19thApril

19thApril

19thApril

 

February 12,2022

อนุมัติให้‘นกแอร์’บิน ๓ เส้นทางมาโคราช เชียงใหม่-ภูเก็ต-หาดใหญ่

 อนุญาตให้ “นกแอร์” บิน ๓ เส้นทางมาสู่โคราช “เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่” ขอสิทธิการบิน ๗ ปีห้ามสายการบินอื่นทับเส้นทาง เตรียมขอบริหารจัดการสนามบินเอง พร้อมตั้งโรงซ่อมและศูนย์ฝึกอบรมในพื้นที่ ขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้าจัดโปรลุ้นตั๋วเครื่องบิน คาดเปิดบริการพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ ค่าโดยสารไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาทต่อเที่ยว ส่วนเส้นทางดอนเมือง-โคราชมีแผนบิน แต่ขอดูปริมาณผู้โดยสาร

ตามที่บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) นำโดยนายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) มีแผนเปิดเส้นทางการบินเส้นทางในประเทศโดยเฉพาะในเมืองรองต่างๆ ซึ่งมีเส้นทางบินในจังหวัดนครราชสีมารวมอยู่ด้วย ในช่วงกลางปี ๒๕๖๕ โดยมีเส้นทางการบินนครราชสีมา-เชียงใหม่ และเส้นทางนครราชสีมา-หาดใหญ่ หรือภูเก็ต ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณา เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางการบินเชื่อมไปยังภาคเหนือและภาคใต้ เนื่องจากปัจจุบันการเดินทางด้วยรถจากภาคอีสานไปยังภาคใต้ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า ๑๓ ชั่วโมง โดยคาดว่าการเปิดจุดบินครั้งนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้โดยสาร เพราะจะอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารจากนครราชสีมา ซึ่งมีประชากรจำนวนมาก ไม่ต้องนั่งรถมายังดอนเมือง เพื่อต่อเครื่องไปยังภาคเหนือ หรือภาคใต้ สามารถใช้บริการที่สนามบินนครราชสีมาได้เลย ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีความต้องการเดินทางหลายร้อยคนต่อวัน และในเดือนธันวาคมนี้ นกแอร์ยังได้นำเข้าเครื่องบินจำนวน ๖ ลำเพื่อมาบริการด้วยนั้น ซึ่งต่อมาในวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ เดินทางมายังท่าอากาศยานนครราชสีมา พร้อมด้วยนายประวัติ ดวงกันยา อดีตผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครราชสีมา (เกษียณอายุราชการในตำแหน่งผอ.ท่าอากาศยานลำปาง) เพื่อหารือในด้านต่างๆ โดยมีนายเสกสรรค์ ขวัญวงศ์ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครราชสีมา ให้การต้อนรับและสรุปข้อมูลของท่าอากาศยานนครราชสีมาให้รับทราบ ซึ่งการเดินทางมาของนายวุฒิภูมิในครั้งนี้ไม่เป็นที่เปิดเผย ตามที่ “โคราชคนอีสาน” เสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

โดยต่อมาเมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๕ นายเสกสรรค์ ขวัญวงค์ ซึ่งย้ายจากตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครราชสีมา ไปดำรงตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานอุบลราชธานี เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๖๕ ได้เกษียนหนังสือรับทราบในหนังสือจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ลงวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ลงนามโดยนายศรัณย เบ็ญจรัตน์ รองผู้อำนวยการ ปฏิบัติการแทนผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ซึ่งส่งถึงประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เรื่องการจัดสรรเส้นทางการบินภายในประเทศเพิ่มเติม พร้อมทั้งอ้างถึงหนังสือบริษัท สายการบินนกแอร์ จํากัด (มหาชน) ที่ BX087/2564 BX089/2564 ลงวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๔ ที่ BX112/2564 ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๔ และ ที่ PA21/10-085 ลงวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ โดยในหนังสือนี้ระบุรายละเอียดว่า

ตามหนังสือที่อ้างถึงบริษัท สายการบินนกแอร์ จํากัด (มหาชน) แจ้งขอรับการจัดสรรเส้นทางบินภายในประเทศเพิ่มเติมอีกรวม ๑๒ เส้นทาง ดังต่อไปนี้ ๑.กรุงเทพฯ-สมุย และกลับ สัปดาห์ละ ๑๔ เที่ยว ๒.ภูเก็ต สมุย และกลับ สัปดาห์ละ ๑๔ เที่ยว ๓.อุบลราชธานี-ภูเก็ต และกลับ สัปดาห์ละ ๗ เที่ยว ๔.เชียงใหม่-ภูเก็ต และกลับ สัปดาห์ละ ๗ เที่ยว ๕. เชียงใหม่-นครราชสีมา และกลับ สัปดาห์ละ ๗ เที่ยว ๖.เชียงใหม่-หาดใหญ่ และกลับ สัปดาห์ละ ๗ เที่ยว ๗. เชียงใหม่-นครศรีธรรมราช และกลับ สัปดาห์ละ ๗ เที่ยว ๘.เชียงใหม่-สุราษฎร์ธานี และกลับ สัปดาห์ละ ๗ เที่ยว ๙.นครราชสีมา-หาดใหญ่ และกลับ สัปดาห์ละ ๗ เที่ยว ๑๐.นครราชสีมา-ภูเก็ต และกลับ สัปดาห์ละ ๗ เที่ยว ๑๑.กรุงเทพ-เบตง และกลับ สัปดาห์ละ ๒ เที่ยว ๑๒.เบตง-หาดใหญ่ และกลับ สัปดาห์ละ ๗ เที่ยว โดยใช้อากาศยานแบบ B737-800 และ Bombardier Q400 ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเริ่มทําการบินตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นไป ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น

สํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศ ไทยพิจารณาแล้ว อนุญาตให้บริษัทฯ ได้รับจัดสรรเส้นทางบินภายในประเทศเพิ่มเติมอีก ๑๒ เส้นทาง ดังนี้ ๑) กรุงเทพฯ-สมุย และกลับ ๒) ภูเก็ต-เสมุย และกลับ ๓) อุบลราชธานี-ภูเก็ต และกลับ ๔) เชียงใหม่-ภูเก็ต และกลับ ๕) เชียงใหม่-นครราชสีมา และกลับ ๖) เชียงใหม่-หาดใหญ่ และกลับ ๗) เชียงใหม่-นครศรีธรรมราช และกลับ ๘) เชียงใหม่-สุราษฎร์ธานี และกลับ ๙) นครราชสีมา-หาดใหญ่ และกลับ ๑๐) นครราชสีมา-ภูเก็ต และกลับ ๑๑) กรุงเทพฯ-เบตง และกลับ ๑๒) เบตง-หาดใหญ่ และกลับ ได้ตามที่เสนอขอ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาตเป็นต้นไป และบริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตจัดสรรเส้นทางบินอย่างเคร่งครัด

ล่าสุดช่วงค่ำวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ มีรายงานข่าวจากนายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ถึงรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวว่า ขณะนี้เครื่องบิน Bombardier Q400 (บอมบาร์ดิเอร์) ของนกแอร์มีอยู่เพียง ๓ ลำ เมื่อก่อนมีอยู่ ๘ ลำแต่ด้วยสถานการณ์โควิด-๑๙ ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้นกแอร์ปลดเครื่องบินรุ่นนี้ออกไป ๕ ลำ เหลือบิน ๓ ลำ เพราะเครื่องนี้มาจากแคนาดา ด้วยอะไหล่หายาก จึงไม่ได้สั่งเข้ามาสำรองไว้หลายลำ เพราะค่าใช้จ่ายในการซ่อมค่อนข้างสูง กอรปกับธุรกิจการบินประสบปัญหาขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงโควิด-๑๙ ถือว่าหนักกว่าทุกครั้ง ทำให้นกแอร์ต้องมีการยื่นฟื้นฟูกิจการ จึงจำต้องมีการปลดเครื่องบินที่มีอยู่ออกไปบางส่วน

ภาพโดย  Suparat Chincha Chairatprasert

ในจำนวนเครื่องบิน ๓ ลำที่มีอยู่ต้องเพียงพอที่จะรองรับเนื่องจากจะมีการยุบในบางเส้นทางที่ไม่สร้างผลกำไร เช่น ชุมพร ระนอง แพร่ แม่สอด แม่ฮ่องสอน ลำปาง จนกว่าจะมีผู้โดยสารจำนวนมากขึ้น เมื่อลดเส้นทางที่ไม่มีกำไรก็มาเปิดเส้นทางโคราชแทน ซึ่งจะบินแบบ ๓ ขา โดยจะบินจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ จากเชียงใหม่มาโคราช และจากโคราชไปเชียงใหม่ แล้วเชียงใหม่กลับกรุงเทพฯ ส่วนอีกเส้นทางคือจากกรุงเทพฯ ไปภูเก็ต จากภูเก็ตมาโคราช แล้วก็โคราชไปภูเก็ต และภูเก็ตกลับดอนเมือง แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูจำนวนผู้โดยสารของแต่ละเส้นทางด้วย ส่วนราคาค่าโดยสารน่าจะไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท

อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่า นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ซีอีโอนกแอร์ มีกำหนดจะเดินทางมายังจังหวัดนครราชสีมาในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อพูดคุยในรายละเอียดต่างๆ พร้อมทั้งขอสิทธิพิเศษในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยเฉพาะในด้านภาษี รวมทั้งขอสิทธิทำการบินในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ๗ ปี ซึ่งต้องไม่มีสายการบินอื่นมาเปิดทำการบินทับกับเส้นทางที่นกแอร์เปิดบิน พร้อมทั้งขอสิทธิบริหารเชิงพาณิชย์ภายในสนามบิน เพราะหากนกแอร์เข้ามาบริหารก็จะมีการขยายความยาวของรันเวย์ สร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ปรับภูมิทัศน์ และอื่นๆ ภายในสนามบิน หากกรมท่าอากาศยานให้นกแอร์เข้ามาบริหารแทนขอให้เชื่อมั่นว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยในปัจจุบันมีสนามบินที่บริหารโดยสายการบิน เช่น สนามบินสมุย สนามบินสุโขทัย และสนามบินตราด เป็นต้น ซึ่งเป็นของบางกอกแอร์เวย์ส โดยนกแอร์ก็ต้องการแบบนั้น หากนกแอร์มาเปิดเส้นทางบินที่โคราชก็จะมีทั้งโรงซ่อม และศูนย์ฝึกอบรมลูกเรือของนกแอร์อยู่ที่โคราชด้วย

นอกจากนี้ ยังขอให้ศูนย์การค้าในโคราช ตั้งจุดจำหน่ายตั๋วภายในห้าง รวมทั้งเวลาที่ห้างจัดอีเวนต์หรือโปรโมชั่นต่างๆ อาจจะมีการลุ้นรางวัลตั๋วเครื่องบิน มีรถรับส่งไป-กลับสนามบิน โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดบินได้ประมาณเดือนพฤษภาคม หรือในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๕ ในเส้นทางเชียงใหม่ และภูเก็ต ส่วนหาดใหญ่ต้องพิจารณาความต้องการของผู้โดยสารด้วย

ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ-โคราช มีแผนจะเปิดบินเช่นกัน แต่ต้องพิจารณาความต้องการของผู้โดยสาร หากมีความต้องการใช้บริการจำนวนมากอาจจะเปิดบินในวันศุกร์และวันอาทิตย์ หรืออาจจะเปิดบินในช่วงเทศกาลที่มีต้องการเดินทางจำนวนมาก

หากมีความคืบหน้า “โคราชคนอีสาน” จะนำเสนอต่อไป

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๑๔ ประจำวันพุธที่ ๙ - วันอังคารที่ ๑๕ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช  ๒๕๖๕


1031 1389