18thApril

18thApril

18thApril

 

September 24,2022

คึกคัก มหกรรมส่งเสริมการค้าชายแดน กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนไทย-กัมพูชา


กระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนไทย-กัมพูชาจัดงาน จัดมหกรรมส่งเสริมการพัฒนาการค้าชายแดน ไทย-กัมพูชา "สุรินทร์โมเดล เฟส 2" ชาวไทย-กัมพูชาร่วมงาคับคั่ง ณ ตลาดอาเซียน อ.กาบเชิง

วันที่ 24 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ที่ตลาดอาเซียนช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ นายอดิเทพ กมลเวชช์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานฝั่งประเทศไทย ในงานมหกรรมส่งเสริมการพัฒนาการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีนายอุน โสะเพียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา และคณะ คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ผู้ประกอบการ สื่อมวลชน และนักท่องเที่ยว เข้าร่วมกิจกรรมและเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ผนวกกับการแพร่ระบาดของโรคติด เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid - 19) ในปัจจุบัน ที่แม้ว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ยังส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจ และการดาเนินชีวิตของประชาชน ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดใหญ่ ผู้ประกอบการวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม พ่อค้าแม่ค้ารายเล็ก รวมถึงประชาชนในท้องถิ่นต่างๆ ล้วนแต่ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า จากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้เกิดปัญหาแรงงานย้ายถิ่น เนื่องจากถูกเลิกจ้าง และยังเกิดปัญหาราคาสินค้า ทางการเกษตรตกต่ำ

ดังนั้น ภาครัฐและเอกชนจึงต้องร่วมมือกันในการพัฒนาเศรษฐกิจ และการค้าชายแดน รวมถึงส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้างโอกาส ทางการค้า การประกอบอาชีพ นาเงินเข้าสู่ท้องถิ่น สร้างรายได้ให้ประชาชน จึงจัดงานมหกรรมส่งเสริมการพัฒนาการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้น เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนของจังหวัดสุรินทร์ สร้างโอกาสทางการค้าระหว่าง 3 ประเทศ (ไทย กัมพูชา และเวียดนาม) และขยายโอกาสทางการตลาดสินค้าและบริการสู่ตลาดประเทศเพื่อนบ้าน อาเซียน รวมทั้งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและเห็นความสาคัญของการนา ของดีประจาถิ่นมาพัฒนาและต่อยอดทางการค้า และการเงินพื้นฐาน ทั้งนี้ได้มีการทำ MOU การค้าและการลงทุนชายแดนร่วมกันใน 3 ประเทศ

ทังนี้ ในโอกาสนี้มีการเปิดงานโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาด OTOP ชายแดน โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ด้วย

สำหรับงานมหกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2565 ณ ตลาดอาเซียน ด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยภายในงานพบกับผู้ประกอบการ SMEs จากทั่วประเทศที่ขนสินค้าประเภทอาหาร เกษตรแปรรูป สิ่งทอ เครื่องประด้บ พร้อมกิจกรรมอื่นๆ มากมาย อาทิ การสัมมนา Online Hybrid กิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจการค้าระหว่างนักธุรกิจไทย กับ นักธุรกิจกัมพูชา SMEs  บูธให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ธนาคาร รวมถึงสินค้าราคาระหยัดอย่างธงฟ้า จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ตลอด 3 วัน

นายสมบัติ ศรีสุรินทร์ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าว โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากคณะกรรมาธิการการเงินการคลังของสภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมกับ จ.สุรินทร์ จัดงานบูมช่องจอม ซึ่งเราเรียกงานนี้ว่าเป็นการผลักดันการค้าขายชายแดนที่เรียกว่า "สุรินทร์โมเดล" ซึ่งเคยจัดขึ้นเมื่อปี 2563 แล็ประสบความสำเร็จ วันนั้นด่านชายแดนไม่เปิด ถึงวันนี้ด่านชายแดนเปิดแล้ว แต่ยังซบเซาอยู่ ตนจึงถือโอกาสนี้จัดงานอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจับคู่การค้าระหว่างคนกัมพูชากับคนไทย และมีการระดมสรรพกำลังจากหน่วยงานราชการทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตร กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม การพัฒนาชุมชน เรียกว่า รวมหน่วยงานราชการไทย มาบูรณาการ มาร่วมกันจัดงาน เพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และทำให้ชาวสุรินทร์ รู้เห็นถึงศักยภาพของด่านชายแดนช่องจอม ซึ่งเป็นด่านสำคัญที่พวกเรามี โดยเริ่มมีการเตรียมความพร้อม และงานจัดขึ้นในวันที่ 23-25 กันยายน ซึ่งมีผู้หลักผู้ใหญ่มาเปิดงานอย่างเป็นทางการทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา เราก็จะเน้นในการระดมสมองของชาวสุรินทร์ว่า ใครมีสินค้า มีของดี มีความประสงค์ที่จะขายส่งสินค้าอะไรลงไปกัมพูชา ก็มาลงทะเบียนกับเรา เราก็จะขึ้นเวปไซต์ขึ้นป้าย เราก็จะส่ง ไปให้ตัวแทนกระทรวงพาณิชย์และเอ็กซิมแบงก์ ไปประชาสัมพันธ์เพื่อระดมเอาพ่อค้าที่ต้องการสินค้าไทยมาร่วมงานในครั้งนี้


จึงถือโอกาสฝากประชาสัมพันธ์ว่างานนี้ จัดขึ้นเพื่อให้เห็นถึงศักยภาพของคนสุรินทร์ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ของดีๆ มากมายเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาโลก และก็จะทำให้ช่องจอม ซึ่งเป็นช่องที่เชื่อมการค้าการขายกับประเทศกัมพูชาและสาธารณรัฐเวียดนาม เชื่อมไปสู่ 20 จังหวัดของภาคอีสาน รวมไปถึงภาคกลางด้วย เป็นประตูสำคัญ เป็นโอกาสทางการค้าที่สำคัญ เป็นโอกาสที่ดีที่ประชาชนจะได้มาเที่ยวด้วย ได้มาดูของดีๆ ที่ประเทศไทยมี และยังมีโอกาสได้ค้าขายกับประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมเพื่อให้ผู้ที่มาเที่ยวชมงานได้รับความบันเทิงบ้าง  มีคอนเสิร์ตตอนเย็น มีมหกรรมการละเล่น มีงานแสดงสินค้าย่อยๆ อยู่ด้วย สรุป 2-3 วันที่จัดงาน จะรวมทุกอย่างของจังหวัดสุรินทร์และประเทศไทยมาอยู่ที่ช่องจอม และระดมคนกัมพูชาเข้ามาช้อปมาชิม ช้อปทั้งสินค้า ช้อปทั้งผู้ประกอบการไทย ที่จะจับมือเป็นคู่ค้ากัน ชายแดนช่องจอมเป็นด่านที่สำคัญมาก มีการเปิดมานานแล้ว แต่เราก็มีการค้าขายกันในวงแคบๆ ทั้งๆ ที่มีศักยภาพในตัวมาก ทั้งถนนหนทาง ทั้งถนน 8 เลน 10 เลน มาถึงอย่างสะดวก ถนนเชื่อมไปออกภาคอีสานทะลุไปถึง จ.บึงกาฬ ออกทางซ้ายไปโคราช ชัยภูมิ ไปทางขวาก็ออกศรีสะเกษ อุบลฯ เชื่อม 20 จังหวัด


นายสมบัติ ศรีสุรินทร์ กล่าวอีกว่า พรรคการเมืองจะรู้ดีว่า อีสานคือหัวใจหลักของประเทศ ใครคุมอีสานได้ก็ถือว่าชนะเลือกตั้ง วันนี้ไม่ต้องพูดถึงการเมือง ตรงนี้คือจุดที่จะเอาอีสานมาผูกกับกับการค้าขายชายแดน อย่าคิดว่ากัมพูชาเป็นประเทศเล็กๆ เขาเป็นนักค้านักขาย เขาเป็นเอเย่น ชาวกัมพูชาชอบวิ่งมาซื้อของที่นี่ เขาเอาไปส่งออกด้วยวิธีการต่างๆ ส่งออกไปทั่วโลก เพราะฉะนั้นเป็นโอกาสที่ดีที่ชาวสุรินทร์จะต้องช่วยกัน เราจะประชาสัมพันธ์ให้รู้ว่างานไม่ใช่ของคนใหญ่คนโตหรือผู้ค้ารายใหญ่ ผู้ค้ารายใหญ่จับกับผู้ค้ารายใหญ่ ผู้ค้าขนาดกลางจับกับผู้ค้าขนาดกลาง ผู้ค้าขนาดเล็กหรือรายย่อยก็จับคู่กัน  มีปลูกผักปลูกพืชก็มีคนมาซื้อ รายใหญ่สู่รายใหญ่ รายเล็กสู่รายเล็ก ไม่ใช่เฉพาะไทย-กัมพูชา แต่คนไทยที่มาจากหลายภูมิภาค มาร่วมงานนี้ก็เอาสินค้ามาด้วย เขาก็จะมาจับคู่คนสุรินทร์ ที่อยู่ที่ช่องจอมมาเป็นคู่ค้า จับคู่ไทยกับไทย ไทยกับกัมพูชา รายใหญ่ รายเล็ก รายกลาง มันจะเอื้อกันหมด เพื่อให้ศักยภาพของการค้าขายชายแดนปรากฏขึ้น

 


1028 1392