19thApril

19thApril

19thApril

 

March 13,2022

ชมแปลงกัญชาการแพทย์ ๒ ไร่ ‘ภูมิใจไทยโมเดล’ที่เมืองช้าง

ชมแปลงสาธิตกัญชาทางการแพทย์ ๒ ไร่ ต่อยอดงานกัญชาทางการแพทย์ สสจ.สุรินทร์ระบุจัดงาน ๓ วัน มีผู้สนใจร่วมงานกว่าแปดพันคน เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจจำนวนมาก

เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๕ ที่แปลงสาธิตวิสาหกิจชุมชน “ภูมิใจไทย สมุนไพรบ้านไทย ๒๐๒๑” ตั้งอยู่บ้านไทย ม.๓ ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ พื้นที่ประมาณ ๒ ไร่ เป็นวิสาหกิจชุมชน โดยการรวมกลุ่มของสมาชิก ที่ขออนุญาตจดแจ้งปลูกพืชกัญชาเพื่อการแพทย์แผนไทย โดยมีนายวรรณรัก ไชยตะมาตย์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านไทย เป็นประธานกลุ่ม มีต้นกัญชาประมาณ ๒๐๐ ต้น หลังปลูกมาได้ ๒ เดือนกว่า ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ในแต่ละวันมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและหน่วยงานภาครัฐ มาเพื่อศึกษาดูงานกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ และต้องขออนุญาตอย่างถูกต้อง จึงจะปลูกได้

นายวรรณรัก ไชยตะมาตย์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านไทย กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณรองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.เขต ๑ จังหวัดสุรินทร์ พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมาธิการสาธารณสุข ที่มีการผลักดันเพื่อปลดล็อกพืชกัญชาพ้นยาเสพติด และสนับสนุนส่งเสริมการรวมกลุ่มเป็นวิชาหกิจปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ จึงนำมาสู่การดำเนินการของกลุ่มวิสาหกิจได้จริง เริ่มต้นการขออนุญาตไม่ได้ยุ่งยากมากนัก แต่ต้องทำตามขั้นตอนที่กฎระเบียบกำหนดให้ครบในการจดเป็นวิสาหกิจชุมชน ถือว่าสำคัญมาก ยิ่งเป็นพืชกัญชาจะต้องจดแจ้งการครอบครองจากรัฐมนตรี จากนั้นทำตามขั้นตอนที่กำหนดหลายอย่าง สุดท้ายก็มาจบที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งจะมีผู้อำนวยการหรือเจ้าหน้าที่มาตรวจสถานที่ ส่วนของตนเป็นสถานที่เปิด เนื่องจากยังไม่มีทุนทำโรงเรือน แต่เป็นการปลูกแบบออร์แกนิกแบบเปิด มีการจัดพื้นที่ควบคุมรอบรั้วมิดชิด ตามแบบที่กำหนด ดินเหมาะสมปลูกขึ้นดี

“ในการตรวจสอบการวัดค่า TSC หรือ TDB ของกัญชา ทางภาครัฐต้องเข้ามาดูแลให้ จากต้องมีการมาวัดค่าที่ดอกและต้องมีการทำ MOU กับ อย.ด้วย เพื่อให้ถูกต้อง เพราะใบและลำต้นมีการปลดล็อกแล้ว แต่ดอกและเมล็ดยังไม่ได้ปลดล็อก ซึ่งในการปลูกจะต้องได้รับอนุญาตว่าเป็นพันธุ์ชนิดใดด้วย การทำ MOU กับ อย.สำคัญมาก เพราะเป็นเรื่องของการจำหน่าย เนื่องจาก อย.เป็นผู้จำหน่าย ส่วนการดูแลไม่ยาก เราเน้นใส่ปุ๋ยคอก ไม่ควรใช่ปุ๋ยเคมี เนื่องจากจะทำให้ดินร้อนมีผลกับต้นกัญชาได้ ส่วนเรื่องน้ำไม่ต้องรดทุกวัน เพียงแต่ให้ดินมีความชื้นเสมอโดยการนำฟางมาปกคลุมที่โคนต้น แต่อย่ารดน้ำมากเกินไปจะทำให้รากเป็นเชื้อราตายได้ ในการปลูกแบบเปิดเรื่องของแมลงก็ไม่ค่อยมี เนื่องจากใช้น้ำส้มควันไม้ฉีดสัปดาห์ละ ๒-๓ ครั้ง ทำให้ไม่มีแมลงมารบกวน” นายวรรณรัก กล่าว

นายวรรณรัก กล่าวอีกว่า จากผลที่ได้ทำการปลูกมาเพียง ๒ เดือนกว่า ต้นกัญชาสวยงาม พันธุ์ที่นำมาปลูกคือพันธุ์อินเดียก้าจากอินเดีย, พันธุ์ก้านแดงจากมาเลเซีย และที่ปลูกมากคือพันธุ์หางกระรอกของไทย ส่วนที่มาจากต่างประเทศคือ แพลตตินั่มบูสติก ถือว่าให้ผลเร็ว สำหรับการเก็บเกี่ยวยาก็จะใช้เวลาประมาณ ๖ เดือน สังเกตน้ำที่ออกจากดอกกัญชา คือต้องให้มีน้ำติดเป็นสีขุ่น แต่จะไม่ให้ขุ่นมาก เพราะจะทำให้ค่าระดับปริมาณสูงเกินที่กำหนดไว้ จากนั้นจะนำมาตากแดดให้แห้งและนำมาเก็บไว้ในที่ร่ม แล้วนำมาแปรเป็นผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนออกจำหน่าย โดยเน้นเป็นพืชสมุนไพรการแพทย์แผนไทย ตามที่จดทะเบียนไว้ คือ วิสาหกิจชุมชนภูมิใจไทย สมุนไพรไทยไร้กังวลบ้านไทย ๒๐๒๑ โดยจะมีทั้งเป็นชาชงดื่ม และผสมในขนม รวมทั้งดองน้ำผึ้งแล้วบรรจุขาย ในอนาคตจะนำเข้าสู่สมุนไพรแพทย์แผนไทยในการทำโรงอบสมุนไพรจากกัญชาและลูกประคบ เพื่อให้ตรงตามเจตนารมณ์ในการจดแจ้งวิสาหกิจชุมชนไว้และเป็นแหล่งศึกษาดูงานสำหรับผู้ที่สนใจในการทำวิสาหกิจชุมชนเกี่ยวกับพืชกัญชา ซึ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการผลักดันของนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธรณสุข และสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ที่มีการผลักดันปลดล็อกกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดและพัฒนาให้เป็นวิสาหกิจชน สร้างทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรมีรายได้

สำหรับรายงานการประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ ๙ กระทรวงสาธารณสุข ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ เมื่อวันที่ ๔-๖ มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้คนให้ความสนใจเรื่องกัญชาจำนวนมากมาศึกษาดูงานการปลูกและการดูแลรักษากัญชา ส่วนมากจะมาดูเรื่องการขอจดแจ้งเป็น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนว่าต้องดำเนินการอย่างไร

นพ.สินชัย ตันติรัตนานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์เขตสุขภาพที่ ๙ ระหว่างวันที่ ๔-๖ มีนาคม ๒๕๖๕ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ มีผู้มาร่วมงานตลอด ๓ วัน จำนวน ๘,๑๐๔ คน ผู้มารับบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์จำนวน ๒๗๗ คน การจ่ายยากัญชา ๕,๕๒๓ หน่วย และมูลค่าการจำหน่ายสินค้าในงาน ๓๖๒,๙๗๘ บาท ผลตอบรับจากประชาชนที่มาร่วมงานเป็นที่น่าพอใจ ในส่วนของผู้ที่มาเป็นคณะจะขอทราบรายละเอียดในการจดแจ้งเพื่อปลูกกัญชา ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในอนาคต ชี้ให้เห็นว่าประชาชนมีความตื่นตัวสนใจเรื่องกัญชามาก มองเห็นโอกาสเส้นทางการต่อยอด การลงทุนและการสร้างรายได้ในอนาคต การจัดงานปลดล็อกกัญชา-กัญชงสร้างสุขภาพสร้างรายได้ จะมีการจัดงานสัญจรทั่วไทยใน ๑๒ เขตสุขภาพ ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคมนี้ ตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล โดยประชาชนสามารถเข้าร่วมงานฟรีตลอดงาน สอดรับกับพ.ร.บ.กัญชา-กัญชงที่จะคลอดออกมาใน ๑๒๐ วันหรือประมาณวันที่ ๙ มิถุนายนนี้


นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๕๑๘ ประจำวันที่ ๙-๑๕ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๖๕


1050 1396