September 04,2021
ศูนย์ดำรงธรรมอุบลสั่ง‘รฟท.’ แจงยอดค่าเช่าชุมชนลับแล
ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี สั่ง รฟท.แสดงเอกสารขึ้นค่าเช่าเรียกเก็บกับชาวชุมชนลับแล ซึ่งปู่ย่าเป็นกรรมกรก่อสร้างทางรถไฟมาถึงจังหวัดเมื่อ ๙๐ ปี เพื่อความเป็นธรรมกับลูกหลานผู้ทำประโยชน์ให้ รฟท.ในอดีต
จากกรณีชาวชุมชนลับแลที่พักอาศัยในที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ริมสถานีรถไฟอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ถูก รฟท.เรียกเก็บค่าเช่าที่แพงกว่าสัญญาที่ทำไว้ ทำให้บางครอบครัวถูกเรียกเก็บตั้งแต่ ๕๐,๐๐๐-๓๐๐,๐๐๐ บาท และให้หยุดฟ้องไล่ที่กับชาวชุมชนไว้ก่อนนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ นายวีรภัทร วิริยเสนกุล ปลัดอำเภอในฐานะตัวแทนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวารินชำราบ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนชาวชุมชนลับแล และ รฟท.ร่วมกันหารือในเรื่องดังกล่าว พบสาเหตุที่ทำให้ค่าเช่าสูงกว่าปกติ เนื่องจาก รฟท.โดยกองจัดการเดินรถเขต ๒ ที่ดูแลพื้นที่มีการเรียกเก็บค่าเช่าในอัตราก้าวหน้าจากเดิมคิดตารางวาละ ๗ บาท เป็น ๔๒ บาท ซึ่งชาวชุมชนไม่เคยทราบเรื่องการเรียกเก็บค่าเช่าอัตราใหม่นี้มาก่อน
คณะกรรมการจึงมีมติให้กองจัดการเดินรถเขต ๒ และสถานีรถไฟจังหวัดอุบลราชธานี ประชุมหาข้อยุติกับตัวแทนชาวชุมชนลับแลเกี่ยวกับอัตราค่าเช่าใหม่ และระหว่างนี้ ให้ รฟท.หยุดการดำเนินคดีใดๆ กับชาวชุมชนที่อาศัยสืบทอดกันมานับร้อยปีไว้ก่อน จนกว่าจะได้ข้อยุติ
สำหรับชุมชนแห่งนี้ มีจำนวน ๒๔๐ ครอบครัว ประชากร ๒,๒๗๐ คน โดยเป็นลูกหลานของกรรมกรที่มาบุกเบิกสร้างทางรถไฟเมื่อปี ๒๔๗๔ หรือเมื่อ ๙๐ ปีก่อน จึงได้พักอาศัยอยู่ในจุดนี้สืบทอดกันมา เพราะถือเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทยมาก่อน กระทั่งเมื่อ ๔๐ ปีก่อนมีการทำสัญญาเช่าที่อยู่อาศัยกับการรถไฟแห่งประเทศไทย และบางส่วนขอยื่นออกเป็นโฉนดชุมชน เพื่อความมั่นคงในที่อยู่อาศัย ก่อนถูกเรียกเก็บค่าเช่าใหม่ในอัตราก้าวหน้าดังกล่าว
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๖๙๔ วันพุธที่ ๑ - วันอังคารที่ ๗ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
72 1,630