January 17,2022
สกัดจับรถตู้ลอบขนแรงงานเถื่อน รวบได้ ๓๖ คนไม่สนโควิดระบาด
ตำรวจภาค ๓ สนธิกำลังสกัดจับ ๒ รถตู้ลอบขนแรงงานเถื่อนชาวลาวหนีเข้าเมือง ๓๖ คนไม่สนโควิดระบาด สารภาพได้ค่าจ้างคันละ ๔ พัน กระจายส่งไปขายแรงงานที่ กทม.และพัทยา ด้านแรงงานเผยที่บ้านไม่มีงานทำต้องยืมเงินมาจ่ายค่านายหน้าคนละ ๘,๕๐๐-๑๐,๐๐๐ บาท หวังจะได้ค่าแรงส่งกลับบ้าน เตรียมขยายผลจับตัวการ
เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๕ ตำรวจชุดสืบภาค ๓ สนธิกำลังชุดสืบภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ตำรวจ สภ.กระสัง ตำรวจทางaหลวง และ ตม. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.ปริญญา พรเดชาพิพัฒ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.ยุทธพงษ์ รอดนวล ผกก.สืบสวน๑ บก.สส.ภ.๓, พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.กระสัง, พ.ต.อ.ภูมิ ทองโพธิ์ ผกก.สส.ภ.จ.ยโสธร, พ.ต.ท.ประมวล บัวหลวง รอง ผกก.สส.๑., พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.จ.สุรินทร์, พ.ต.ท.สุภมิตร กะตะศิลา รอง ผกก.ตม.สุรินทร์ และ พ.ต.ท.(หญิง) วรานนท์ เนียมหอม สว.ตม.สุรินทร์ ได้สกัดจับกุมรถตู้ ๒ คัน ที่บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟแดง (ระกา) ต.บ้านปรือ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ หลังได้รับแจ้งจากสายว่ารถทั้ง ๒ คัน ได้ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
จากการตรวจสอบภายในรถตู้พบแรงงานต่างด้าวชาวลาวทั้งชายและหญิงนั่งแออัดกันในรถ นับได้รวม ๓๖ คน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมด พร้อมทั้งนายกิตติพล ทองเติม อายุ ๓๐ ปี ชาว อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี และนายบุญทัน วิลามาศ อายุ ๕๔ ปี ชาว อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี คนขับรถตู้ทั้ง ๒ คัน ไปสอบสวนที่ สภ.กระสัง
ทั้งนี้ จากการสอบถามนายกิตติพล คนขับรถตู้ ยอมรับว่า ได้ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวลาวดังกล่าวมาจริง โดยได้ค่าจ้างขนคันละ ๔,๐๐๐ บาท โดยจะนำไปส่งที่กรุงเทพมหานคร และพัทยา จ.ชลบุรี ตามคำสั่งของนายหน้าที่ว่าจ้าง ส่วนแรงงานต่างด้าวอ้างว่าเสียค่าหัวคนให้กับนายจ้างคนละ ๘,๕๐๐–๑๐,๐๐๐ บาท ส่วนใหญ่ก็จะไปหยิบยืมเงินคนอื่นมาจ่าย เพราะที่บ้านไม่มีงานทำจึงอยากมาหางานทำที่ประเทศไทย บางคนเคยเดินทางมาทำงานในไทยแล้วได้เงินกลับไปเลี้ยงดูคนที่บ้าน จึงอยากจะมาทำงานอีกโดยไม่สนว่าเป็นช่วงสถานการณ์โควิดระบาด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำประวัติแรงงานต่างด้าวทุกคนไว้ พร้อมแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป” ก่อนจะผลักดันกลับประเทศ ส่วนคนขับรถตู้ทั้ง ๒ คน ถูกแจ้งข้อหา “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น และช่วยประการใดๆให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม และกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป”
สำหรับการจับกุมแรงงานต่างด้าวครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๓ และตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ในการตั้งด่านตรวจเข้มทั้งตามแนวชายแดน และจุดตรวจสกัดพื้นที่ชั้นใน เพื่อป้องกันการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ซึ่งการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวครั้งนี้ มีรถยนต์ขับนำหน้าเป็นสเก๊า (Scout) คอยบอกเส้นทางและหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๑๐ วันพุธที่ ๑๒ - วันอังคารที่ ๑๘ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
64 1,638