‘นพ.วรรณรัตน์’ นำทีมชาติพัฒนา และ “กำนันเบ้า” ลงพื้นที่ช่วย “ยลดา” หาเสียงเต็มที่ เผยเหตุที่ไม่ส่ง “กำนันเบ้า” ลงสมัครนายก อบจ.แข่ง เพราะเป็นคนกันเอง จึงพร้อมใจหันมาสนับสนุนเมีย รมช. ด้าน “หน่อย” ยืนยันแม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ไม่เคยท้อ ไม่เคยเหนื่อย ตั้งมั่นทำงานเพื่อประชาชน และจะไม่ทำให้เสียชื่อวงศ์ตระกูล ย้ำสามีไม่มีส่วนทำให้ชนะ

ตามที่ในปฏิทินการหาเสียงของนางยลดา หวังศุภกิจโกศล หรือ หน่อย ภริยานายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พรรคภูมิใจไทย) ในฐานะผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา หมายเลข ๒ ในนามกลุ่มโคราชโฉมใหม่ ซึ่งในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ กำหนดลงพื้นที่พบปะประชาชนในเขตเมืองนคร ราชสีมา เริ่มตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐ น.ที่ตลาดประปา ท่ามกลางพ่อค้าแม่ค้าและผู้ที่มาซื้อสินค้า โดยมีนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) นำทีม พร้อมด้วยนายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา รวมทั้งนายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา หรือ “กำนันเบ้า” ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า พรรคชาติพัฒนาและพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งจะสนับสนุนให้ลงสมัครนายก อบจ.นครราชสีมา แต่ภายหลังไม่ได้ลงสมัครตามที่เป็นข่าว ซึ่งไม่เคยมีการเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้จากทางพรรคชาติพัฒนาและกำนันเบ้า

จากนั้นเวลา ๐๘.๐๐ น. มาที่ตลาดแม่กิมเฮง, เวลา ๐๙.๐๐ น. พบปะคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาที่โรงแรมวีวัน, เวลา ๑๐.๐๐ น. พบประชาชนที่ อบต.จอหอ, เวลา ๑๑.๐๐ น. พบประชาชนที่วัดโคกสูง, เวลา ๑๓.๐๐ น. วัดโกรกเดือนห้า, เวลา ๑๔.๐๐ น. ที่ อบต.หนองไผ่ล้อม, เวลา ๑๕.๐๐ น. วัดหนองไผ่ล้อม, เวลา ๑๖.๐๐ น. ตลาดหนองไผ่ล้อม, เวลา ๑๗.๐๐ น. ตลาดย่าโม และเวลา ๑๘.๐๐ น. ตลาดเซฟวัน

โดยในช่วงเวลา ๑๕.๐๐ น. ณ วัดหนองไผ่ล้อม มีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยกว่า ๑๐๐ คน โดย นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ขึ้นเวทีปราศรัยก่อนว่า “วันที่ ๒๐ ธันวาคมที่จะถึงนี้ ถือว่าเป็นวันที่สำคัญต่อท้องถิ่นทั่วประเทศ เพราะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกจังหวัด ที่ครบวาระการทำงานตามกฎหมายแล้วต้องเลือกตั้ง แต่ต้องเลื่อนออกไปเรื่อยๆ แม้จะหมดวาระแล้วก็ตาม วันนี้จึงเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลประกาศให้มีการเลือกตั้งนายก อบจ. และส.จ.ขึ้น ต่อไปก็เชื่อว่าคงจะเป็นการเลือกนายกเทศมนตรี, อบต., ผู้ว่า กทม. ตามมาดังนั้น วันที่ ๒๐ ธันวาคมจึงเป็นวันสำคัญในการทำหน้าที่พลเมือง ออกไปใช้สิทธิ์ใช้อำนาจอธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ เลือกบุคคลที่จะสามารถทำหน้าที่เป็นตัวแทน มาเป็นรัฐบาลท้องถิ่น เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาท้องถิ่นที่ประสบอยู่ เอาคนที่มีความรู้ ความสามารถ ให้มีความเจริญ ความก้าวหน้า ความยุติธรรม ตามที่ปรารถนาอยากจะเห็น”

เผยเหตุ‘กำนันเบ้า’ถอนตัว

“ในการรับสมัครเลือกตั้ง ส.จ.และนายก อบจ.ในครั้งนี้ ตอนแรกทีมโคราชชาติพัฒนา หมายมั่นปั้นมือตั้งใจที่จะส่งนายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา หรือกำนันเบ้า เจ้าของปั๊มน้ำมัน ลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ. และเขตเมืองนั้นมี ส.จ. ๘ เขต เราก็สมทบทั้ง ๘ เขต เพราะตอนนั้น เราไม่ทราบว่า นางยลดาจะลงสมัครนายก อบจ. ทราบข่าวเพียงว่าเป็นคนอื่น แต่เมื่อถึงวันสมัครรับเลือกตั้งคือวันที่ ๒ พฤศจิกายนคุณหน่อยตัดสินใจมาลงสมัคร เมื่อเป็นเช่นนี้ และเป็นเรื่องบังเอิญที่พี่น้องกำนันเบ้ากับครอบครัวของคุณหน่อยก็สนิทสนมกันมาช้านาน เรียกว่าเป็นมิตรเป็นญาติกัน ครอบครัวคุณหน่อยสามีก็เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล) เป็นเจ้าของธุรกิจโรงงานแป้งมันที่เสิงสาง เมื่อมีนโยบายเหมือนกันก็มานังจับเข่าคุยกันว่าเราจะแข่งกันทำไมในเมื่อความคิดเหมือนกัน ทำไมไม่จับมือกันทำงาน ถ้าเรามาแข่งกันเอง ผู้สมัครคนอื่นอาจจะชนะได้ เราอาจจะแพ้กันทั้งคู่ เราจับมือกันดีกว่า ช่วยกันดีกว่า เมื่อมีสองคนต้องเอาคนเดียว จึงต้องมีคนถอยคนหนึ่ง ยืนอยู่คนหนึ่ง กำนันเบ้าจึงตัดสินใจถอนตัวหันมาช่วยคุณหน่อย ซึ่งกำนันเบ้าในฐานะตัวแทนพรรคชาติพัฒนา เมื่อเราตัดสินใจร่วมกันแบบนี้แล้ว ทีมโคราชชาติพัฒนาก็ตัดสินใจ ถ้าอย่างนั้นเราต้องหนุนคุณหน่อยเป็นนายก อบจ.แทนกำนันเบ้าที่ถอนตัวออกไป” นพ.วรรณรัตน์ กล่าว

สนับสนุน ‘ยลดา’ เต็มที่

นพ.วรรณรัตน์ กล่าวอีกว่า “วันนี้จึงเป็นที่มาที่พรรคชาติพัฒนาเชิญคุณหน่อยมาพบกับประชาชนในฐานะผู้สมัครนายก อบจ.เบอร์ ๒ เพื่อเป็นความหวังของคนโคราชว่า คุณหน่อยเป็นคนที่มีความรู้ เป็นคนที่มีความสามารถ ธุรกิจครอบครัวเป็นพันๆ ล้าน และเป็นคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ทำงานจิตอาสามามากมาย ทำงานในโครงการทูบีนัมเบอร์วัน และมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง มารับใช้พี่น้องประชาชนในฐานะนายก อบจ.”

ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ตั้งใจทำงาน

จากนั้นนางยลดา (หน่อย) หวังศุภกิจโกศล ขึ้นเวทีปราศรัย โดยเริ่มต้นจากการร้องเพลงว่า “ขอเป็นนางเอกในหัวใจเธอ ได้มั้ยเล่าเออ หากเธอหัวใจยังว่าง” แล้วจึงปราศรัยว่า “หน่อยเป็นคนโคราช เกิดที่อำเภอโชคชัย ที่มาลงสมัครนายก อบจ. เพราะเห็นว่าถึงเวลาแล้ว เราต้องการจะมาพัฒนาโคราช เพราะโคราชเป็นจังหวัดใหญ่ มี ๓๒ อำเภอ การพัฒนาต่างๆ ไหลลงมาที่โคราช เพราะโคราชเป็นเมืองหน้าด่านของภาคอีสาน หน่อยก็เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานรับใช้พี่น้อง ชอบทำงานจิตอาสา อยู่กับชุมชนเป็นระยะเวลากว่า ๔๐ ปี เห็นปัญหาต่างๆ ในเรื่องของคุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน จนถึงผู้สูงอายุ” 

มองเห็นปัญหาที่แตกต่าง

“เมื่อไปพบปะพ่อแม่พี่น้องทั้ง ๓๒ อำเภอ ๒๘๙ ตำบล หน่อยได้เห็นปัญหาต่างๆ แต่ละอำเภอ แต่ละตำบลอะไรบ้าง หน่อยก็คิดว่า ปัญหาแต่ละชุมชน แต่ละตำบลไม่เหมือนกัน ก็เอามาจดบันทึกกับน้องสาวคือ ส.ส.กบ (จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดิน) ซึ่งเคยเป็นนายกเทศมนตรีและเป็น ส.ส. เคยคลุกคลีกับประชาชนมาตลอด แต่หน่อยไม่เคยเป็นนักการเมือง แต่มีประสบการณ์เคยทำงานกับพี่น้องในชุมชน จึงรู้ปัญหาว่าเราจะแก้อย่างไร ไม่ใช่ว่าพ่อแม่พี่น้องอยากได้ถนนแต่ไปทำคลองให้ เราจะไม่ยัดเยียดเด็ดขาด เราต้องตามใจเสียงพี่น้องประชาชน เพราะว่าเงินภาษีทุกบาททุกสตางค์พ่อแม่พี่น้องเป็นเจ้าของ เป็นเจ้าของเม็ดเงิน เงิน อบจ.สี่พันล้านก็จริง แต่ดูแลโรงเรียนในสังกัดพันกว่าล้าน พูดว่าได้สี่พันล้านแต่เงินจริงๆ ที่จะมาพัฒนา และถ้าถามว่าจะดูแลประชาชน ๓๒ อำเภอทั่วถึงไหม ไม่ทั่วถึง แต่โชคดีที่หน่อยและพี่ๆ ทุกท่านทุกภาคส่วน เราทำงานในทิศทางเดียวกัน จะไม่มีการขัดแย้งต่างๆ เพื่อที่เราจะได้ร่วมกันพัฒนาเมืองโคราช ถามว่าจะไปเอาเงินส่วนนี้มาจากไหน เราต้องประสานลงมาดูแลแต่ละพื้นที่แต่ละชุมชน ในที่นี้เราต้องรวมกันสามพี่น้องท้องถิ่นคือ อบต. เทศบาลฯ และอบจ. การทำงานร่วมกันจะทำให้งานพ่อแม่พี่น้องต่างๆ อยากได้เอามาพัฒนาจะได้ประสบความสำเร็จดั่งที่พ่อแม่พี่น้องต้องการ”

อยากเป็นนายกฯ 

“หน่อยอยากเป็นนายกฯ แต่จะไม่ใช้อำนาจนายกฯ คนเดียว ต้องฟังเสียงประชาชนด้วย นโยบายของหน่อยคือ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตรวจสอบ ในวันนี้ หน่อย-ยลดา หวังศุภกิจโกศล ลูกหลานย่าโมอยากขอโอกาสมาทำงาน ขอโอกาสมารับใช้ เพราะว่าการเป็นนายก อบจ. ๔ ปี ทำงาน ๔ ปี หากให้โอกาสมาทำงาน หน่อยก็ต้องตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เพราะว่าชีวิตที่เหลืออยู่อยากจะสร้างโคราชร่วมกับพี่น้องไว้เป็นอนุสรณ์ให้ลูกหลานเราดูว่าใครจะมาเป็นนายก อบจ. ต้องทำเป็นต้นแบบให้ลูกหลานที่จะมาเป็นนายกฯ เพราะน้องสาวพูดเสมอว่า ในการที่หน่อยจะมาเป็นนายก อบจ. ต้องตั้งใจทำงาน และให้คนที่จะมาต่อจากหน่อยได้ดูผลงานของเรา อย่าให้เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล หน่อยมีความพร้อมทั้งกายทั้งใจ ถึงจะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่หน่อยพูดเสมอว่า หน่อยตั้งใจจริงๆ ไม่เคยเหนื่อย ไม่เคยท้อ หน่อยไปทั้งวันหน่อยก็ไม่เหนื่อย เพราะหน่อยอยากเห็นพี่น้องชาวโคราชของเรามีความเจริญและมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจ” นางยลดา กล่าว

ย้ำทำงานได้กับทุกภาคส่วน

หลังการปราศรัย นางยลดา หวังศุภกิจโกศล ให้สัมภาษณ์กับ “โคราชคนอีสาน” ถึงเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า “จากการที่ไปพบปะประชาชนแต่ละอำเภอ ไปฟังเสียงพี่น้องประชาชนแต่ละชุมชน แต่ละท้องถิ่นท้องที่ ทำให้เห็นปัญหาต่างๆ จึงกำหนดนโยบายเพื่อมาดูแลประชาชน หากทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือกันในการพัฒนา ที่ไม่ใช่เพียงพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่ทุกภาคส่วนต้องทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างโคราชไปด้วยกันกับทุกๆ คน เพราะโคราชเป็นของประชาชน”

สิทธิของประชาชน

ต่อข้อถามที่ว่า คิดว่าใครเป็นคู่แข่งที่แท้จริง นางยลดา ตอบว่า “เหมือนเกมกีฬา ต้องอยู่ที่ประชาชน ถือว่าเป็นพี่เป็นน้อง หากประชาชนไว้วางใจใคร ถือเป็นสิทธิ์ของประชาชน ต้องขอขอบคุณประชาชนที่เดินทางไปพบทุกอำเภอ มีความสุขมากที่ประชาชนได้เห็นตัวหน่อย เห็นความมุ่งมั่น ตั้งใจ ต้องการพัฒนาโคราช ร่วมกับชาวโคราช”

ทำงานได้กับส.จ.ทุกคน

ส่วนประเด็นเรื่อง ส.อบจ.ทั้งหมด ๔๘ เขตนั้น คิดว่าจะเป็นผู้สมัครในสังกัดกลุ่มโคราชโฉมใหม่จะได้รับเลือกตั้งกี่คน นางยลดา ชี้แจงว่า “ตนไม่มีสังกัด เป็นอิสระ การลงนายกอบจ.ครั้งนี้ ไม่ได้อยู่ในทีมใดทั้งสิ้น แต่หากผู้สมัครสมาชิก ส.อบจ. ไม่ว่าใครที่ได้มีโอกาสรับเลือกเข้าไปทำงาน ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ ทุกคนสามารถมาทำงานได้หมด พร้อมเปิดรับทุกคน และจะทำงานอย่างเต็มที่ ตั้งใจทำงานเพื่อพัฒนาโคราช เปลี่ยนโฉมใหม่ ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมตรวจสอบ ให้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมทำด้วยกัน ให้ประชาชนเป็นส่วนหนึ่ง เพราะเงินทุกบาทเป็นของประชาชน

สามีไม่มีส่วนทำให้ชนะ

สำหรับกรณีที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การที่สามีเป็นรัฐมนตรี มีผลต่อการได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ในครั้งนี้หรือไม่?  นางยลดาตอบสั้นๆ ว่า “ไม่มีผล เพราะเรามุ่งมั่นตั้งใจทำงานของเราตรงนี้ ไม่ได้มีผลใดๆ ทั้งสิ้น” 

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๕๕ วันพุธที่ ๒๕ เดือนพฤศจิกายน - วันอังคารที่ ๑ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓