว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นคนเดียวกัน
“ต่อมาวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๓ เวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม ตัวนายศักดิ์สิทธิ์ หรือหนึ่ง ดีขวาน้อย อายุ ๒๑ ปี พร้อมด้วยของกลางจำนวนหลายรายการ เช่น ธนบัตร เงินเหรียญ เสื้อผ้า ยานพาหนะและอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุลักทรัพย์ ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านกาแฟทั้งสองร้านดังกล่าวจริง”
พ.ต.อ.อนิวรรตน์ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาให้การว่า ของกลางที่ตรวจยึดมาได้นั้น ผู้ต้องหาได้มาจากการกระทำความผิด และได้นำมาใช้ในการกระทำความผิดต่อ ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลและการประสานความร่วมมือเกี่ยวกับเหตุลักทรัพย์ในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่ใกล้เคียงจาก สภ.เมืองนครราชสีมา สภ.จอหอ สภ.โพธิ์กลาง สภ.สูงเนิน และ สภ.สีคิ้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับแจ้งเหตุในลักษณะเดียวกัน พบว่า มีข้อมูลผู้กระทำความผิด ซึ่งได้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ โดยคนร้ายที่เข้าก่อเหตุลักทรัพย์ มีตำหนิรูปพรรณ การแต่งกาย ลักษณะ ท่าทาง และยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ เชื่อได้ว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกันและก่อเหตุในหลายพื้นที่ เมื่อขยายผลผู้ต้องหาให้การรับสารภาพประกอบเหตุลักทรัพย์มากกว่า ๓๐ ครั้ง
“สำหรับผู้ต้องหา ในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากได้ก่อเหตุในหลายพื้นที่ ทั้งนี้ สาเหตุที่คาดว่าผู้ต้องหาเลือกเป็นร้านกาแฟ เนื่องจากเมื่อปิดร้านแล้ว จะไม่มีพนักงานดูแล จึงทำให้ง่ายต่อการก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม การแถลงข่าวในครั้งนี้ไม่ได้เพื่อประจานผู้ต้องหา แต่เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ รวมถึงตระหนักและดูแลทรัพย์สินของท่าน โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟต่างๆ รวมทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วย” พ.ต.อ.อนิวรรตน์ กล่าว
ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๑๑ วันพุธที่ ๑๕ - วันอังคารที่ ๒๑ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
968 1,737