January 24,2022
อดีต‘ชาติพัฒนา’ซบ‘เพื่อไทย’ ประเสริฐ’ย้ำ‘โคราชเมืองหลวงอีสาน’ จับตาศึกชิงส.ส. ๑๖ เขตดุเดือด
อดีตส.ส.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนา โดดสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย “ประเสริฐ” ย้ำจะสร้างโคราชเป็นเมืองหลวงของภาคอีสาน และศูนย์กลางเศรษฐกิจให้ได้เตรียมจับตาเลือกตั้งส.ส.สมัยหน้ามี ๑๖ เขตเลือกตั้ง หลัง “พลังประชารัฐ” ขัดแย้ง ขับ ๓ ส.ส.โคราชกลุ่มธรรมนัสพ้นพรรค
เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๕ ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย กรุงเทพมหานคร นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต ๓ แถลงข่าวต้อนรับสมาชิกใหม่ของพรรคเพื่อไทย โดยกล่าวว่า “วันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีของพรรคเพื่อไทย เพราะวันนี้มีบุคคลที่ประสมความสำเร็จและมีชื่อเสียงในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มาสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทยในการขับเคลื่อนเมืองโคราช ในฐานะที่โคราชเป็นประตูสู่อีสาน มีจำนวน ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปถึง ๑๖ คน (๑๖ เขต) ซึ่งวันนี้ขอต้อนรับว่าที่ผู้สมัครทั้ง ๔ คน ได้แก่ ๑.นายสุพงษ์พิช (พงษ์พิช) รุ่งเป้า อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เคยทำงานเป็นเลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจ และทำงานภาคสังคมเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยตลอด ๒.ดร.บุญมา อิ่มวิเศษ จบปริญญาเอกด้านการบริหารจัดการ ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการบริษัทในเครือสตาร์เวลล์ และยังมีอีกหลายธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ถือว่า มีประสบการณ์ด้านการตลาดและการบริหาร เป็นคนที่จะมาขับเคลื่อนเมืองโคราช ให้ไปสู่จุดมุ่งหมายได้อย่างดี ๓.ดร.วัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ หรือเสี่ยจิ๋ว จบปริญญาเอกสาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ปัจจุบันเป็นเจ้าของตลาด CEO โคราช และยังเป็นประธานบริหารธุรกิจหลายอย่าง เคยช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่โคราชมาโดยตลอดเช่นกัน และ ๔.น.ส.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ อายุ ๒๙ ปี (กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือสตาร์เวลล์) จบปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจ และกำลังศึกษาระดับปริญญาเอก ถือเป็นคนรุ่นใหม่ มุ่งมั่นและชื่นชอบในอุดมการณ์พรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองที่พูดแล้วทำได้จริง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ เป็นคนที่จะมาช่วยผลักดันเมืองโคราช
“โคราชเป็นเมืองที่มีจำนวน ส.ส.รองจากกรุงเทพฯ ทุกคนจะมาร่วมกันพัฒนาโคราชให้เป็นเมืองที่มีความสำคัญ ให้สมกับเป็นประตูสู่ภาคอีสาน ซึ่งทั้ง ๔ คน ได้เสนอตัวลงสมัคร ส.ส.ในนามของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยพรรคจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป” นายประเสริฐ กล่าว
นายสุพงษ์พิช รุ่งเป้า กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เหตุผลที่ผมตัดสินใจกลับมาบ้านเกิดหรือพรรคเพื่อไทย เพราะว่าในอดีตเคยทำงานร่วมอุดมการณ์กับพรรคไทยรักไทยมาก่อน ในสถานการณ์ปัจจุบันทราบว่า พรรคอื่นๆ ก็มีอุดมการณ์และความตั้งใจที่ดี แต่ผมมองว่า อุดมการณ์ แนวทาง แนวความคิด และวิถีของพรรคเพื่อไทย มีนโยบายที่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับประเทศไทย ผมมองว่า แนวทางในการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม และปัญหาอื่นๆ แนวทางของพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนที่สุด ผมจึงขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ให้โอกาสผมได้กลับมาร่วมอุดมการณ์อีกครั้งหนึ่ง”
ดร.บุญมา อิ่มวิเศษ กล่าวว่า “ผมได้เห็นอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า ชีวิตใหม่ เป็นสิ่งที่ทำให้ผมสะดุดตา เป็นแนวคิดที่จะช่วยให้คนไทยได้มีชีวิตใหม่ ได้มีอาชีพและรายได้ และสำคัญที่สุด คือ ความสุข ที่ผ่านมาผมเห็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ทำได้ ทำดี และมีผลงาน ซึ่งความรู้จากการเรียนบริหารธุรกิจ สามารถนำกลับมาพัฒนาสังคม การจัดการ และการแปรรูปสินค้าเกษตร พร้อมกับสร้างรายได้มากขึ้นให้คนไทย มีค่าใช้จ่ายน้อยลง และมีความสุขมากขึ้น ผมคิดว่า ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ จะช่วยพัฒนาเกษตรกรชาวไทยทั้งประเทศได้”
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง กล่าวเสริมว่า “วันนี้เราได้เห็นบุคลากรที่มีความหลากหลาย มีความสามารถ ทั้งรุ่นเก่าที่มีประสบการณ์ และคนรุ่นใหม่ที่เสริมทัพเข้ามาเรื่อยๆ ในพื้นที่โคราช ด้วยจำนวนผู้แทนมากถึง ๑๖ คน พรรคเพื่อไทยจะสร้างเมืองโคราชให้เป็นเมืองหลวงของภาคอีสานให้ได้ ถือว่าเป็นจังหวัดใหญ่ และเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจแห่งหนึ่งในประเทศไทย”
ทั้งนี้ นายสุพงษ์พิช รุ่งเป้า ชื่อเดิม “พงษ์พิช” เคยเป็นส.ส.จังหวัดนครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ ๑๗ ระหว่างปี ๒๕๔๔-๒๕๔๘ ซึ่งเป็นช่วงที่พรรคชาติพัฒนาควบรวมเข้ากับพรรคไทยรักไทย โดยในปีต่อๆ มาได้ลงสมัครส.ส.ทั้งแบบเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อในโควตาพรรคชาติพัฒนา แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ซึ่งในการเลือกตั้งส.ส.ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ ถูกวางให้เป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคชาติพัฒนา ลำดับที่ ๑๓ ในขณะที่นายบุญมา อิ่มวิเศษ ประธานกรรมการบริษัทในเครือสาร์เวลล์ เคยสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนา และเป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคชาติพัฒนาเช่นกัน โดยการเลือกตั้งส.ส.ครั้งล่าสุด (๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒) อยู่ในลำดับที่ ๒๐ ทางด้านนายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ หรือเสี่ยจิ๋ว ลงสนามการเมืองครั้งแรกโดยการลงสมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต ๑๑ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) โดยภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติวินิจฉัยให้ยุบพรรค เมื่อพลาดหวังจากสนามเลือกตั้งระดับชาติ ก็มีข่าวจะลงสมัครเลือกตั้งในสนามท้องถิ่น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา (อบจ.นครราชสีมา) โดยต่อมามีการเปิดตัวแสดงวิสัยทัศน์บนศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมาอย่างเอิกเกริก ซึ่งมีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะให้การสนับสนุน แต่เมื่อถึงเวลาลงสมัครนายก อบจ.นครราชสีมา กลับไม่มีชื่อนายวัฒนะชัยแต่อย่างใด และจากนั้นได้เข้าร่วมเป็นแกนนำจัดกิจกรรมคาร์ม็อบในโคราชเพื่อขับไล่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
อนึ่ง การเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ จังหวัดนครราชสีมา แบ่งออกเป็น ๑๔ เขตเลือกตั้ง (ส.ส. ๑๔ คน) โดยพรรคพลังประชารัฐ ได้รับเลือกตั้ง ๖ เขต ได้แก่ เขต ๑ นายเกษม ศุภรานนท์ เขต ๔ นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ เขต ๖ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ เขต ๗ นางทัศนียา รัตนเศรษฐ เขต ๘ นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ และเขต ๑๑ นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม, พรรคเพื่อไทย ๔ เขต ได้แก่ เขต ๓ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เขต ๕ นายโกศล ปัทมะ เขต ๑๒ นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ และเขต ๑๔ นายสุชาติ ภิญโญ, พรรคภูมิใจไทย ๓ เขต ได้แก่ เขต ๙ นายอภิชา เลิศพชรกมล เขต ๑๐ นายพรชัย อำนวยทรัพย์ และเขต ๑๓ นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ ส่วนอีก ๑ ที่นั่งในเขต ๒ เป็นของพรรคชาติพัฒนา คือนายวัชรพล โตมรศักดิ์
ในขณะที่การเลือกตั้งส.ส.สมัยหน้า จังหวัดนครราชสีมาจะมีทั้งหมด ๑๖ เขตเลือกตั้ง จึงเป็นสนามการเลือกตั้งที่น่าจับตามองว่าพรรคการเมืองใดจะได้ที่นั่งมากที่สุด และน่าจะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในประเด็นที่เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเมื่อช่วงค่ำวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๕ มติที่ประชุมพรรคขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พร้อมส.ส.อีก ๒๐ คนพ้นจากพรรคพลังประชารัฐ โดยในส่วนส.ส.เขตในจังหวัดนครราชสีมาปรากฏชื่อนายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.เขต ๑, นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.เขต ๑๑ และนางทัศนาพร เกษเมธีการุณ ส.ส.เขต ๘ (น้องเมียนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ)
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๑๑ วันพุธที่ ๑๙ - วันอังคารที่ ๒๕ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
115 1,751