4thOctober

4thOctober

4thOctober

 

June 19,2020

เก้าอี้‘ผอ.รพ.ขอนแก่น’ชุลมุน หลังเด้ง‘หมอชาญชัย’เข้ากรุ นพ.เกรียงศักดิ์’ไม่ขอรักษาการ

หลังมีบัตรสนเท่ห์กล่าวหา “นพ.ชาญชัย” ผอ.รพ.ขอนแก่น รับเงินบริษัทยา ปลัดกระทรวงฯ สั่งย้ายเข้ากรุ ท่ามกลางกระแสคัดค้าน แล้วย้าย “นพ.เกรียงศักดิ์” มารักษาการ ท้ายสุดทานกระแสไม่ไหว แถลงขอถอนตัวจากเก้าอี้รักษาการ ขอกลับไปที่เดิม หรือตำแหน่งที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง อ้างไม่ได้ถูกกดดัน แต่เพื่อให้การดำเนินงานด้านสาธารณสุขมีความต่อเนื่อง 

 

ตามที่กระทรวงสาธารณสุขมีหนังสือคำสั่งเลขที่ สธ.๑๑๖๑/๒๕๖๒ ลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๒ และหนังสือ เลขที่ สธ.๐๒๑๗/๔๙๓๔ ลงวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ขอความร่วมมือตรวจสอบข้อเท็จจริงและแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีผู้ร้องเรียนไม่ระบุชื่อ โดยใช้สรรพนามว่า ‘ข้าราชการเกษียณ โรงพยาบาลขอนแก่น’ กล่าวหาว่า นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและผิดระเบียบของทางราชการ โดยมีประเด็นหลักในการร้องเรียนคือ เรียกรับเงินจากบริษัทยาและร้านค้า ร้อยละ ๕ เข้าบัญชีกองทุนพัฒนาโรงพยาบาลขอนแก่น ในช่วงเดือนเมษายน ๒๕๖๑-ตุลาคม ๒๕๖๑ ซึ่ง นพ.ชาญชัย จันทร์ วรชัยกุล ได้เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงแสดงความบริสุทธิ์ในประเด็นดังกล่าวที่ถูกร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมพยานหลักฐานต่างๆ เมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๓ นั้น แต่ปรากฏว่าต่อมารองปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีหนังสือเลขที่ สธ.๕๓๒/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๓ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล อีกครั้ง ทำให้ทางองค์กรแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และสหวิชาชีพโรงพยาบาลขอนแก่น มีความสงสัยและตั้งข้อสังเกตว่า ในกระบวนการสอบสวนหาข้อเท็จจริง รวมถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง มีความซ้ำซ้อน รวมทั้งมีพฤติการณ์น่ากังขาและไม่เป็นธรรมหลายประเด็น ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลขอนแก่นได้นัดรวมตัวเรียกร้องให้มีการตรวจสอบที่เป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ 

ต่อมา นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งย้ายนพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น และตั้ง นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี มารักษาการ โดย นพ.เกรียงศักดิ์เดินทางมาที่โรงพยาบาลขอนแก่นตั้งแต่วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ 

อนุทิน’ไม่ให้ย้ายขาด

ต่อมาหลังจากที่เกิดกระแสต่อต้านการโยกย้ายนี้ มีข่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขทราบว่าขอไม่ให้มีคำสั่งย้ายขาด นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น และ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี ออกจากตำแหน่ง จนกว่าผลการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณีรับเงินจากบริษัทยา ที่มี นพ.พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต ๑๑ เป็นประธานสอบแล้วเสร็จ พร้อมกันนี้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขรับเงินจากบริษัทยา ๑๘๖ แห่งด้วย

ขอธรรมาภิบาลคืนสู่รพ.

จากนั้นเมื่อเวลา ๑๗.๐๐ น. วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ ที่โรงพยาบาลขอนแก่น พญ.กนกวรรณ ศรีรักษา ประธานองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น นำบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลขอนแก่น พร้อมใจกันสวมใส่ชุดสีดำ พร้อมถือป้าย “เชิญชวนแต่งกายชุดดำทุกวัน จนกว่าธรรมาภิบาลจะกลับสู่โรงพยาบาลขอนแก่น” โดยมีแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ใส่ชุดสีดำมาร่วมจำนวนมาก

พญ.กนกวรรณ ศรีรักษา กล่าวว่า วันนี้เป็นการแถลงจุดยืน ๓ ข้อของบุคลากรทางการแพทย์ ที่ประกอบด้วยการเรียกร้องให้กระบวนการสอบสวน นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล มีความเป็นธรรม กรรมการเป็นกลาง และเป็นกรรมการที่ตั้งขึ้นตามลำดับของกองวินัย การคัดค้านการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม และการรักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น อาจมีส่วนได้เสียกับคณะกรรมการตรวจสอบ เกรงจะไม่เป็นธรรม อยากให้เปลี่ยนตัวรักษาการ   โดยบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลฯ จะแต่งกายชุดสีดำ จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม

“การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอไม่ให้มีคำสั่งย้ายขาด นพ.ชาญชัย ออกจากตำแหน่งนั้น เป็นการพยายามตีความหมายว่า ไม่ให้ย้ายขาดคืออะไร อาจหมายถึง ย้ายไปที่กระทรวงแล้ว ก็อาจมีโอกาสย้ายกลับมา ถ้าเป็นเช่นนั้น อยากถามว่า แล้วเหตุใดจึงไม่ย้าย นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ คนปัจจุบัน กลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี เพราะตำแหน่งเป็นทางการของท่านคือผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น เพราะฉะนั้น หากบอกว่าไม่ย้ายขาด แสดงว่ามีโอกาสย้ายกลับที่เดิม ทำไมจึงไม่ย้ายทันที เพื่อให้เกิดความสบายใจของทุกคน” พญ.กนกวรรณ กล่าว

พญ.กนกวรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอีกชุด ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุนั้น เพื่อให้การสอบสวนควบคู่กันไป ให้เกิดความเป็นธรรม เป็นเรื่องที่ดี แต่ที่ต้องการคือ การสอบสวนที่เป็นธรรม และเป็นไปตาม หลักธรรมาภิบาล

มั่นใจ “บิ๊กตู่” คืนความชอบธรรม

จากนั้น เมื่อเวลา ๑๖.๐๐ น. วันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๓ ที่บริเวณด้านหน้าห้องปฏิบัติราชการผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ชั้น ๔ ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายวุฒิพงศ์ ศุภรมย์ รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ในฐานะประธานศูนย์ประสานงานประชาชนอีสานรวมการเฉพาะกิจ นำประชาชนชาวขอนแก่นและแกนนำเครือข่ายประชาชนอีสานเพื่อความยุติธรรม รวมกว่า ๒๐ คน มายื่นหนังสือต่อนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เพื่อส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องขอให้ขจัดการไร้ธรรมาภิบาลในกระทรวงสาธารณสุขและคืนความศักดิ์สิทธิ์แก่ระบบราชการไทย จากกรณีคำสั่งย้าย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น และการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดวินัยร้ายแรง นพ.ชาญชัย กระทั่งทำให้วงการแพทย์ และบุคลากรด้านสาธารณสุขจากทั่วประเทศออกมาเคลื่อนไหวและชุมนุมเรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้องภายในกระทรวงสาธารณสุข ท่ามกลางกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เฝ้าสังเกตการณ์และป้องกันเหตุความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น

นายวุฒิพงศ์ ศุภรมย์ รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า คนขอนแก่นและภาคประชาสังคม รวมทั้งแกนนำเครือข่ายประชาชนอีสานเพื่อความยุติธรรมที่ได้มารวมกันวันนี้เพื่อแสดงความมั่นใจ ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีความยุติธรรม มีการบริหารงานที่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและเป็นคนดี คนที่คนไทยทั้งประเทศนั้นมั่นใจจากผลการบริหารงานที่ผ่านมา ที่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ได้ ซึ่งในการร้องเรียนดังกล่าวนี้เพื่อต้องการแสดงถึงพลังของคนขอนแก่น โดยเฉพาะแกนนำภาคประชาชนที่เดินทางมาในวันนี้ ล้วนต่างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้จักกับนพ.ชาญชัยเป็นการส่วนตัว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานของโรงพยาบาลขอนแก่น และการบริหารงานของกระทรวงสาธารณสุข อาจจะเป็นการเมืองภายในของกระทรวงสาธารณสุข ที่หลายคนมักจะเรียกว่า กลุ่มหมอชนบทและกลุ่มในเมือง

เชื่อมีความผิดปกติ 

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพบว่า มีสิ่งผิดปกติ ๔ อย่าง เริ่มจากบัตรสนเท่ห์ที่นำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบสวน มีการสอบสวนเรื่องดังกล่าวยาวนานถึง ๘ เดือน แต่ก็ไม่ได้ข้อสรุป แต่กลับมีการสั่งย้าย นพ.ชาญชัยไปประจำกระทรวงสาธารณสุข และตั้งผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี มารักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น การที่ผู้ที่มารักษาการก็เป็นคนคนเดียวกันที่ย้ายมาในปี ๒๕๖๑ และครั้งนี้ก็มีรายชื่อในการโยกย้าย สุดท้ายคือกรรมการสอบสวนเรื่องนี้เป็นผู้ตรวจราชการเขต ๖ ที่อาจจะมีส่วนได้ส่วนเสียกับ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่นคนปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นสิ่งที่สังคมสนใจ และนายกรัฐมนตรี ก็มีคำสั่งในการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง จึงทำให้มีความมั่นใจว่า คนดีต้องมีที่ยืน คนทำงานต้องได้รับขวัญและกำลังใจ ไม่ใช่มาเกิดการโยกย้ายและมีการตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิดวินัยร้ายแรงเช่นนี้” นายวุฒิพงศ์ ศุภรมย์ กล่าว

นายวุฒิพงศ์ กล่าวอีกว่า ภาคประชาชนและเครือข่ายจากทั้ง ๒๐ จังหวัดภาคอีสาน ขอให้นายกรัฐมนตรี มีคำตอบให้กับคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะกับบุคลากรทางการแพทย์ ได้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติหรือความชัดเจนในเรื่องที่เกิดขึ้น ภายในวันที่ ๑๙ มิถุนายนี้ ซึ่งหากยังคงไม่มีความชัดเจนหรือไม่ได้รับความสนใจจากผู้บริหารสูงสุดในระดับประเทศกับเรื่องที่เกิดขึ้น และสะเทือนวงการแพทย์อยู่ในขณะนี้ หากไม่มีอะไรคืบหน้า ภาคประชาชนและเครือข่ายจากทุกจังหวัด จะออกมาเคลื่อนไหวต่อไป

นพ.เกรียงศักดิ์’ขอถอย

ล่าสุดเวลา ๑๑.๐๐ น. วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ ที่ห้องประชุมแก่นเพชร ชั้น ๔ โรงพยาบาลขอนแก่น นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน จากกรณีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลขอนแก่น ท่ามกลางความสนใจจากบุคลากรทางการแพทย์ จากโรงพยาบาลต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก

นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ แถลงว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีคำสั่งให้มาปฏิบัติราชการ ในตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ในวันที่ ๕ มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ที่ปรากฏในข่าวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ในฐานะข้าราชการพลเรือนในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นข้าราชการของประชาชน และมีครอบครัวอยู่ที่ขอนแก่น มีความรักและความผูกพันต่อโรงพยาบาลขอนแก่น จึงห่วงใยต่อภาพลักษณ์ ความศรัทธาของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีต่อโรงพยาบาลขอนแก่น ที่มีมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี จึงขอถอนตัวจากการรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่าการถอนตัวนั้นน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อให้การดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลขอนแก่นนั้นคลี่คลายและเดินหน้าโดยเร็ว และตนพร้อมที่จะเดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี ตามเดิม หรือในตำแหน่งที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย

พร้อมทำหน้าที่ตามที่สธ.มอบ

“ผมไม่กดดันหรือไม่ได้คิดน้อยใจอะไร ที่ผ่านมาผมเคยมารักษาการที่โรงพยาบาลขอนแก่น จากนั้นในปี ๒๕๖๑ ก็พบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน วันนี้เป็นครั้งที่ ๒ ที่เกิดเหตุการณ์ จึงตัดสินใจในการขอถอนตัว และจะทำเรื่องเสนอต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อที่ว่าจะอนุญาตให้ถอนตัวหรือไม่ หากมีผลประการใดก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามทันที ทั้งนี้ที่ผ่านมางานด้านสาธารณสุขของไทยนั้นเหนื่อยล้าจากการทำงานในสถานการณ์โควิด-๑๙ มาอย่างหนักและต่อเนื่อง จนได้รับการยกย่องจากนานาประเทศ และทำให้สถานการณ์ของประเทศไทยไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศเข้าสู่วันที่ ๒๐ ดังนั้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารประเทศทำงานกันอย่างหนัก ผมจึงไม่อยากให้ทุกท่านมาเครียดหรือมาวิตกกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงขอถอนตัวจากตำแหน่ง โดยจะทำหนังสือส่งเรื่องอย่างเป็นทางการในระบบข้าราชการให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ หากผลออกมาประการใดผมก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม” นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า บุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลขอนแก่นน่ารักทุกคน ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้โรงพยาบาลขอนแก่นมีชื่อเสียงในด้านมาตรฐานสาธารณสุขในระดับประเทศและระดับโลก ดังนั้น เหตุการณ์นี้เป็นการตัดสินใจส่วนตัวของตัวเอง เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติและเดินหน้าทำงานเพื่อก้าวผ่านสถานการณ์วิกฤต และปฏิบัติหน้าที่ด้านสาธารณสุขให้กับประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบและโครงข่ายในความเป็นโรงพยาบาลศูนย์ฯ อย่างไรก็ดี หากต้องย้ายกลับไปที่เดิม หรือตำแหน่งใดๆ ตามที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขมอบหมายก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามทันที เพราะคำสั่งของผู้บังคับบัญชาถือเป็นที่สุด

 

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๓๒ วันพุธที่ ๑๗ - วันอังคารที่ ๒๓ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๓

 

 


858 1,557