January 14,2022
ทนายตั้มพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความ เอาผิดประธานสโมสรฟุตบอลดังภาคอีสาน ฐานฉ้อโกงสลากกินแบ่งรัฐบาล
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ม.ค.2565 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้นำ น.ส. วิชุดา พลดาหาญ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 347/25 ต.นาอาน อ.เมือง จ.เลย เข้าพบกับ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.ท.จตุเรศ ดอนอ่อนเบ้า สว.(สอบสวน)สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับประธานสโมสรฟุตบอลชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคอีสาน พร้อมภรรยาและตัวแทนหลอกขายสลากกินแบ่งรัฐบาลราคาถูก พร้อมด้วยหลักฐานข้อความแชท พูดคุยตกลงซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคา 75-80 บาท รวมมูลค่าความเสียหายเฉพาะของ นางวิชุดา รวมกว่า 12 ล้านบาท ซึ่งจะมีผู้เสียหายทยอยเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่นอีกหลายราย
นายษิทรา ให้การว่า ภายหลังจากผู้เสียหายได้ติดต่อเข้ามาขอคำปรึกษาพร้อมมอบหมายให้ทำคดีดังกล่าว จึงได้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความเอาผิดกับ นายต้น ตระการ ประธานสโมสรฟุตบอลกาฬสินธุ์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วยภรรยาและผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมประมาณ 6-7 คน ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยใช้เทคนิคโพสต์ภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลจำนวนมาก ในราคาใบละ 75-80 บาท ลงในโซเชียลมีเดียทั้งประธานสโมสรฯและตัวของภรรยา กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อและลงทุนซื้อไปแต่ไม่ได้รับสลากฯและไม่ได้เงินคืน
"เบื้องต้นพบผู้เสียหายนอกจากที่มาแจ้งความในวันนี้รวมกว่า 300 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคอีสานและในเขต กรุงเทพฯ รวมมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยในรายของผู้เสียหายที่มาแจ้งความในวันนี้ ครั้งแรกที่ลงทุนได้รับสลากฯ จริง และได้กำไรมาจำนวน 150,000 บาท ก็ทำให้คิดว่าเป็นเรื่องจริง จึงลงทุนเพิ่มไปอีกรวม 12 ล้านบาท สุดท้ายไม่ได้รับของและไม่ได้รับเงิน โดยพฤติกรรมของผู้กระทำความผิดนั้น จะมีการโพสต์หลอกเหยื่อว่ามีโควตาสลากฯราคาถูกใบละ 75-80 บาท ขายเป็นกล่องๆละ 500 ใบ โดยครั้งแรกที่ลงทุนจะเป็นการปันผลกำไรให้ก่อนในหลักแสน เมื่อผู้เสียหายได้รับเงินหลงเชื่อก็มีการเพิ่มการลงทุนเป็นหลักล้านบาท คล้ายกับแชร์ลูกโซ่ ซึ่งอยากจะเตือนทุกๆคนว่า ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ อย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด"
ขณะที่ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนของทางตำรวจนั้นก็จะทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด และรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ หากพบเข้าข่ายการกระทำความผิดส่วนใดก็จะมีการแจ้งข้อหาให้ทราบ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานทั้งหมด พร้อมทั้งจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินซึ่งจะมีการประสานไปทาง ปปง. เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าเชื่อมโยงไปที่ใครบ้างก็จะเรียกมาให้ปากคำหากมีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด
58 1,631