26thDecember

26thDecember

26thDecember

 

October 25,2021

“แบงก์” กฤษณภัทร มหาปิติ กับความสำเร็จของ “บ้านขนมคุณภัทรา” และก้าวสู่ ธุรกิจใหม่ Beef Factory

เคยตั้งคำถามกับตัวเองเวลาเดินทางไกลไปต่างจังหวัด แล้วต้องแวะพักดื่มกาแฟขมๆ กับทานขนมหวานๆ ว่า ทำไมจึงเห็นขนมแบรนด์นี้วางจำหน่าย ขนมเดินทางมาไกลขนาดนี้เชียวหรือ? ทั้งที่บางอย่างเป็นขนมที่เพิ่งทำสดใหม่ไม่นานนัก แต่กลับมาเรียงรายอยู่บนตู้ละลานตาให้เราเลือกซื้ออย่างหลากหลาย 

แน่นอนว่า ถ้าเป็นในพื้นที่ “โคราช” หรือ “ขอนแก่น” จะไม่แปลกใจสักนิด เพราะ “บ้านขนมคุณภัทรา” หรือ “Patra” มีโรงงานและหน้าร้านในพื้นที่นี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะศูนย์จำหน่ายของฝากที่ “อำเภอบ้านไผ่” ถือว่าเป็นแห่งแรกที่ทำให้ได้รู้จัก “บ้านขนมคุณภัทรา” ที่เป็นทั้งศูนย์จำหน่ายของฝาก ร้านอาหาร และร้านกาแฟ รวมทั้งสาขาใหม่ล่าสุด “สาขาสีคิ้ว” ริมถนนมิตรภาพขาเข้ากรุงเทพฯ ใหญ่โตโอ่อ่า สวยงาม เป็นทั้งศูนย์จำหน่ายของฝาก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และสถานที่ท่องเที่ยวในแหล่งเดียวกันบนพื้นที่อันกว้างใหญ่ริมเขา ชวนให้หยุดเพื่อพักผ่อนคลายยิ่งนัก

กว่าจะมาเป็น “บ้านขนมคุณภัทรา” ได้ในทุกวันนี้คงไม่ง่ายนัก ต้องเผชิญอะไรมาบ้าง และกลายเป็นธุรกิจร้อยล้าน (เอ๊ะ...หรือว่าพันล้านแล้ว) ได้อย่างไร และธุรกิจใหม่ล่าสุดของเขาไปได้ดีเพียงใด “โคราชคนอีสาน” มีโอกาสได้พูดคุยกับ “แบงก์” กฤษณภัทร มหาปิติ กรรมการผู้จัดการ บ้านขนมคุณภัทราและเจ้าของร้าน Beef Factory ซึ่งเป็นทั้งร้านขายเนื้อพรีเมี่ยมและร้านอาหารด้วย ตั้งอยู่แถวถนนสุระ ๒ โดยตลอดเวลาการพูดคุยนั้นเป็นไปด้วยความเป็นกันเอง 

  • หนุ่มโคราชแท้ๆ

หลายคนคงคิดว่า “คุณแบงก์” เป็นหนุ่มขอนแก่น แต่เขาบอกว่า “บ้านเกิดผมอยู่โคราช เกิดที่บ้านคุณแม่ แถว บขส.เก่า” แต่ตอนอายุ ๒ ขวบ ก็ย้ายตามคุณพ่อคุณแม่ไปกรุงเทพฯ ใช้ชีวิต เติบโต และเรียนที่กรุงเทพฯ จนจบมหาวิทยาลัย โดยครอบครัวทำธุรกิจการ์เมนต์หรือธุรกิจเครื่องนุ่งห่ม เป็นธุรกิจเล็กๆ เช่าตึกแถว เพียงสองห้อง มีเครื่องจักรอยู่ไม่กี่เครื่อง ซึ่งในขณะนั้นทำอะไรได้ไม่ค่อยมาก เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด กระทั่งมีลูกน้องคนหนึ่งเป็นคนขอนแก่นมาบอกว่า ที่หมู่บ้านเขามีแรงงานเยอะ จึงตัดสินใจย้ายธุรกิจไปที่ขอนแก่น แต่ก็ต้องประสบกับวิกฤตทางเศรษฐกิจ ครอบครัวต้องขายกิจการการ์เมนต์ เพื่อปลดหนี้กว่า ๓๐ ล้านบาท แต่ก็ยังไม่ได้ทั้งหมด เหลือประมาณ ๑๐ ล้านบาท จึงมานะพยายามอย่างเต็มที่ ปลดหนี้ไปทีละอย่างจนหมดในที่สุด ซึ่งเรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ ๒๐ ปีที่แล้ว ธุรกิจการ์เมนต์ไปต่อไม่ได้ เป็นช่วงที่ คุณแบงก์เรียนจบ ประกอบกับมีความสนใจการทำอาหาร ทำขนมอยู่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ขณะนั้นครอบครัวไม่ค่อยมีเงินทุนมากนัก จึงตัดสินใจเปิดร้านกาแฟเล็กๆ โดยเช่าร้านขนมที่อยู่ไกลจากตัวเมืองขอนแก่น ใช้เครื่องทำกาแฟและตู้แช่ขนมมือสอง ทำขนมเองภายในบ้าน เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุน แต่ขายไม่ค่อยดี จึงตัดสินใจปิดกิจการและเลิกเช่าร้าน หันมาทำขนมฝากขายตามร้านต่างๆ ส่งขนมให้ลูกค้าตามปั๊มน้ำมัน ตามริมถนนแทน โดยเริ่มจาก “ขนมบัวหิมะ” สูตรของคุณแม่ (ภัทราวดี มหาปิติ) 

  • “ขนมบัวหิมะ” จุดกำเนิดบ้านขนมคุณภัทรา

“ขนมบัวหิมะเป็นขนมที่คุณแม่ทำให้ทานมาตั้งแต่เด็ก เมื่อมาเปิดร้านขนมเลยลองทำมาขายด้วย และในช่วง ๑-๒ ปีแรก ขายดีมากทำให้สามารถนำขนมอื่นๆ ไปฝากขายตามร้านขนมได้ด้วย ‘ขนมบัวหิมะ’ ไม่มีใครทำและแตกต่างจากที่อื่น เป็นเหมือนกลยุทธ์ของบ้านขนมคุณภัทรา ถ้าผมเริ่มจากการทำเบเกอรี่ ขนมเค้ก ซึ่งถือว่าเป็นขนมที่มีอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป ก็อาจจะไม่สามารถนำขนมไปฝากขายที่อื่นได้ แต่เมื่อเป็นขนมบัวหิมะ ไม่เหมือนใคร แปลกใหม่จึงนำไปฝากขายตามร้านอื่นๆ ได้” 

  • เริ่ม “บ้านขนมคุณภัทรา” ที่บ้านไผ่ 

หลังจากที่คุณแบงก์ตัดสินใจเลิกเช่าร้านกาแฟในปีแรก ก็เริ่มหันมาขายส่งแทน โดยจะนัดส่งขนมลูกค้าริมถนน ตามปั๊มน้ำมันโดยเขาทำเองทั้งหมด เมื่อลูกค้าติดใจเริ่มมาถามหาหน้าร้านมากขึ้นจึงตัดสินใจเปิดร้านบ้านขนมคุณภัทราที่อำเภอบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น “ผลตอบรับดีมาก แต่ลูกค้าไม่มีที่จอดรถ” เนื่องจากตรงนั้นพื้นที่ไม่ได้ กว้างมากนัก มีที่จอดรถยนต์เพียง ๑๕ คัน ในทุกเทศกาลรถก็จะแน่น 

  • ขยายความยิ่งใหญ่สู่สาขาสีคิ้ว 

จากนั้นใน ๕ ปีต่อมา จึงมองหาทำเลเพื่อเปิดสาขาใหม่ในจังหวัดอื่น เลือก “นครราชสีมา” บ้านเกิด กว่าจะได้ที่ดินที่เหมาะสมก็ใช้เวลาเกือบปี โดยต้องอยู่ริมถนนมิตรภาพ แต่แถบอำเภอปากช่องมีร้านขายขนมขายของฝากอยู่แล้วหลายแห่ง และราคาที่ดินค่อนข้างสูง จึงเลือก “อำเภอสีคิ้ว” ที่เป็นจุดตัดของถนน ๒๔ กับถนนมิตรภาพ (ทล.๒) บนพื้นที่ประมาณ ๑๔ ไร่ ในราคา ๓๐ ล้านบาท และกลายมาเป็น “บ้านขนมคุณภัทรา สาขาสีคิ้ว” มีพื้นที่กว้างขวาง เป็นจุดพักรถ ศูนย์อาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของฝาก และยังมีฟาร์มสาธิตผักไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponic) เลี้ยงสัตว์ รวมทั้งยังเป็นสนาม ATV ไว้บริการลูกค้าและนักท่องเที่ยวได้แวะผ่อนคลาย ทำกิจกรรม สนุกๆ กับครอบครัว

แต่กว่าจะเป็น “สาขาสีคิ้ว” ในทุกวันนี้ คุณแบงก์บอกว่า “ใช้เวลาถึง ๒-๓ ปี ลูกค้าถึงรู้จัก เหนื่อยมากกับการทำให้ลูกค้ารู้จัก เพราะอยู่นอกเมือง การที่ลูกค้าจะกลับมาซื้ออีกรอบเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะไม่ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ บ่อยๆ” แต่ที่สุดแล้วก็ประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักมากขึ้น มีฐานลูกค้ากว้างขึ้น เพราะส่วนใหญ่จะทราบว่าตรงนี้เป็นจุดพักรถ มีลูกค้าแวะประจำ และมีลูกค้าประจำกลับมาซื้อตลอด

เนื่องจากบ้านเกิดอยู่โคราช เมื่อมีโอกาสก็อยากมาช่วยพัฒนาให้โคราชบ้านเกิด “มีความพร้อมก็อยากมาทำอะไรให้เกิดประโยชน์กับโคราชบ้านเรา” คุณแบงก์ยังเล่าอีกว่า ไปเจอลูกค้าคนหนึ่งอยู่ๆ ก็พูดว่า “เขาแวะร้านขนมตรงนี้ (สีคิ้ว) เป็นประจำ จุดพักรถตรงนี้ช่วยยกระดับถนนมิตรภาพ ทำให้ดูดีขึ้นมาก” ซึ่งคุณแบงก์ฟังแล้ว  ใจชื้น มีกำลังใจในการทำงานขึ้นอีกเยอะ

  • พัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพต่อเนื่อง

ในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์นั้น “บ้านขนมคุณภัทรา” ทั้งพัฒนาสูตรขนม และผลิตขนมให้หลากหลายชนิดมากขึ้น โดยมีขนมที่เป็น ‘โปรดักส์แชมเปี้ยน’ ของร้านเพิ่มเติมเข้ามานอกจากบัวหิมะ คือ เค้กกล้วย ขนมปังลาวา (ใบเตย ชาไทย ช็อกโกแลต) ซึ่งขนมปังลาวานับเป็นสินค้าขายดีมาก เป็นขนมที่ไม่สามารถฝากขายที่อื่นได้มีขายเฉพาะหน้าร้านของเราเท่านั้น เนื่องจากว่าขนมมีอายุค่อนข้างสั้นถ้าลูกค้าอยากกินต้องมาซื้อที่ร้าน ผลิตแบบสดใหม่วันต่อวัน

  • ผลตอบรับ

“ผลตอบรับก็ค่อนข้างดีทุกสาขา ลูกค้าติดใจขนมบางอย่างที่หาซื้อจากที่อื่นไม่ได้ ต้องมาซื้อที่หน้าร้านของเราเท่านั้น เช่น ขนมปังลาวา หรือไม่ว่าจะเป็นสินค้าตัวอื่นๆ เพราะทางร้านไม่ได้ขายแค่ขนมของเรา ที่ร้านจะมีของฝากที่เราคัดมาอย่างดีจากแหล่งต่างๆ มาขายที่ร้านด้วย ส่วนขนมเราก็คัดวัตถุดิบมาอย่างดี ออกมาจากความตั้งใจทุกขั้นตอน จึงอร่อย” 

เพราะผู้ชายคนนี้กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงและทำอะไรใหม่ๆ ใช้กำลังและแรงที่ตัวเองมีอยู่ ทำทุกอย่างด้วยตัวของเขาเอง ตั้งแต่แบกลังขนมจนถึงการนำขนมไปเสนอขายในที่ต่างๆ แล้วเขาค่อยมาสอนลูกน้อง และทำในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น “เมื่อก่อนร้านขนมจะไม่ค่อยกล้าโชว์การผลิต เมื่อ ๑๐ ปีที่แล้วที่สาขาบ้านไผ่ ผมทำเป็นช่องให้มองเห็นการผลิตขนม เพื่อให้ลูกค้าได้มองเห็นถึงกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐาน สะอาด ให้เกิดความมั่นใจในเรื่องคุณภาพของขนมคุณภัทรา” 

  • เป้าหมายและการขยายตลาด

ปัจจุบัน “ขนมคุณภัทรา” มีวางจำหน่ายที่ Cafe Amazon กว่า ๓,๐๐๐ สาขาทั่วประเทศ, 7-Eleven, Lotus และ CJ Express เป็นต้น โดยภายในปีนี้จะมีขายที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อขยายเส้นทางในภาคใต้ด้วย ส่วนหน้าร้านนั้นในโคราชปัจจุบันมี ๕ สาขา คือสาขาใหญ่ที่ อ.สีคิ้ว มีสาขาเล็กตามปั๊มน้ำมันรอบเมืองโคราช ๔ แห่ง ส่วนที่ขอนแก่นมี ๓ สาขา คือสาขาบ้านไผ่ สาขาในเมือง และสนามบินขอนแก่น นอกจากนี้ ยังเป็น OEM ให้กับบริษัทมหาชนอีก ๒ แห่งด้วย

สำหรับอนาคตของบ้านขนมคุณภัทรา คุณแบงก์บอกว่า “การขยายสาขาคิดว่าคงไม่เปิดศูนย์ใหญ่เหมือนสาขาสีคิ้ว แต่จะเปิดร้านเล็กๆ ตามเส้นทางในจังหวัดต่างๆ แทน อาจจะมีเปิดแฟรนไชส์ประจำจังหวัด ถ้าทุกอย่างลงตัว ปัจจุบันเราได้พัฒนาหลายอย่างในร้านรวมทั้งพัฒนาสูตรขนมให้สมบูรณ์แบบขึ้นไปอีกด้วย”

  • การคัดสินค้าอื่นเข้ามาขายในร้าน

คุณแบงก์บอกว่า ต้องมีคุณภาพและอายุสินค้าต้องผ่านมาตรการของทางร้าน “ถ้าเป็นสินค้าของชาวโคราชจะพิจารณาเป็นพิเศษ เพราะอยากช่วยสนับสนุนผลิตภัณฑ์ SME และ OTOP โคราช” ส่วนสินค้าและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่นำมาขายในร้านบ้านขนมคุณภัทรานั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากที่คุณแบงก์เดินทางหาที่ส่งขนมมามากกว่า ๑๐ ปี ทำให้ได้เจอของอร่อยที่เป็นของดีประจำถิ่นต่างๆ จึงคัดมาขายที่ร้าน โดยใช้ระบบโลจิสติกส์ของบ้านขนมคุณภัทรานำมาส่งถึงหน้าร้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งเพิ่ม

  • ผลกระทบช่วงโควิด-๑๙

บ้านขนมคุณภัทราคงจะเป็นธุรกิจที่น่าจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เนื่องจากมีช่องทางการขายค่อนข้างหลากหลาย ทั้งขายหน้าร้าน ส่งตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ และช่องทางอื่นๆ “แม้ยอดขายหน้าร้านหายไปค่อนข้างเยอะประมาณ ๕๐-๖๐% แต่เราได้ในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มขึ้นมา ส่วน Cafe Amazon ก็ลดลงกว่า ๒๐%” แต่ก็ยังทำให้คุณแบงก์สามารถประคองธุรกิจได้ และถือว่าไม่กระทบมากนัก

  • จุดเริ่มต้น Beef Factory

มาถึงธุรกิจใหม่ล่าสุดคือ Beef Factory ร้านขายเนื้อคุณภาพพรีเมี่ยม เกิดขึ้นจากเมื่อประมาณ ๒ ปีแล้ว คุณแบงก์ไปอบรมหลักสูตรธุรกิจที่กรุงเทพฯ และได้รู้จักกับเพื่อนที่ทำโรงงานแปรรูปเนื้อส่งตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของญี่ปุ่นคือห้างดองกี (Donki) รวมทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น พรีเมี่ยมต่างๆ จึงเริ่มขึ้นโดยการสั่งเนื้อมาทานเองแล้วรู้สึกชอบและอยากนำมาขาย เริ่มนำเนื้อไม่กี่ชนิดมาทดลองขายในร้านบ้านขนมคุณภัทรา และมองเห็นโอกาส เนื่องจากยังไม่มีร้านขายเนื้อพรีเมี่ยมราคาไม่แพงในโคราช จากนั้นจึงเปิดร้าน Beef Factory ขึ้นมา เพียงเพราะว่า “ผมอยากให้คนโคราชได้ทานเนื้อพรีเมี่ยมในราคาไม่แพง” 

ผลตอบรับของ Beef Factory ค่อนข้างดีมาก เนื่องจากเปิดในช่วงโควิด-๑๙ เป็นช่วงที่ร้านอาหาร เปิดไม่ได้ คนส่วนมากก็จะทำอาหารทานเองที่บ้าน แล้วอยากทานเนื้อดีๆ อร่อยๆ ทาง Beef Factory ก็ใช้โอกาสนี้ โดยให้แนะนำการทำเนื้อในแต่ละส่วน และมีซอสขายด้วย เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำกลับไปทำทานเองที่บ้านได้ ซึ่งที่ Beef Factory มีเนื้อหลากหลายแบบ เช่น เนื้อสไลด์ชาบู ยากินิคุ เนื้อสเต็ก เรียกได้ว่ามีครบครันเนื้อนำเข้าตามความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังเปิดเป็นร้านอาหารด้วย ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกเนื้อจากที่ร้านมาให้ ทำเป็นเมนูต่างๆ ได้ตามต้องการ มีเชฟที่ถนัดอาหารอิตาเลียนมาคอยให้บริการพร้อมปรุงเมนูที่หลากหลาย

“ผมมองว่า อ.เมือง จะมีลูกค้าที่จะเป็นกลุ่มเป้าหมายของ Beef Factory มากกว่า เพราะเนื้อของเราจะมีราคาสูงกว่าเนื้อที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป และผมมองว่าในอนาคตถนนเส้นนี้จะต้องเป็นถนนเศรษฐกิจ แถวนี้หมู่บ้านจัดสรรเกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก ลูกค้าน่าจะมีกำลังซื้อ และยังเป็นการลงทุนทางธุรกิจของผมที่ไม่สูงเกินไปด้วย”

  • ผลิตภัณฑ์ของ Beef Factory

 

มีเนื้อหลายแบบตั้งแต่เนื้อวากิว A3-A4 เนื้อนำเข้าจากออสเตรเลีย และมีเนื้อโคขุนโพนยางคำ (ไทยเฟรนช์) คุณแบงก์บอกอีกว่า “ตอนนี้พูดคุยกับฟาร์มเนื้อวากิวโคราชอยู่หลายเจ้า เพราะผมอยากนำเนื้อในโคราชมาเป็นจุดขายด้วย” และเร็วๆ นี้ทางร้านกำลังจะนำเข้าเนื้อ US มาเพิ่ม ลูกค้าสามารถมั่นใจในคุณภาพเนื้อของทางร้านได้เพราะเจ้าของร้านคัดสรรทุกอย่างเอง “Beef Factory เป็นแหล่งรวมเนื้อพรีเมี่ยมทั้งในและต่างประเทศ” ขายปลีกและขายส่งตามร้านอาหารต่างๆ ทั้งร้านสเต็ก และร้านชาบูปิ้งย่าง รวมไปถึงมีบริการส่งลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดด้วย

คุณแบงก์การันตีว่า “สินค้าทุกอย่าง ทุกผลิตภัณฑ์ภายในร้านทั้งที่บ้านขนมคุณภัทรา และ BeeF Factory ผมจะเป็นคนดูแลเองทั้งหมด เริ่มจากการรับประทานเองก่อน แล้วค่อยคัดสรรสิ่งที่ดีเข้ามาขาย เพื่อให้ทุกคนที่มาอุดหนุนได้ทานของที่มีคุณภาพ สินค้าทุกอย่างที่เลือกมาขายจึงกล้ารับประกันคุณภาพ อยากฝากถึงคนโคราชว่า ให้มาลองด้วยตัวเองว่า ดีหรือไม่ดีแล้วบอกต่อ ผมเชื่อว่าลูกค้าทุกคนที่ได้มาลองสินค้าของเราต้องชอบในคุณภาพและรสชาติของสินค้าแน่นอนครับ”

  • บทบาทกรรมการหอการค้าฯ

ปัจจุบัน “คุณแบงก์” ได้รับเลือกเป็นคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับการทาบทามจากคุณศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ (ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา) ให้ลงสมัครกรรมการหอการค้าในฐานะสามาชิกต่างอำเภอ “ช่วงนั้นผมมองว่าธุรกิจที่ผมดูแลค่อนข้าง จะอยู่ตัวแล้ว มีเวลาจะมาทำอะไรใหม่ๆ คิดอะไรใหม่ๆ” จึงนำประสบการณ์ที่พบจากหลายๆ ที่ มาช่วยพัฒนา เสนอแนวคิด ลงมือลงแรงทำ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลข้อมูลทางเศรษฐกิจ

“รู้สึกเป็นเกียรติที่ผู้ใหญ่มองเห็นความสามารถและให้โอกาสได้ลองทำงาน ในส่วนของกิจกรรมต่างๆ ถ้าได้รับมอบหมายผมไม่เคยปฏิเสธพร้อมทำทุกอย่าง ช่วงโควิดที่ผ่านมาอาจจะทำอะไรได้ไม่ค่อยมากนัก เป็นการประชุมออนไลน์ซะส่วนมาก ผมพยายามที่จะต่อสู้ พร้อมที่จะผลักดัน บางทีกฎระเบียบจากส่วนกลางมา ถ้าเห็นว่าโคราชเสียเปรียบผมก็พยายามต่อสู้ ผลักดัน บางทีได้เจอผู้ใหญ่ในจังหวัด ผมก็จะพูดกับท่านเลยว่าพอที่จะผ่อนผันให้เขาได้ไหม ผมอยากช่วยผู้ประกอบการทั้งหลาย เนื่องจากว่านักธุรกิจที่โคราชได้รับผลกระทบเรื่องโควิด-๑๙  เยอะมาก ที่ผ่านมาโคราชเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม จึงอยากให้ปลดโคราชลงมาจากพื้นที่สีแดงเข้ม เพราะปัจจุบันมีหลายจังหวัดในภาคอีสานมีสถิติผู้เสียชีวิตมากกว่าโคราชด้วยซ้ำ”

ฝากข้อคิดถึงนักธุรกิจในช่วงโควิด

“ผมอยากให้วิเคราะห์ตัวเราเองด้วย นอกจากการวิเคราะห์สถานการณ์ภายนอกที่กำลังเกิดขึ้น เราควรจะวิเคราะห์ภายในเราเองด้วยว่า ศักยภาพเรา สายป่านเราไปได้อีกไกลแค่ไหน ดีสุดไปได้แค่ไหน แย่สุดเราจะมีทางออกอย่างไร แล้วก็คาดการณ์ว่าผู้ติดเชื้อทั้งภายในจังหวัดและภายในประเทศมีแนวโน้มไปทางไหน เพื่อวางแผนอนาคตว่าควรจะทำต่อไหม หรือควรหยุดไว้แค่นี้ก่อน เพื่อรักษาทุนของตัวเอง ซึ่งในส่วนของหอการค้าฯ มีการให้คำปรึกษาหลายด้าน เพื่อสนับสนุนอยู่แล้ว ถ้าผู้ประกอบการท่านใดต้องการก็มาขอปรึกษาได้ จะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการและสนับสนุน” 

ท้ายสุดคุณแบงก์ บอกว่า “ผมทำธุรกิจที่ทำแล้วทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ไม่ได้หวังผลกำไรสูงสุด แต่คำนึกถึงประโยคที่ส่วนรวมจะได้รับด้วย เราไปอยู่ที่ไหนก็อยากทำประโยชน์ให้ที่นั่น เราไปอยู่ตรงไหนอยากให้ท้องถิ่นชุมชนนั้นได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งการบริจาคหรือการนำความรู้ความสามารถทำให้เกิดประโยชน์กับสังคม” 

 

• ทีมข่าวโคราชคนอีสาน

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๐๐ วันพุธที่ ๒๐ เดือนตุลาคม - วันอังคารที่ ๒ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔

 

176 2,434