เทศบาลนคร ๓ แห่งภาคอีสาน ชิงเก้าอี้กันดุเดือด ‘ขอนแก่น’ สุดงง ชื่อกลุ่มเหมือนกันชิงกันเอง ‘อุดรธานี’ มี ๓ ดร.มาเจอกันในสนามเลือกตั้ง หวังพิชิตเก้าอี้ ส่วน ‘อุบลราชธานี’ เข้มข้น ‘กลุ่มเพื่ออุบล’ ส่งรองนายกฯ หลายสมัยฟาดฟันกับลูกสะใภ้ ‘เกรียง กัลป์ตินันท์’ จากกลุ่มเพื่อไทยนครอุบล

การรับสมัครนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) วันแรกเมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ บรรยากาศแต่ละพื้นที่เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะในพื้นที่เทศบาลนครขนาดใหญ่ในภาคอีสาน ได้แก่ เทศบาลนครขอนแก่น เทศบาลนครอุดรธานี และเทศบาลนครอุบลราชธานี

รักพัฒนานครขอนแก่น’ชิงกันเอง

เริ่มจากเทศบาลนครขอนแก่น ในเวลา ๐๘.๓๐ น. ที่บริเวณสำนักงานเทศบาลนครขอนแก่น มีผู้สมัครนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลฯ ๔ คน ได้แก่ กลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น ภายใต้การนำของนายธีระศักดิ์ (นายกฯธี) ฑีฆายุพันธ์ อดีตนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น, กลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น นำโดยนายชัชวาล (รองโด่ง) พรอมรธรรม อดีตรองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ซึ่งเคยร่วมบริหารกับนายธีระศักดิ์ และเคยสังกัดในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งในครั้งนี้ชื่อกลุ่มยังเหมือนกันด้วย ๓.นายวสันต์ ชูชัย ทนายความ ซึ่งเคยลงสมัครมาแล้วในสมัยที่ผ่านมาแต่ไม่ประสบความสำเร็จ และ ๔.นายชานนท์ นาประเสริฐกูล ผู้สมัครอิสระ เมื่อมีการจับหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร ปรากฏว่า นายวสันต์ ชูชัย ได้หมายเลข ๑ นายชัชวาล พรอมรธรรม ได้หมายเลข ๒ นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ หมายเลข ๓ (ส.ท.หมายเลข ๗-๑๒) และนายชานนท์ นาประเสริฐกูล หมายเลข ๔ 

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ 

นายชัชวาล พรอมรธรรม 

สำหรับกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่นนั้น มีนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ อดีตรมช.คมนาคม เป็นหัวหน้ากลุ่ม และในสมัยที่ผ่านมา ภายใต้การบริหารของนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี ได้แต่งตั้งให้นายชัชวาล พรอมรธรรม เป็นรองนายกเทศมนตรีดูแลสำนักการศึกษา แต่ต่อมาขอลาออกจากตำแหน่ง และประกาศตัวจะลงสมัครชิงนายกเทศมนตรีฯ ด้วย โดยให้เหตุผลว่า มีแนวทางการทำงานไม่ตรงกัน

๓ ดร.ร่วมชิงเมืองอุดรฯ

ส่วนที่เทศบาลนครอุดรธานี ใช้สถานที่ภายในโรงเรียนเทศบาล ๖ เป็นสถานที่รับสมัคร ในวันแรกมี ๒ กลุ่มมาสมัคร ได้แก่ กลุ่มนครหมากแข้ง นำทีมโดย ดร.อิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ อดีตนายกเทศมนตรี จับได้หมายเลข ๑ และกลุ่มพลังอุดร นำทีมโดย นายวีระวัตร ไวทยานุวัตติ อดีตโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดอุดรธานี จับได้หมายเลข ๒ ซึ่งทั้งสองกลุ่มมีความมั่นใจเต็มร้อย และส่งส.ท.ลงสมัครครบทั้ง ๔ เขต 

ดร.อิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ หัวหน้ากลุ่มนครหมากแข้ง กล่าวว่า “ถ้าได้เข้าไปบริหารอีกจะทำงานทันที ทำอย่างต่อเนื่อง เพราะรู้และทราบปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเขตเทศบาลฯ กลุ่มนครหมากแข้งมีความพร้อม และยังมีโครงการใหญ่อีกที่จะทำต่อ การดูแลประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องดูแลต่อไป มั่นใจเต็มร้อย เพราะมีผลงานที่ได้ทำและทุ่มเทมานาน”

ดร.อิทธิพนธ์ ตรีวัฒนสุวรรณ

ดร.วีระวัตร ไวทยานุวัตร หัวหน้ากลุ่มพลังอุดร กล่าวว่า “ต้องการเปลี่ยนแปลงเมืองอุดร ที่ผ่านมาผู้ที่มีสิทธิไม่มาใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก ซึ่งน่าเป็นห่วง ตนในฐานะที่รับราชการมาตั้งแต่เทศบาล โยธาธิการและผังเมือง ระยะเวลาเกือบ ๓๐ ปี ถือว่ามีประสบการณ์แน่น ผลงานที่ภาคภูมิใจที่สุดคือ หนองประจักษ์ ที่ออกแบบไว้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ถนนเวนคืนบ้านโนน เส้นนี้ทำในสมัยเป็นโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด และศาลหลักเมืองที่ควบคุมงานเอง ขณะนี้มั่นใจเกินร้อย เพราะลงพื้นที่พบปะประชาชนมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๙ ทำให้เกิดกระแสต่อประชาชนว่า สมควรที่จะเปลี่ยนผู้บริหาร ผลงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไรเราก็รู้แต่พูดไม่ได้ ถ้าเลือกเข้าไปก็จะช่วย สู้ไม่ถอยเพราะถึงขณะนี้ ๔ ปี ๗ เดือนที่ลงพื้นที่ เรียกว่าไม่ทนแต่อึด”

ดร.วีระวัตร ไวทยานุวัตร

วันต่อมา “ดร.หรั่ง” หรือ ดร.ธนดร พุทธิรักษ์ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดอุดรธานี มาลงสมัครนายกเทศมนตรี ในนามกลุ่มรักษ์อุดร ได้หมายเลข ๓ โดยเน้นนโยบาย “เมืองแห่งโอกาส เมืองแห่งความสุขที่เราออกแบบเองได้” ซึ่งระบุว่า เมืองอุดรธานีมีอัตราการขยายตัวและความเจริญเติบโต ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นผลกระทบและปัญหาที่ตามมามีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เช่น ปัญหาน้ำท่วมขัง น้ำเน่าเสีย ปัญหาการจัดการขยะ ปัญหาเรื่องความปลอดภัยในชุมชน ระบบสาธารณูปโภค ที่ยังไม่ทั่วถึง ปัญหาด้านสังคม ปัญหาด้านเศรษฐกิจ และปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย นโยบายและแนวทางการพัฒนาเมืองของกลุ่มเรา จึงมีความเชื่อมั่นว่า การสร้างพื้นที่และเปิดโอกาสให้ตัวแทนจากทุกภาคส่วน ที่มีองค์ความรู้ที่หลากหลาย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาได้บริหารจัดการเมืองให้ตรงกับความต้องการของทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมกัน ปัญหาของเมืองที่ยุ่งยากซับซ้อน ก็จะง่ายขึ้น

ดร.ธนดร พุทธิรักษ์

เพื่อไทยอุบล’ท้าชนแชมป์เก่า

ด้านเทศบาลนครอุบลธานี ที่ห้องประชุมชั้น ๒ อาคารตลาดสดเทศบาล ๓ หรือตลาดใหญ่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี ซึ่งเป็นที่รับสมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกเทศบาลนครอุบลธานี ปรากฏมีผู้สมัครมารอยื่นใบสมัครลงแข่งขันก่อนเวลาเปิดรับสมัครในวันแรกจำนวน ๒ กลุ่ม โดยกลุ่มแรกที่มาถึงในเวลา ๐๗.๑๗ น. นำทีมโดยนางสาวพิศทยา ไชยสงคราม ลูกสะใภ้นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาลงสมัครในนามกลุ่มเพื่อไทยนครอุบล ซึ่งจับสลากได้หมายเลข ๑ และกลุ่มเพื่ออุบล นำทีมโดยนายประชา กิจตรงศิริ อดีตรองนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานีหลายสมัย ได้หมายเลข ๒ ลงสมัครแทนนางสาวสมปรารถนา (แอน) วิกรัยเจิดเจริญ ที่ลาออกจากนายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุบลราชธานี ไปลงสมัครเป็นนายก อบจ.เมื่อปี ๒๕๖๓ เพื่อรักษาพื้นที่ให้กลุ่มของตนต่อไป 

นางสาวพิศทยา ไชยสงคราม

สำหรับกลุ่มการเมืองทั้ง ๒ กลุ่ม มีการขับเคี่ยวในสนามเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ติดต่อกันมาหลายยุคหลายสมัย โดยผลัดกันครองที่นั่งฝ่ายบริหารและสมาชิกสภาเทศบาลนครอุบลราชธานี ฝ่ายเพื่อไทยนครอุบล นำโดยนางรจนา กัลป์ตินันท์ ภรรยานายเกรียง กัลป์ตินันท์ พ่ายแพ้ให้นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ ซึ่งเป็นคนของกลุ่มคู่แข่งเมื่อปี ๒๕๕๖ ทำให้การสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ ฝ่ายผู้ท้าชิงหรือเพื่อไทยนครอุบลส่ง น.ส.พิศทยา ไชยสงคราม ลูกสะใภ้นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงแข่งกับนายประชา กิจตรงศิริ อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุบลราชธานี ซึ่งเป็นฝ่ายป้องกันแชมป์ในการสู้ศึกครั้งนี้ในนามกลุ่มเพื่ออุบล

นายประชา กิจตรงศิริ 

ทั้งนี้ นโยบายหาเสียงทั้ง ๒ กลุ่ม ชูนโยบายต้องการสานต่อการพัฒนาเมือง โดยเฉพาะงานที่ได้ทำค้างไว้ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาตามริมแม่น้ำมูล แต่ที่เด่นคือการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัด ตามโครงการบ้านมั่นคงของ พอช. ซึ่งกลุ่มเพื่อไทยอุบลชูเป็นนโยบายเปลี่ยนชุมชนเสื่อมโทรมให้มีคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัยดีขึ้น

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๖๖ วันพุธที่ ๑๐ - วันอังคารที่ ๑๖ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๔