January 24,2020
วิรัตน์ ตันจินดาประทีป “มังกรคิ้วขาว” อดีตประธานชมรมมิตร ๓๑ โคราช
“นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา” เป็นความตอนหนึ่งใน ‘กฤษณาสอนน้องคำฉันท์’ พระนิพนธ์ในสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ซึ่งหมายความว่า คนเราเมื่อตายไปแล้ว ร่างกายทั้งหมดย่อมสูญไปจนหมดสิ้น ที่เหลืออยู่มีเพียงความดีกับความชั่วของคนเท่านั้น...
เช่นเดียวกับบุรุษผู้นี้ “วิรัตน์ ตันจินดาประทีป” ซึ่งผู้คนทั่วทุกวงการต่างให้ความเคารพนับถือ และเรียกขานว่า “ป๋าน๊ำ” ผู้ร่วมก่อตั้ง “ชมรมมิตร ๓๑ โคราช” ตั้งแต่ปี ๒๕๑๐ และเป็นประธานคนแรกมากระทั่งถึงปี ๒๕๕๖ จึงมีผู้สานงานต่อมาถึงปัจจุบัน ในขณะที่ฉายา “มังกรคิ้วขาว” ที่ป๋าน๊ำได้มานั้น เนื่องจากมีเชื้อสายจีนจึงเปรียบเป็นมังกร และยังสื่อถึงความแข็งแกร่งอีกด้วย เพราะ “ป๋าน๊ำ” เป็นบุรุษที่แข็งแรงกล้ามใหญ่ บวกกับเมื่อมีอายุมากขึ้นขนคิ้วมีสีขาวนั่นเอง
“ชมรมมิตร ๓๑ โคราช” ภายใต้การนำของ “วิรัตน์ ตันจินดาประทีป” มีความเป็นปึกแผ่น ช่วยเหลืองานสังคมอย่างต่อเนื่อง สานสัมพันธ์กับทุกองค์กร มีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะในหมู่มวลสมาชิกชมรมฯ นั้น จะนำคณะออกไปเยี่ยมเยียนอย่างสม่ำเสมอ จึงยิ่งทำให้สมาชิกรักและเคารพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งงานสังคมต่างๆ ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากป๋าน๊ำเช่นกัน นอกจากนี้ ท่านยังเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมก่อตั้ง “หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา” อีกด้วย
แต่สังขารไม่เที่ยง เมื่ออายุมากขึ้น ต่อให้สมัยหนุ่มจะสุขภาพดีและแข็งแรงเพียงใด แต่หาต้านทานโรคภัยได้ไม่ เช่นเดียวกับ “ป๋าน๊ำ” ซึ่งช่วงหลังมีปัญหาด้านสายตาเนื่องจากเป็นโรคต้อหิน สมรรถภาพในการมองเห็นจึงลดลง จึงลดงานสังคมลงเรื่อยๆ ยังคงเหลืองานที่สำคัญจริงๆ เท่านั้นที่ท่านจะไปร่วมด้วยตนเอง แต่งานอื่นๆ นั้นก็ไม่ได้นิ่งดูดาย จะมอบหมายให้ลูกหรือคนใกล้ชิดไปแทนไม่ได้ขาด จากนั้นในช่วง ๑-๒ ปีที่ผ่านมา ท่านเริ่มเจ็บป่วย แพทย์พบว่าเป็นโรคหัวใจโต และลิ้นหัวใจรั่ว จึงต้องพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยมีภริยาและลูกหลานห้อมล้อมดูแลด้วยความรัก ส่งผลให้อาการดีขึ้นเรื่อยๆ
แต่แล้วเมื่อต้นเดือนนี้เองก็ประสบอุบัติเหตุหกล้ม ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ท้ายสุดช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าก็มาถึงในเที่ยงของวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๓ มีข่าวแพร่สะพัดไปทั่วเมืองโคราชว่า มังกรคิ้วขาวผู้แข็งแกร่งนั้นเสียชีวิตอย่างสงบ ในวัย ๘๖ ปี ท่ามกลางความอาลัยของครอบครัวและผู้ที่เคารพนับถือ
นับเป็นการสูญเสียบุรุษกล้ามใหญ่ใจกุศลในสังคมโคราช ที่สร้างคุณูปการด้านต่างๆ แก่สังคม
ร่างของ “มังกรคิ้วขาว” ถูกเคลื่อนมายังวัดสุทธจินดาวรวิหาร ถนนราชดำเนิน เมืองนครราชสีมา เพื่อประกอบพิธีรดน้ำในวันที่ ๑๖ มกราคม และตั้งบำเพ็ญกุศลถึงวันที่ ๒๐ มกราคมที่ผ่านมา ท่ามกลางผู้ร่วมไว้อาลัยจากทุกวงการหนาแน่นทุกค่ำคืน รวมทั้งในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในบรรยากาศที่สุดแสนโศกเศร้าอาลัยในช่วงค่ำชองวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๓ ซึ่งมี “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” อดีตรองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธาน ผู้ซึ่งเคารพป๋าน๊ำประดุจญาติผู้ใหญ่ และป๋าน๊ำให้การสนับสนุนในเส้นทางการเมืองเรื่อยมาตั้งแต่การลงสมัครส.ส.ครั้งแรกในนามพรรคปวงชนชาวไทย และพรรคชาติพัฒนาในปัจจุบัน .........
“วิรัตน์ ตันจินดาประทีป” เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๔๗๖ ที่อำเภอจัตุรัส จ.ชัยภูมิ เป็นบุตรนายเซ่งปู่-นางกิมฮวย แซ่ตั้ง มีพี่น้อง ๘ คน โดยเป็นลูกชายคนโต เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่โรงเรียนบ้านกอก ในอำเภอบ้านเกิด เมื่อโตเป็นหนุ่มได้สมรสกับสตรีสวยนามว่า “สุนันท์” มีบุตร-ธิดาด้วยกัน ๕ คน ซึ่งล้วนมีบทบาททางสังคมโคราช ได้แก่ เชาวลิตร (สมรสกับจินตนา) ดูแลกิจการยนต์อีสาน มิลเลอร์ (ถนนโพธิ์กลาง), วีระศักดิ์ อดีตรองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา (สมรสกับส่องหล้า), สุภนันท์ (สมรสกับภักดี จีระนันทกิจ), กันยา (สมรสกับ นพ.กิตติพงษ์ ประวีณวงศ์วุฒิ) และชลชาติ ส.ท.นครนครราชสีมา (สมรสกับ พญ.รุ้งนภา) โดยครอบครัวของป๋าน๊ำประกอบธุรกิจปั๊มน้ำมัน จากเดิมเป็นปั๊มเชลล์ (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นบางจาก) อพาร์ตเม้นท์ และเป็นเจ้าของยนต์อีสานมิลเลอร์
แม้จะเรียนหนังสือแค่ระดับประถมศึกษา แต่ “ป๋าน๊ำ” มีลายมือและลายเซ็นสวยมาก แสดงถึงอุปนิสัยที่เป็นคนละเอียดรอบคอบ และเป็นผู้นำ ด้วยความที่ชอบเข้าสังคม จึงถูกยกให้เป็นผู้นำขององค์กรและสมาคมต่างๆ หลายแห่ง และได้รับตำแหน่งติดต่อกันหลายสมัยในองค์กรต่างๆ อาทิ ที่ปรึกษาอาวุโสถาวรหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, ผู้ก่อตั้งและประธานชมรมมิตร ๓๑ โคราช ๒๕ สมัย, ประธานที่ปรึกษาอาวุโสถาวรชมรมมิตร ๓๑ โคราช, ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์อาวุโสถาวรมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ๊งนครราชสีมา, ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ถาวรมูลนิธิพุทธธรรม ๓๑ นครราชสีมา(ฮุก ๓๑), นายกที่ปรึกษาอาวุโสถาวรสมาคมเหยี่ยวเพ้งแห่งประเทศไทย สาขานครราชสีมา, ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ถาวรสมาคมตั้งตระกูลนครราชสีมา และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมเท่งไฮ้ สาขานครราชสีมา เป็นต้น
แต่งานที่สร้างความปลาบปลื้มใจแก่ “ป๋าน๊ำ” และครอบครัว เห็นจะเป็นการได้ทูลเกล้าถวายงานแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ ๙) และพระบรมวงศานุวงศ์ โดยเฉพาะการสร้างโรงสีข้าวถวายในโครงการตามพระราชดําริต่างๆ ของพระองค์ท่านมาตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ ถึง ๒๕๓๔ จํานวน ๖ แห่ง ประกอบด้วยโรงสีข้าวที่จังหวัดพิษณุโลก ประจวบคีรีขันธ์ บุรีรัมย์ ชลบุรี นครราชสีมา และปราจีนบุรี รวมทั้ง ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ มีโอกาสเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด และปลื้มปีติในสิ่งที่พระองค์ท่านตรัสสอนว่า
“...เมื่อเป็นพ่อค้านักธุรกิจ พยายามอย่าปิดทองหน้าพระ แต่ต้องปิดทองหลังพระ ซึ่งหมายถึง เวลาทําสิ่งใดอย่าไปเอาหน้า แต่เมื่อพอเวลาผ่านไปนานเข้า สิ่งที่เราทําจะแสดงออกให้คนอื่นเห็นเอง และคนเราต้องซื่อสัตย์ เสียสละ และจงรักภักดีต่อแผ่นดินถิ่นเกิด...”
ซึ่งสิ่งที่พระองค์ท่านตรัสสอนอยู่ในความทรงจําและอยู่ในใจของป๋าน๊ำเสมอ
“ป๋าน๊ำ” ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ รวมถึงโล่เกียรติยศต่างๆ อาทิ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตริตราภรณ์มงกุฎไทย, ได้รับพระราชทานเหรียญราชรุจิ, ได้รับพระราชทานเหรียญทองคําพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระ บรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙, ได้รับพระราชทานเข็มพระปรมาภิไธยย่อ “ภปร” โครงการพัฒนาตามพระราชดำริ, ได้รับพระราชทานเข็มพระปรมาภิไธยย่อ “สก.” ศูนย์ศิลปาชีพพิเศษบางไทร โดยรับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้รับโล่เชิดชูจากองค์กรต่างๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะโล่เกียรติยศบุคคลดีเด่นแห่งปี ๒๕๔๓ จาก “สมาพันธ์สื่อมวลชนพันธมิตรนครราชสีมา” ในฐานะผู้ร่วมรวบรวมพลังสามัคคีภาคเอกชนสร้างประโยชน์ เพื่อสาธารณะ ทะนุบำรุงสังคมให้งดงาม และแข็งแกร่งด้วยความต่อเนื่องยาวนาน
แม้ร่างกายและวิญญาณของ “ป๋าน๊ำ” วิรัตน์ ตันจินดาประทีป จะดับสิ้น...แต่คุณงามความดีที่ท่านทำไว้เมื่อครั้งดำรงชีวิต จะยังคงตราตรึงและซาบซึ้งอยู่ในความรู้สึกของทุกคนตราบนานเท่านาน...
• ทีมข่าวโคราชคนอีสาน
ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๑๒ วันพุธที่ ๒๒ - วันอังคารที่ ๒๘ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
898 1,678