คลัสเตอร์ห้างที่ปากช่อง ปกปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด ปล่อยเรื่องผ่านมาเกือบเดือนไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ ผู้ป่วยอ้าง ‘ห้างไม่ให้แจ้งว่าเป็นพนักงาน’ ด้าน “รองผู้ว่าฯ” สั่งสอบสวนผู้จัดการ เตรียมแจ้งความดำเนินคดี ย้ำ ถ้าพบผู้ป่วยโควิดต้องแจ้งทันที ล่าสุดสั่งปิด ๓ วัน

สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาในวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ได้รายงานสถานการณ์ในพื้นที่อำเภอปากช่อง ซึ่งระบาดหนักมากที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา พบผู้ติดเชื้อสะสม ๒,๙๙๘ ราย (ตัวเลขจากอำเภอปากช่อง) ณ วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ โดยส่วนใหญ่เป็นการระบาดในคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ เช่น คลัสเตอร์ตลาดเทศบาลเมืองปากช่อง คลัสเตอร์โรงงาน และคลัสเตอร์แคมป์คนงาน นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นพ.สมบัติ วัฒนะ รองนายแพทย์ สสจ.นครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ สสจ.นครราชสีมา ร่วมประชุม

นพ.ณรงค์ศักดิ์ บำรุงถิ่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปากช่องนานา รายงานสถานการณ์ที่อำเภอปากช่อง ว่า ตั้งแต่ปิดแคมป์คนงานในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ทำให้พบผู้ติดเชื้อในพื้นที่อำเภอปากช่องเพิ่มมากขึ้น โดยช่วงต้นเดือนสิงหาคม พบการระบาดมากที่สุด ซึ่งขณะนี้หากไม่มีการระบาดในคลัสเตอร์ใหญ่แทรกเข้ามา จะเป็นช่วงที่สถานการณ์กำลังดีขึ้น ขณะนี้ปากช่องมีผู้ป่วยสะสม ๒,๘๗๙ ราย หายป่วยแล้ว ๕๘๓ ราย ส่วนสถานการณ์การระบาดในตลาดเทศบาลเมืองปากช่อง ตั้งแต่วันที่ ๗ สิงหาคมเป็นต้นมา น่าจะควบคุมได้แล้ว เพราะไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่าปกติ ส่วนคลัสเตอร์แคมป์คนงานรถไฟความเร็วสูง ตั้งแต่วันที่ ๖ สิงหาคมเป็นต้นมา สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว มีการกำกับดูแลอย่างเข้มข้น ทำให้ไม่พบเการแพร่ระบาดที่รุนแรง ส่วนคลัสเตอร์โรงงานไม้กวาด ขณะนี้ก็ควบคุมสถานการณ์ได้แล้วเช่นกัน มีการ Seal ไว้ในโรงงาน ซึ่งโรงงานให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และสถานการณ์ที่ยังมีการระบาด คือ คลัสเตอร์ห้างค้าปลีกใหญ่ ตั้งแต่วันที่ ๑๒ สิงหาคม พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ทำการตรวจ Active case Finding ทั้งหมดแล้ว และจะให้ปิดห้างสรรพสินค้าในบ่ายนี้

“สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนในอำเภอปากช่อง ซึ่งมีประชากรทั้งหมดประมาณ ๒ แสนคน โดยมีเป้าหมายฉีดผู้ที่มีอายุ ๑๘ ปีขึ้นไป ๑๕๑,๙๑๐ คน ขณะนี้ฉีดไปแล้ว ๖๐,๗๘๙ โดส คิดเป็นร้อยละ ๓๐.๕๒ เป็นเข็มที่ ๑ จำนวน ๔๖,๓๖๖ โดส เข็มที่ ๒ จำนวน ๑๖,๐๖๗ โดส และเข็มที่ ๓ จำนวน ๑,๖๔๔ โดส โดยในสัปดาห์นี้จะฉีดเพิ่มอีกประมาณ ๑๐,๐๐๐ คน ซึ่งปากช่องมีศักยภาพฉีดได้วันละ ๗,๐๐๐ คน หากได้รับวัคซีนเข้ามาเพิ่มก็จะดำเนินการได้ทันที และที่สำคัญที่สุด ปากช่องกระจายวัคซีนไปฉีดตาม รพ.สต.เฉลิมพระเกียรตินิคมลำตะคอง ผลการฉีดเป็นไปอย่างเรียบร้อย และจากนี้ไปจะกระจายไปฉีดทุก รพ.สต.ในพื้นที่อำเภอปากช่องต่อไป” นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าว

อ.ปากช่องจัดการได้ดี

นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า “ต้องขอบคุณทุกคนในอำเภอปากช่อง ที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของคลัสเตอร์ต่างๆ ได้ ถึงแม้ว่าวันนี้ในภาพรวมของปากช่อง จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น แต่กลุ่มนี้ก็เป็นคนที่อยู่ในการควบคุมไว้แล้ว ไม่ได้เป็นการแพร่ระบาดแบบไร้ทิศไร้ทาง อีกทั้งศักยภาพการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ร้อยละ ๓๐.๕๒ ถือว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่าภาพรวมของจังหวัด และการกระจายวัคซีนสู่ รพ.สต.ต่างๆ ทำให้คนที่มีอาการป่วยและไม่สะดวกต่อการรับวัคซีน ได้เข้าถึงวัคซีนมากขึ้น ถือเป็นการจัดการอีกมิติหนึ่งที่จะทำให้ประชาชนในปากช่อง รับวัคซีนได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว”

คลัสเตอร์ห้างค้าปลีก

นางสาวทิพวรรณ ศรีทรมาศ นักระบาดวิทยา รายงานสถานการณ์คลัสเตอร์ห้างค้าปลีกใหญ่ในพื้นที่ว่า เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ผู้ติดเชื้อรายที่ ๓๐๙๗ เป็นผู้ติดเชื้อรายแรก ทำงานอยู่ในร้านอาหารไก่ย่าง โดยมีแม่ขายของอยู่ที่ตลาดเทศบาลปากช่อง จากนั้นวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ทราบว่า แม่ติดเชื้อโควิด-๑๙ ผู้ป่วยรายที่ ๓๐๙๗ จึงเดินทางไปตรวจหาเชื้อและเริ่มมีอาการ ในวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ส่วนผู้ติดเชื้อรายที่ ๕๗๒๔ เป็นผู้ติดเชื้อคนต่อมา มีภริยาและแม่ขายสินค้าอยู่ที่ตลาดสี่มุมเมือง วันที่ ๒๐ กรกฎาคม ภริยาและแม่ตรวจพบว่า ติดเชื้อโควิด-๑๙ ส่วนผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์นี้คนที่ ๓ เป็นหญิงอายุ ๒๙ ปี แฟนเดินทางมาอยู่ด้วยในวันที่ ๒๖-๒๗ กรกฎาคม จากนั้นทราบว่า แฟนติดโควิด-๑๙ จึงเดินทางไปตรวจ และขอไปรักษาที่จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อมาในห้างก็พบการระบาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากรายงานวันที่ ๑๗ สิงหาคม สสจ.ได้รับรายงานว่า คลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด ๓๐ ราย แต่จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด ๓๖ ราย

“จากการสอบสวนโรคผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์นี้ ในวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. ผู้ป่วยเล่าว่า ‘ทางห้างไม่ให้บอก ถ้าบอกหนูจะผิดหรือไม่’ ทีมสอบสวนโรคจึงตอบว่า เขารู้กันหมดแล้ว ผู้ป่วยจึงยอมเล่าให้ฟัง” นางสาวทิพวรรณ กล่าว

ติดเชื้อไม่แจ้ง

นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า “จากที่สังเกตการณ์ติดเชื้อภายในห้าง ส่วนมากชอบปล่อยให้มีการติดเชื้อ และให้หยุดงานไปรักษา เมื่อหายแล้วก็กลับมาทำงาน แต่ก่อนที่จะไปรักษานั้น ก็มีการแพร่เชื้อไปเรื่อย รายแรกของคลัสเตอร์นี้ เมื่อทราบว่าตัวเองป่วย มีการรายงานกับห้างหรือไม่ เมื่อผู้ป่วยรู้ตัวว่าป่วย ก็จะต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ห้างจะต้องรับรู้หรือไม่ ถ้าวันที่ ๒๒ กรกฎาคม เข้ารักษาที่โรงพยาบาล เมื่อห้างทราบแล้วทำอย่างไรต่อ หรือทำแบบเสี่ยงดวง ผมว่าอำเภอปากช่องต้องมีมาตรการที่ชัดเจน เมื่อทราบว่าติดเชื้อแล้วต้องรีบแจ้ง ไม่ใช่พยายามเก็บไว้ แล้วรอให้หายป่วยกันเอง อีกทั้งยังเปิดให้บริการหน้าตาเฉย ต้องสอบสวนอีกว่า ร้านที่มีผู้ติดเชื้อรายแรก เมื่อมีผู้ป่วยแล้วปิดร้านหรือไม่ หรือให้ทำงานกันต่อ ถ้าพบว่า มีการปกปิดข้อมูล ต้องแจ้งให้อำเภอดำเนินการ เรื่องนี้ถือเป็นการปกปิดข้อมูล ถ้ารู้ว่าติดเชื้อแล้วต้องแจ้ง อย่าลืมว่า ที่จังหวัดอนุญาตให้ขายเฉพาะร้านอาหารในห้าง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน แล้วประชาชนก็จะต้องไปซื้อไปสั่ง เพราะไม่มีที่ใดเปิด ดังนั้นผู้จัดการร้านต้องรับผิดชอบ”

ห้ามพนักงานพูดความจริง

เจ้าหน้าที่อำเภอปากช่อง กล่าวว่า “กรณีคลัสเตอร์ในห้าง อำเภอปากช่อง ไม่มีการแจ้งเข้ามายังอำเภอ ซึ่งมีพนักงานบางคนมีอาการในวันที่ ๒ สิงหาคม และเดินทางไปตรวจหาเชื้อ เมื่อตรวจแล้วก็ไปกักตัวที่หอพัก ซึ่งอำเภอทราบเรื่องเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (๑๔ สิงหาคม)”

นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา กล่าวว่า “ให้นายอำเภอหรือปลัดอาวุโส ลงพื้นที่ไปตรวจสอบผู้จัดการ ในประเด็นว่า เมื่อทราบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-๑๙ ทำไมไม่รายงาน ผมขอฝากไปถึงทุกอำเภอ ขอให้ตรวจสอบข่าวภายในให้ดี บางครั้งเมื่อมีการติดเชื้อในลักษณะนี้จะไม่ยอมให้ข่าว”

นางสาวทิพวรรณ ศรีทรมาศ กล่าวเสริมว่า “จากการสอบถามพนักงานที่ติดเชื้อบอกว่า ห้างไม่ให้แจ้งว่าเป็นพนักงานของที่ใด ทำให้โรงพยาบาลไม่ทราบว่าคนไข้เป็นกลุ่มพนักงานห้างแห่งนี้ ทำให้อำเภอปากช่องตรวจสอบได้ช้า”

นายศักดิ์สิทธิ์ กล่าวว่า “อำเภอลงไปสอบผู้จัดการ แล้วให้แจ้งความฐานปกปิดข้อมูล การทำแบบนี้เป็นอันตรายต่อสาธารณะและประชาชน ถ้าบอกแต่แรก ก็จะแก้ปัญหาได้เร็ว แล้วท่านก็จะไม่เสียหาย แต่เมื่อแจ้งมาช้า ผ่านมา ๑ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑๘ กรกฎาคม ตรวจพบวันที่ ๒๒ กรกฎาคม แล้วไม่ยอมบอกว่าเป็นพนักงานอีก ถ้าเรารู้ปัญหา ทราบปัญหา ก็จะสามารถแก้ไขได้เร็วที่สุด และควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ ห้างก็เสียหาย คนปากช่องก็เสียหาย เพราะช้า โดยไม่บอกข้อมูลที่ชัดเจน ต่อไปเมื่อมีข่าวกระซิบ ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทันที เพราะข่าวเหล่านี้ไว และส่วนใหญ่จะจริง หากเข้าถึงปัญหาไวก็จะแก้ไขได้ไว”

ปิดห้าง ๓ วัน

ต่อมามีคำสั่งอำเภอปากช่องให้ปิดทำการห้างค้าปลีกแห่งนี้เป็นเวลา ๓ วัน นับแต่วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๔ เวลา ๐๘.๐๐ น. ถึงวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๔ เวลา ๐๘.๐๐ น.

นสพ.โคราชคนอีสาน  ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๖๙๒ วันพุธที่ ๑๘ - วันอังคารที่ ๒๔ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔