“นกแอร์” วางแผนถลาบินจากโคราชสู่เชียงใหม่ หาดใหญ่ หรือภูเก็ต กลางปีหน้า หวังอำนวยความสะดวกการเดินทาง ผอ.ท่าอากาศยานพร้อมต้อนรับ ด้านประธาน หอการค้าฯ ระบุเรื่องเวลา ราคา และขนาดเครื่องบินต้องเหมาะสมสอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสาร และย้ำสนามบินไม่ได้อยู่ไกลเมือง ปลื้มเศรษฐกิจโคราชปลายปีคึกคัก ห้องพัก โรงแรมถูกจองยาวถึงปีใหม่

ตามที่บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) นำโดยนายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารได้นำเสนอแผนฟิ้นฟูกิจการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมระบุแผนการบินเส้นทางในประเทศโดยเฉพาะในเมืองรองต่างๆ โดยมีเส้นทางบินในจังหวัดนครราชสีมารวมอยู่ด้วยนั้น ในช่วงกลางปี ๒๕๖๕ ใน ๒ เส้นทางการบิน ได้แก่ เส้นทางนครราชสีมา-เชียงใหม่ และเส้นทางนครราชสีมา-หาดใหญ่ หรือภูเก็ต ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณา เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางการบินเชื่อมไปยังภาคเหนือและภาคใต้ เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางด้วยรถจากภาคอีสานไปยังภาคใต้ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ๑๓ ชั่วโมง โดยคาดว่าการเปิดจุดบินครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้โดยสาร เพราะจะอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารจากนครราชสีมา ซึ่งมีประชากรจำนวนมาก ไม่ต้องนั่งรถมายังดอนเมือง เพื่อต่อเครื่องไปยังภาคเหนือ หรือภาคใต้ สามารถใช้บริการที่สนามบินนครราชสีมาได้เลย ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีความต้องการเดินทางหลายร้อยคนต่อวัน และในเดือนธันวาคมนี้ นกแอร์ยังได้นำเข้าเครื่องบินจำนวน ๖ ลำเพื่อมาบริการด้วยนั้น

สนามบินพร้อมรับ

ในเรื่องนี้ นายเสกสรรค์ ขวัญวงศ์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครราชสีมา เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า “สายการบินนกแอร์น่าจะติดต่อไปที่กรมท่าอากาศยาน สำหรับท่าอากาศยานฯ มีความพร้อมที่จะรองรับ เพราะที่ผ่านมาเคยรองรับสายการบินต่างๆ มาแล้ว โดยล่าสุดก็เป็นสายการบินนิวเจน แอร์เวย์ส แต่ในปัจจุบันมีการฝึกบินขึ้น-ลงของโรงเรียนสอนการบินบางกอกเอวิเอชั่น (BAC) เป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้ยังรองรับเครื่องบินส่วนบุคคล เครื่องบินทางราชการ แต่สายการบินพาณิชย์ยังไม่มี แต่ก็มีความพร้อมที่จะรองรับสำหรับการเปิดเส้นทางบิน”

นายเสกสรรค์ ขวัญวงศ์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครราชสีมา

เวลาบินต้องเหมาะสม

ทางด้านนายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า ได้รับข่าวของนกแอร์จากสื่อต่างๆ และประสานไปยังท่าอากาศยานนครราชสีมาว่า โดยผอ.ท่าอากาศยานฯ ระบุว่า มีการคุยกันเรื่องนี้ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

“ที่ผ่านมา ปัญหาใหญ่จากประสบการณ์ที่หอการค้าเคยประสานกับหลายสายการบินคือ ไฟลท์ที่เดินทางจากโคราชมีผู้โดยสาร แต่ขากลับเข้ามาโคราชไม่ค่อยมีผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นโคราชไปเชียงใหม่ หรือโคราชไปกระบี่ อาจจะเป็นเพราะโคราชไม่ใช่จังหวัดเป้าหมายของนักท่องเที่ยวคนไทย ไม่ว่าจะเป็นจากทางภาคเหนือหรือภาคใต้ เพราะคนที่จะเดินทางมาโคราชเป็นนักท่องเที่ยวจากภาคกลางมากกว่า และปัญหาใหญ่ที่พบอีกอย่างจากสายการบินที่เคยมาบินแล้วไม่ประสบความสำเร็จคือ slot เวลา ในการจะบินไปตามที่ต่างๆ ไปลงในเวลาที่ไม่ค่อยเหมาะสม เช่น ไปถึงจุดหมายเวลาค่ำเกินไป ต้องไปนอนค้างคืน ตอนเช้าจึงจะทำกิจกรรมหรือประชุมได้ จึงเท่ากับเสียเวลา ๑ วันเต็มๆ ซึ่งเรื่องนี้เคยหารือกับผอ.ประวัติ (นายประวัติ ดวงกันยา อดีตผอ.ท่าอากาศยานนครราชสีมา) ซึ่งบอกว่า มีแนวทางแก้ไขคือ การบินไปลงเมืองใหญ่หรือเมืองหลัก สนามบินใหญ่ Slot (การกำหนดระยะเวลาเข้าออกของสายการบิน) เต็ม ทำไมไม่ลองบินไปสนามบินเมืองรอง เช่นแทนที่จะบินตรงไปเชียงใหม่ก็เป็นโคราช-ลำปาง เพราะสามารถต่อรถยนต์ไปเชียงใหม่ได้ในเวลาแค่ ๑ ชม. จะได้ Slot ที่เหมาะสม และยังทำให้เมืองรองสามารถขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจได้ด้วย เหมือนกับกรณีที่จะบินไปภูเก็ตก็ไม่ต้องไปลงภูเก็ต แต่อาจจะเป็นพังงาหรือเมืองอื่นที่อยู่ใกล้ภูเก็ตแทน ที่มี Slot เหลือเยอะ” นายศักดิ์ชาย กล่าว

ขนาด ๗๐-๘๐ ที่นั่ง

เมื่อถามว่า ขนาดของเครื่องบินควรเป็นกี่ที่นั่งจึงจะสอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารในจังหวัดนครราชสีมา นายศักดิ์ชายตอบว่า เมื่อคราวที่นิวเจน แอร์เวย์ส มาเปิดบริการใช้เครื่องบินลำใหญ่มาก ขนาด ๑๗๐-๑๘๐ ที่นั่ง แต่หากเป็นขนาด ๗๐-๘๐ ที่นั่งจะเหมาะสมกว่าในการมาบินเส้นทางโคราช เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วย และยังสอดคล้องต่อจำนวนผู้โดยสารด้วย

สำหรับการสนับสนุนจากทางจังหวัดและภาคเอกชนในจังหวัดนั้น นายศักดิ์ชาย กล่าวว่า “ต้องถามก่อนว่า สายการบิน ต้องการให้สนับสนุนในรูปแบบใด เพราะก่อนหน้านี้มีบางสายการบินให้ภาคเอกชนหรือทางจังหวัดการันตีตั๋วโดยสารโดยระบุเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อเที่ยว ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเราไม่ได้ทำธุรกิจในด้านนี้ และภาคเอกชนในโคราชก็ไม่ได้ทำธุรกิจด้านนี้ แล้วจะไปการันตีได้อย่างไร ทำได้อย่างมากคือการช่วยประชาสัมพันธ์เชิญชวนและพยายามจัดทริปการเดินทาง ซึ่งจัดบ่อยๆ ไม่ได้ เช่นเที่ยวปฐมฤกษ์ของสายการบินนิวเจนฯ หอการค้าจัดทริปขายตั๋วแทบจะเหมาลำ ทำได้เพียงครั้งสองครั้งเท่านั้น จะให้ทำตลอดคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเราไม่ใช่บริษัททัวร์”

ค่าโดยสารต้องไม่แพง

เมื่อถามว่า หากมีการเปิดบินเส้นทางโคราช-กรุงเทพฯ ช่วงสุดสัปดาห์เป็นไปได้หรือไม่ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “ถ้าช่วงนี้ก็ยังเป็นไปได้ เพราะบางคนอาจจะขี้เกียจขับรถ แต่เมื่อใดที่มีการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ ก็ช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางได้มาก แค่ ๒ ชม.เศษ แต่หากมาพิจารณาว่า การขับรถจากตัวเมืองไปสนามบินที่หนองเต็งประมาณ ๒๐ กม. ต้องไปเช็คอินและนั่งรอ เบ็ดเสร็จแล้วจบที่เวลา ๑ ชม.หรือไม่ แล้วบินไปอีกประมาณ ๑ ชม. อาจจะต่างกับการขับรถส่วนตัวไม่มาก รวมทั้งราคาค่าโดยสาร หากราคาไม่แพงก็น่าจะมีคนเดินทางโดยเครื่องบิน แต่หากราคาค่าตั๋วโดยสารแพงและเวลาต่างกับเดินทางโดยรถยนต์ไม่มากนัก ก็อาจจะมีคนตัดสินใจยากในการเลือกใช้บริการสายการบิน”

สนามบินไม่ไกล

ส่วนกรณีระยะทางจากตัวเมืองโคราชไปสู่ท่าอากาศยานฯ ที่บางคนระบุว่าระยะทางไกลนั้น นายศักดิ์ชาย ระบุว่า “ช่วงที่สายการบินนิวเจนฯ บิน มีศูนย์การค้าในโคราชจัดรถบริการไปส่งที่สนามบินโดยคิดค่าบริการ แต่บางครั้งก็มีเพียง ๓ คน ๗ คนบ้าง และก็ไม่ได้มีทุกวัน ผมคิดว่า หากมี Transaction ที่ค่อนข้างเยอะ ภาคเอกชนก็น่าจะจัดรถบริการได้ และแทบจะแย่งกันด้วยซ้ำ หากถามว่าสนามบินอยู่ไกลไหม ผมไม่ได้รู้สึกว่า โคราช-หนองเต็งอยู่ไกล เมื่อเทียบกับต่างประเทศ ไกลกว่านี้มาก เช่น จากสนามบินนาริตะเข้ามาโตเกียว นั่งรถไฟเข้ามายังใช้เวลาเกือบ ๑ ชม. แต่หนองเต็งแค่ ๒๐ กว่ากิโลเมตรเท่านั้น เพียงแค่ Transaction ไม่ได้ จำนวนคนเดินทางไม่มากพอที่จะจัดบริการต่างๆ ให้ได้เท่านั้นเอง”

นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา

หอการค้ายังหนุนสายการบิน

นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ กล่าวอีกว่า หอการค้าฯ สนับสนุนเรื่องสายการบินเต็มที่ ขอให้มาเปิดบิน เราก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน และยินดีมากที่จะต้อนรับสายการบินที่จะเข้ามา เพราะโคราชเป็นเมืองใหญ่ควรมีสายการบิน และสายการบินเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการทำให้โคราชเป็นเมืองไมซ์อย่างเต็มรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นทางบินโคราช-กรุงเทพฯ แต่ควรเป็นโคราชไปยังภูมิภาคต่างๆ เช่น เชียงใหม่ อุดรธานี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ส่วนโคราช-กรุงเทพฯ คงไม่ใช่เส้นทางเป้าหมาย แต่ต้องการให้เชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคมากกว่า ซึ่งโคราชได้รับการประกาศเป็นเมืองไมซ์อยู่แล้ว ก็น่าจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคเข้ามาเพื่อจัดประชุมสัมมนา และกิจกรรมต่างๆ ที่โคราช

เศรษฐกิจคึกคักมากขึ้น

สำหรับการเปิดเมืองและโครงการ Korat Green Box นั้น นายศักดิ์ชาย เปิดเผยว่า “เป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ เพราะตั้งแต่มีโครงการ Korat Green Box และมีมาตรการต่างๆ ให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตาม รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาต้องปฏิบัติตามมาตรการ จะเห็นได้ว่าช่วงนี้ที่เขาใหญ่-ปากช่องที่พัก ร้านอาหารต่างๆ ไม่มีว่างเลย ผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ ตั้งแต่ตอนนี้ไปถึงช่วงปีใหม่ถูกจองเต็มหมดแล้ว รวมทั้งร้านอาหารต่างๆ ก็ขายดีมาก การเดินทางไม่ได้เข้ามาแค่เขาใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีการเดินทางในอำเภอต่างๆ และในตัวเมืองก็เริ่มคึกคักมากขึ้น คนเดินทางก็รู้สึกปลอดภัย เพราะสถานประกอบการต่างๆ ได้รับมาตรฐาน SHA และ SHA Plus รวมทั้งยังมี Thai Stop Covid ด้วย นักเดินทางและนักท่องเที่ยวก็มีความมั่นใจในความปลอดภัยมากขึ้นในการที่จะเดินทางมาสู่จังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งจังหวัดก็ได้รับการผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น อนุญาตให้ธุรกิจบางประเภทสามารถประกอบกิจการได้ และเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาได้มากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ดีมาก เมื่อเทียบกับสองเดือนที่อึดอัดกันมาก เพราะถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม

“เศรษฐกิจในช่วงปลายปีดีขึ้น เพราะเห็นได้จากสถานประกอบการ ร้านอาหารต่างๆ การเดินทางของคน จำนวนรถยนต์บนถนน มี Transaction ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด น่าจะเป็นสิ่งบ่งชี้ได้ว่า เศรษฐกิจค่อยๆ ขับเคลื่อน ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มรูปแบบเหมือนก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ก็ตาม ซึ่งหากให้กลับไปเป็นเช่นนั้นคงใช้เวลาอีกนาน แต่ก็ถือว่าดีขึ้น” นายศักดิ์ชาย กล่าว

สาธารณสุข-เศรษฐกิจ’ต้องเดินควบคู่กัน

เมื่อถามว่า กังวลกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่จะมากขึ้นจากนโยบายการเปิดเมือง นายศักดิ์ชาย เปิดเผยว่า “ผมว่าต้องเดินควบคู่กันไประหว่างมาตรการด้านสาธารณสุขกับด้านเศรษฐกิจ จะเลือกด้านใดด้านหนึ่งให้ดีด้านเดียวคงเป็นไปไม่ได้ หากจะให้เศรษฐกิจดีโดยไม่สนใจคนติดเชื้อเลยก็ไม่ได้ จะให้ผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์แล้วให้เศรษฐกิจจมไปเลยก็ไม่ไหว ต้องสร้างความบาลานซ์กันให้ได้ ผมอยากจะให้เปรียบเทียบตัวเลขประชากร ตอนที่โคราชถูกประกาศให้เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งโคราชมีประชากร ๒.๖ ล้านคน ไม่รวมประชากรแฝงอีกกว่า ๑ ล้านคน แต่เอาตัวเลขผู้ติดเชื้อ ๖๐๐ คนไปเทียบกับจังหวัดที่มีประชากร ๕-๗ แสนคน แล้วประกาศให้โคราชเป็นพื้นที่สีแดงเข้มเหมือนกัน แทนที่จะเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ จึงไม่ยุติธรรม”

อนึ่ง ท่าอากาศยานนครราชสีมา หรือ สนามบินหนองเต็ง (IATA: NAK, ICAO: VTUQ) ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติหนองเต็ง-จักราช ตำบลท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมาไปทางทิศตะวันออกระยะทางประมาณ ๒๖ กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด ๔,๖๒๕ ไร่ เป็นท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน กระทรวงคมนาคม และได้ประกาศเป็นท่าอากาศยานศุลกากรเมื่อวันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๒ โดยสร้างขึ้นเพื่อใช้แทนท่าอากาศยานกองบิน ๑ นครราชสีมาของกองทัพอากาศซึ่งอยู่ในเขตทหาร โดยท่าอากาศยานนครราชสีมามีสิ่งอำนวยความสะดวกพอรองรับอากาศยานประเภท Boing 737 ได้ และมีอาคารผู้โดยสารขนาด ๕,๕๐๐ ตารางเมตร ซึ่งที่ผ่านมา มีสายการบินต่างๆ เช่น การบินไทย, แอร์อันดามัน, แอร์เอเชีย, แอร์ฟีนิคซ์, แฮปปี้ แอร์, Thai Regional Airlines, กานต์แอร์ และนิวเจน แอร์เวย์ส มาเปิดเส้นทางบินแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๐๑ ประจำวันพุธที่ ๓ - วันอังคารที่ ๙ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔