29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

April 25,2022

มข.เคลียร์ข้อกล่าวหาผู้บริหาร ย้ำสเปรย์จากฟ้าทะลายโจร ทรัพย์สินทางปัญญากับ‘มิสลิลลี่’

ม.ขอนแก่นเคลียร์ข้อกล่าวหาผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ ย้ำสเปรย์ “Andrographolide Nano-emulsion” จากฟ้าทะลายโจร เป็นทรัพย์สินทางปัญญาโครงการสตาร์ทอัพ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง มข.และมิสลิลลี่เท่านั้น

 

จากกรณีที่ผศ.ดร.กิติยาพร พงษ์ประเทศ คณะสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล (กมธ.) รวมถึงให้สัมภาษณ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อมวลชน โดยกล่าวอ้างว่า เป็นผู้คิดค้นและผู้ประดิษฐ์ในสิทธิบัตรในผลิตภัณฑ์ Andrographolide Nano-emulsion ทั้งยังได้กล่าวหาผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ ว่า ประพฤติมิชอบนั้น     

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา ๑๓.๐๐ น. วันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๕ ศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดี ฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา มข. เปิดเผยว่า การร้องเรียนและกล่าวหาผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น การให้สัมภาษณ์ รวมถึงการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของบุคคลดังกล่าว ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด ขอยืนยันว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ ได้ดำเนินงานโครงการ Start up ด้วยความถูกต้อง โปร่งใส เป็นไปตามระเบียบมหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่าด้วยการดำเนินการด้านสิทธิบัตร และอนุสิทธิบัตร พ.ศ.๒๕๖๒ การคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ “Andrographolide Nano-emulsion” ชนิดสเปรย์พ่นปาก เกิดจากนโยบายของ มข.ที่ต้องการสร้างโครงการสตาร์ทอัพให้ประสบความสำเร็จ โดยอาศัย Business Model และความเข้มแข็งด้านบริหารจัดการของภาคเอกชนร่วมกับองค์ความรู้ เครื่องมือและเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยฯ โดยโครงการนี้ มหาวิทยาลัยฯ ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน คือ บริษัท มิส ลิลลี่ จำกัด ในด้านการจัดจ้างจัดหานักวิจัยและเงินทุนเพื่อใช้ในงานคิดค้น ทดลองสูตร และพัฒนาสูตร รวมทั้งในด้านการตลาดเพื่อให้เกิดเป็น Business Model     

“ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยหน้าที่ คำสั่ง การจ้าง การควบคุมดูแล และใช้ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยขอนแก่นและมิส ลิลลี่ จึงเป็นสิทธิร่วมกันของมหาวิทยาลัยฯ และบริษัทฯ ตามระเบียบมหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่าด้วยการดำเนินการด้านสิทธิบัตร และอนุสิทธิบัตร พ.ศ.๒๕๖๒ ข้อ ๖ และข้อ ๗เท่านั้นดังนั้นอาจารย์ผู้ร้อง ซึ่งเป็นเพียงลูกจ้างในโครงการสตาร์ทอัพและบุคลากรภายใต้บังคับบัญชาและกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยไม่มีสิทธินำสูตรดังกล่าวไปยื่นขอจดอนุสิทธิบัตร การที่อาจารย์ผู้ร้องนำสูตรดังกล่าวไปยื่นขอจดอนุสิทธิบัตร (เลขที่ ๒๑๐๓๐๐๓๓๑๔) ทำให้มหาวิทยาลัยฯ และบริษัทฯ ภายใต้โครงการสตาร์ทอัพ ได้รับความเสียหาย ซึ่งโครงการกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับอาจารย์ผู้ร้องและผู้เกี่ยวข้องต่อไป”

รศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดี

รศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดี กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ สูตร Andrographolide Nano-emulsion ยังได้พัฒนาขึ้นโดยคณะทำงานของโครงการฯ ซึ่งประกอบด้วยฝ่ายวิจัยของมหาวิทยาลัยฯ กับคณะทำงานของมิส ลิลลี่ ที่ประกอบด้วยทีมนักวิจัยและทีม งานที่ปรึกษา รวมแล้วมากกว่า ๑๐ คน โดยอาจารย์ผู้ร้องเป็นเพียงหนึ่งในทีมงานที่ปรึกษา ซึ่งไม่ใช่นักวิจัยของโครงการ และไม่ใช่ผู้ประดิษฐ์ตามกฎหมาย ดังนั้น มหาวิทยาลัยฯ และมิส ลิลลี่ ขอยืนยันว่า โครงการไม่เคยมีข้อตกลงใดๆ ทั้งเรื่องหุ้นส่วน และการให้สิทธิในสูตรหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการทำงานภายใต้โครงการ กับอาจารย์ผู้ร้อง ทั้งยังไม่เคยแต่งตั้งหรือมอบหมายให้อาจารย์ผู้ร้องเป็นหัวหน้าโครงการตามที่อาจารย์ผู้ร้องกล่าวอ้างแต่อย่างใด

“สูตร Andrographolide Nano-emulsion ที่ใช้ผลิตเป็นสเปรย์พ่นปาก เป็นสูตรที่มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้มีความเหมาะสมกับการผลิตในระดับโรงงานอุตสาหกรรม มีการพัฒนาสูตร สัดส่วนองค์ประกอบ และได้สร้างเครื่องจักรเฉพาะทางในการผลิตสารให้มีขนาดอนุภาคในระดับนาโนเมตร ที่เหมาะกับการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทั้งยังมีการตรวจสอบในด้านความคงตัวและการประเมินอายุการเก็บรักษา โดยกระบวนการดังกล่าวตั้งแต่การคิดค้นและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ทำโดยโครงการ Start up ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากผู้ร้องพ้นจากการเป็นที่ปรึกษาไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๔ ดังนั้น อาจารย์ผู้ร้องจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทั้งสิ้น สำหรับสาเหตุการเลิกจ้างอาจารย์ผู้ร้อง ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในทีมที่ปรึกษาในระยะเริ่มต้นของโครงการ เกิดขึ้นจากปัญหาขัดแย้ง เนื่องจากอาจารย์ผู้ร้องต้องการนำสูตรของโครงการไปจดทะเบียนอนุสิทธิบัตร และอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาในฐานะผู้คิดค้น ผู้ประดิษฐ์ แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งขัดแย้งกับโครงการ จึงเป็นเหตุให้บริษัท มิส ลิลลี่ จำกัด เลิกจ้างอาจารย์ผู้ร้อง และโครงการ เห็นควรให้อาจารย์ผู้ร้องยุติบทบาท”

รศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่อาจารย์ผู้ร้องยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต ประพฤติมิชอบ และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ให้สอบทุจริตผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงเป็นเรื่องที่ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด และมหาวิทยาลัยฯ พร้อมนำหลักฐานเกี่ยวกับการว่าจ้าง การจ่ายค่าจ้างให้แก่อาจารย์ผู้ร้อง และหลักฐานที่อาจารย์ผู้ร้องทำงานภายใต้โครงการของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และบริษัท มิส ลิลลี่ จำกัด ในฐานะผู้ประสานงานเท่านั้น รวมทั้งเข้าชี้แจงตามกระบวนการสอบสวนต่อไป เพื่อพิสูจน์ว่าการกล่าวหาผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่นว่าประพฤติมิชอบ ทำการละเมิดสิทธิทางปัญญาของผู้ร้อง ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากคำชี้แจงข้อเท็จจริงของมหาวิทยาลัยฯ

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๒๓ วันพุธที่ ๒๐  - วันอังคารที่  ๒๖  เดือนเมษายน  พุทธศักราช  ๒๕๖๕

 


985 1617