Thailand Web Stat
 

30thMay

30thMay

30thMay

 

January 14,2022

ทนายตั้มพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความ เอาผิดประธานสโมสรฟุตบอลดังภาคอีสาน ฐานฉ้อโกงสลากกินแบ่งรัฐบาล

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ม.ค.2565 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้นำ น.ส. วิชุดา พลดาหาญ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 347/25 ต.นาอาน อ.เมือง จ.เลย เข้าพบกับ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.ท.จตุเรศ ดอนอ่อนเบ้า สว.(สอบสวน)สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับประธานสโมสรฟุตบอลชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคอีสาน พร้อมภรรยาและตัวแทนหลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาลราคาถูก พร้อมด้วยหลักฐานข้อความแชท พูดคุยตกลงซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคา 75-80 บาท รวมมูลค่าความเสียหายเฉพาะของ นางวิชุดา รวมกว่า 12 ล้านบาท ซึ่งจะมีผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่นอีกหลายราย

นายษิทรา ให้การว่า ภายหลังจากผู้เสียหายได้ติดต่อเข้ามาขอคำปรึกษาพร้อมมอบหมายให้ทำคดีดังกล่าว จึงได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิดกับ นายต้น ตระการ ประธานสโมสรฟุตบอลกาฬสินธุ์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วยภรรยาและผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมประมาณ 6-7 คน ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยใช้เทคนิคโพสต์ภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมาก ในราคาใบละ 75-80 บาท ลงในโซเชียลมีเดียทั้งประธานสโมสรฯและตัวของภรรยา กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อและลงทุนซื้อไปแต่ไม่ได้รับสลากฯและไม่ได้เงินคืน

"เบื้องต้นพบผู้เสียหายนอกจากที่มาแจ้งความในวันนี้รวมกว่า 300 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคอีสานและในเขต กรุงเทพฯ รวมมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยในรายของผู้เสียหายที่มาแจ้งความในวันนี้ ครั้งแรกที่ลงทุนได้รับสลากฯ จริง และได้กำไรมาจำนวน 150,000 บาท ก็ทำให้คิดว่าเป็นเรื่องจริง จึงลงทุนเพิ่มไปอีกรวม 12 ล้านบาท สุดท้ายไม่ได้รับของและไม่ได้รับเงิน โดยพฤติกรรมของผู้กระทำความผิดนั้น จะมีการโพสต์หลอกเหยื่อว่ามีโควตาสลากฯราคาถูกใบละ 75-80 บาท ขายเป็นกล่องๆละ 500 ใบ โดยครั้งแรกที่ลงทุนจะเป็นการปันผลกำไรให้ก่อนในหลักแสน เมื่อผู้เสียหายได้รับเงินหลงเชื่อก็มีการเพิ่มการลงทุนเป็นหลักล้านบาท คล้ายกับแชร์ลูกโซ่ ซึ่งอยากจะเตือนทุกๆคนว่า ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ อย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด"


ขณะที่ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนของทางตำรวจนั้นก็จะทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด และรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ หากพบเข้าข่ายการกระทำความผิดส่วนใดก็จะมีการแจ้งข้อหาให้ทราบ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานทั้งหมด พร้อมทั้งจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินซึ่งจะมีการประสานไปทาง ปปง. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าเชื่อมโยงไปที่ใครบ้างก็จะเรียกมาให้ปากคำหากมีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด

 


150 1,854