เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ที่ห้องประชุมรวงผึ้ง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราสีมา, นายสมเกียรติ  ตันดิลกตระกูล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นายวุฒิชัย วงค์ปัญโญ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด และนายตวงสิทธิ์ อภิชัยบุคคล รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ร่วมแถลงข่าวการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนหน่วยงาน องค์กร และประชาชน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-๑๙)

นางยลดา หวังศุภกิจโกศล เปิดเผยว่า “อบจ.นครราชสีมา ได้ให้การสนับสนุน ด้านต่างๆ แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มูลนิธิเพื่อการกุศลต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตั้งแต่เกิดการระบาดของ โควิด-๑๙ ระลอกใหม่ แยกเป็นห้วงเวลาตามความรุนแรงของสถานการณ์ ดำเนินการสนับสนุนชุดตรวจ Rapid Test จำนวน ๕,๐๐๐ ชุด เป็นเงิน ๒,๔๗๕,๐๐๐ บาท สำหรับตรวจหาเชื้อโควิด-๑๙ ให้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)นครราชสีมา เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙”

ได้รับมอบหมายภารกิจจากประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ให้ร่วมปฏิบัติภารกิจในการดำเนินการปรับปรุงอาคารสถานที่ โรงพยาบาลสนามจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ ๑ และแห่งที่ ๒ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ ต่อมาได้มีการทำ MOU ร่วมกันระหว่าง อบจ.นครราชสีมา กับ สสจ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ที่ผ่านมา การดำเนินการสนับสนุน ส่งเสริมระบบบริการด้านการสาธารณสุข เสริมสร้างสุขภาพประชาชน พร้อมส่งมอบเวชภัณฑ์ วัสดุการแพทย์ วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ จำนวน ๑๕ รายการ เป็นเงินทั้งสิ้น ๖,๗๐๓,๖๒๐ บาท ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา และคณะอนุกรรมการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ตอบโต้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ที่ได้มอบหมายให้ อบจ.นครราชสีมา เป็นผู้ร่วมดำเนินการ สนับสนุนวัสดุ เวชภัณฑ์ ในการควบคุมป้องกันโรค โควิด-๑๙ ใช้งบประมาณ ๑๕ ล้านบาท ส่งมอบไปแล้วเมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อใช้ในการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อการแพร่ระบาด และระงับการระบาดของโรคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังมี ภารกิจ “เราจะไม่ทิ้งกัน...พาชาวโคราชที่ป่วยโควิด-๑๙ กลับบ้าน”  ถือเป็นงานที่ค่อนข้างชัดเจน เพราะเราต้องจัดการขั้นตอนอย่างเป็นระบบและรัดกุม เป็นการประสานงานร่วมกับระหว่าง อบจ.นครราชสีมา มูลนิธิกู้ภัย โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่พบผู้ป่วยโควิด-๑๙ ซึ่งภารกิจนี้ ได้มอบหมายให้นายวีระชาติ ฯ และนายสมเกียรติ  ฯ รองนายก อบจ. ดำเนินการ สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมรถตู้รับ-ส่ง ผู้ป่วย เดินทางไปรับผู้ป่วยจากต้นทาง จากกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล ที่ขอความช่วยเหลือผ่าน Call center (๑๓๓๐) ขอกลับมารักษาตัวที่ จังหวัดนครราชสีมา รองฯวีระชาติ ได้ประสานผู้เกี่ยวข้องจนได้เตียงรักษา ต้องขอบคุณโรงพยาบาลที่ให้เตียงเพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้ารับรักษาอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ

ส่วนความคืบหน้าของการจัดซื้อวัคซีนชิโนฟาร์ม และการจัดสรรลงไปยังพี่น้องประชาชนนั้น แบ่งเป็น ๒ ระยะ ระยะที่ ๑ เป็นการจัดสรรให้กับภายในหน่วยงาน และส่วนราชการ ระยะที่ ๒ เป็นการจัดสรรสำหรับบุคคลทั่วไปที่ประสงค์ฉีดวัคซีนชิโนฟาร์ม หลังจากที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาได้ส่งหนังสือไปถึงราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขั้นตอนต่อมาเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งกำหนดให้เราลงทะเบียนภายในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ผ่านมา อบจ.ฯ ได้มีการลงทะเบียนไปแล้วเรียบร้อยพร้อมส่งเอกสารประกอบไปยังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณา สำหรับการได้รับการจัดสรร ขณะนี้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กำลังตรวจสอบเอกสารพร้อมกับดูในเรื่องของจำนวนวัคซีน เพราะองค์การบริหารส่วนจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ ได้เสนอขอรับการจัดสรรขอวัคซีนเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะได้รับการจัดสรรมาให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา ในเร็วๆ นี้

แต่ด้วยเงื่อนไขบางประการ ถึงแม้ว่าเอกสารจะส่งถึงราชวิทยาลัยแล้ว แต่ทางราชวิทยาลัยยังไม่ตกลงให้ อบจ.ฯ จองวัคซีน ที่สำคัญยังไม่มีหน่วยงานราชการใดได้รับการยืนยังว่าให้จองวัคซีนเลยแม้แต่หน่วยงานเดียว แต่หากมีการตกลงในการที่จะให้รับการจองวัคซีนได้นั้น ทางหน่วยงานต้องโอนเงินจำนวน ๕๐% ให้กับทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อเป็นค่าวัคซีน เมื่อโอนเงินไปแล้วคิดว่าไม่เกิน ๑ สัปดาห์ จะได้รับวัคซีนเพื่อมาฉีดให้กับพี่น้องประชาชน