May 06,2022
ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ‘สมชัย ฉัตรพัฒนศิริ-ภริยา’ เจ้าของมหา’ลัยฟ้องล้มละลาย
ราชกิจจานุเบกษาประกาศคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด “สมชัย ฉัตรพัฒนศิริ” อดีตส.ส.หลายสมัย หลังเจ้าของมหาวิทยาลัย ภาคฯ ฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางให้ลูกหนี้ทั้งสองล้มละลาย พร้อมให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายใน ๒ เดือน
ตามที่ราชกิจจานุเบกษาหน้า ๑๐๒ เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๖๘ ง ลงวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๕ ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๕ เรื่องคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ตามคดีหมายเลขแดงที่ ล.๑๘๓๖/๒๕๖๕ ศาลล้มละลายกลาง กองบังคับคดีล้มละลาย ๖ กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม โดยระบุว่า ด้วย นางสาวญาณิศา ภักดิ์โพธิ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางประภา ภักดิ์โพธิ์ ผู้ตาย โจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลาง ขอให้ลูกหนี้ทั้งสองล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งลงวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๕ ให้พิทักษ์ทรัพย์ของนายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ ลูกหนี้ที่ ๑ และนางรื่นจิต ฉัตรพัฒนศิริ ลูกหนี้ที่ ๒ เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ แล้ว โดยลูกหนี้ที่ ๑ มีภูมิลำเนาอยู่หมู่ที่ ๑๓ ตำบลขามสะแกแสง อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา และลูกหนี้ที่ ๒ มีภูมิลำเนาอยู่หมู่ที่ ๕ ตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
ดังนั้น นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ และบุคคลผู้เป็นหนี้ลูกหนี้หรือมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่ในครอบครอง มีหน้าที่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหนี้หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ตามมาตรา ๒๔/๑ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ซึ่งผู้ใดมีหน้าที่ตามมาตรา ๒๔/๑ แล้วไม่ปฏิบัติตาม มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท ตามมาตรา ๑๗๓/๑ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ อนึ่ง เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีนี้ จะเป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ฝ่ายคำคู่ความ สำนักงานเลขานุการกรม กรมบังคับคดี หรือสำนักงานบังคับคดี ซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ ภายในกำหนดเวลา ๒ เดือน นับแต่วันที่โฆษณาคำสั่งนี้ และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนดวันลงโฆษณาในราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๕ ซึ่งตรวจได้จากเว็บไซต์กลุ่มงานราชกิจจานุเบกษาที่ www.ratchakitcha.soc.go.th
นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ เกิดเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๙๔ จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนอำนวยศิลป์ จากนั้นเรียนต่อปริญญาตรี (นิติศาสตรบัณฑิต) มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาโท (รัฐศาสตรมหาบัณฑิต) มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) สมรสกับนางรื่นจิต ฉัตรพัฒนศิริ
ต่อมาเมื่อปี ๒๕๔๔ นายสมชัยเข้ามาสู่สนามการเมือง โดยลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดนครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ ๑๔ สังกัดพรรคชาติพัฒนา ได้รับเลือกเป็น ส.ส.สมัยแรก ต่อมาพรรคชาติพัฒนายุบรวมกับพรรคไทยรักไทย และนายสมชัยถูกจัดให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สมัยที่ ๒ จากนั้นในปี ๒๕๕๐ เมื่อพรรคไทยรักไทยถูกยุบ จึงกลับมาสังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา โดยลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ ๕ และได้รับเลือกเป็น ส.ส.สมัยที่ ๓ (เขตใหญ่เรียงเบอร์) โดยเมื่อปี ๒๕๔๘ นายสมชัยถูกวางให้นั่งเก้าอี้รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีประจำนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี
จากนั้นในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไปในปี ๒๕๕๔ นายสมชัยลงสมัครส.ส.เขตเลือกตั้งที่ ๖ สังกัดพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน (รวมกันระหว่างพรรคชาติพัฒนากับพรรคเพื่อแผ่นดิน) แต่พ่ายแพ้ให้กับนายสุชาติ ภิญโญ พรรคเพื่อไทย ต่อมาลาออกจากพรรค ชาติพัฒนามาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เมื่อปี ๒๕๖๒ ถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ ๔๑ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง และต่อมาได้ลาออกจากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งต่อมามีกระแสข่าวว่าสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์
ในด้านธุรกิจ นายสมชัยเป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ไฟว์สตาร์มัลติเพล็กซ์ ซึ่งเคยโด่งดังตั้งอยู่บริเวณห้าแยกประตูไชยณรงค์ และเจ้าของธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต “ไฟว์สตาร์มาร์โค” ซึ่งมีหลายสาขา นอกจากนี้ยังเคยเป็นเจ้าของสำนักงานเลิศธรรมทนายความ และเคยเป็นเจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ในชื่อ “หนังสือพิมพ์เลิศธรรมธุรกิจ” และ “หนังสือพิมพ์ข่าวเฉียบ” (เลิกกิจการ) รวมทั้งเจ้าของภัตตาคารเทียมเทียม เคยดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ปีบริหาร ๒๕๔๐-๒๕๔๑ และปีบริหาร ๒๕๔๒-๒๕๔๓
ต่อมาก่อตั้งโรงแรมปัญจดารา ในช่วงแรกๆ ที่มีการระบาดของโควิด-๑๙ ได้เสนอให้โรงแรมปัญจดาราเป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อกักตัวกลุ่มเสี่ยง โดยในอีกบทบาทหนึ่งยังได้ยังก่อตั้งองค์กรจิตอาสา “บ้านสมานฉันท์ รื่นจิตอาสาราชประชาสมาสัย” ตั้งอยู่หมู่ที่ ๔ ตำบลเมืองคง อำเภอคง จ.นครราชสีมา
นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ
สำหรับบทบาททางสังคม นายสมชัยยังได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ ตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ ถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบภายในหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีผู้ทำจดหมายสนเท่ห์สอบถามถึงกรณีนายชัชวาล วงศ์จร อดีตประธานหอการค้าจังหวัดฯ ปีบริหาร ๒๕๖๐-๒๕๖๑, ๒๕๖๒-๒๕๖๓ ยกหนี้จำนวน ๗ แสนบาทให้ตนเองและศูนย์การค้าใหญ่แห่งหนึ่ง โดยต่อมามีการแถลงการณ์ร่วมกับหอการค้าฯ กับประธานคณะกรรมการตรวจสอบภายในฯ ยืนยันว่า ไม่ใช่การยกหนี้ แต่เป็นเงินบริจาคที่เมื่อประสบปัญหาโควิด-๑๙ ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินดังกล่าวได้ ท่ามกลางความคลางแคลงใจของกลุ่มพิทักษ์องค์กรหอการค้าจังหวัดฯ ที่ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะนายทะเบียนหอการค้าฯ เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ แต่เรื่องก็ยังไม่เป็นที่ยุติ
ทางด้านนางสาวญาณิศา ภักดิ์โพธิ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางประภา ภักดิ์โพธิ์ ผู้ตาย โจทก์ที่ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขอให้ลูกหนี้ทั้งสองล้มละลายนั้น ปัจจุบันเป็นผู้รับใบอนุญาต มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ม.ภาคฯ) ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น โดยได้รับอนุมัติจากทบวงมหาวิทยาลัยให้จัดตั้งเป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๓๑ มีนายสุบิน ปิ่นขยัน รัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัยในขณะนั้น เป็นผู้ลงนาม ออกใบอนุญาตจัดตั้งในนามของวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ว.ภ.น.) หรือ North Eastern College (N.E.C.) ซึ่งผู้ริเริ่มในการก่อตั้งซึ่งได้รับอนุมัติเป็นผู้รับใบอนุญาต คือ นางประภา ภักดิ์โพธิ์ พร้อมด้วยความสนับสนุนของ ดร.มังกร ภักดิ์โพธิ์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานสภาวิทยาลัยในขณะนั้น โดยวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับใบอนุญาตให้เปลี่ยนประเภทจากวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (North Eastern University : N.E.U.) เมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๔๒
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๒๕ ประจำวันพุธที่ ๔ - วันอังคารที่ ๑๐ เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕
94 1,778