ขอนแก่นคาดหลังจีนเปิดประเทศ มีนักท่องเที่ยวและนักศึกษาเข้ามาทั้งปีกว่า ๒,๐๐๐ คน สร้างรายได้ให้จังหวัดกว่า ๖๐๐ ล้านบาท ด้วยการเดินทางแสนสะดวก สายการบินพร้อมบริการ ส่วนโควิดเชื่อรัฐควบคุมได้ พร้อมเชิญชวนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

เมื่อเวลา ๐๙.๐๐น. วันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๖ ที่โรงแรมโรงแรมเลอ แคสเซีย เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ตามที่จีนมีนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๖ เป็นต้นไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยในปีนี้ประมาณ ๕ ล้านคน ขณะที่จังหวัดขอนแก่นจะมีนักศึกษาจีนและผู้ปกครองเข้ามาในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า ๒,๐๐๐ คน ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้กว่า ๖๐๐ ล้านบาทต่อปี

“ขอนแก่นมีความพร้อมเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา การสาธารณสุข การคมนาคม และเรื่องบริการต่างๆ ลักษณะของขอนแก่นจะเป็นเมืองทำธุรกิจ การศึกษา และการบริการสุขภาพ การที่ประเทศจีนปล่อยให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งขอนแก่นจะได้ผลดีไปด้วย เพราะนักศึกษาจากประเทศจีนรอจะเข้ามาเรียนในจังหวัดประมาณ ๒,๐๐๐ คน และคนจีนยังสนใจการบริการสุขภาพการตรวจโรค เสริมความงาม รักษาโรคเฉพาะอย่าง ทั้งยังคงเด่นในเรื่องอาหารการกินที่รสชาติดีมีวัฒนธรรมที่ดี ใครเดินทางมาท่องเที่ยวภาคอีสานก็รู้สึกสบายใจ” นายชาญณรงค์ กล่าว

นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น

ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า ในปีนี้อีสานจะโปรโมตซอฟต์พาวเวอร์เรื่องวัฒนธรรม ซึ่งมีหลายอย่าง ทั้งในเรื่องของการแต่งกาย การโปรโมตผ้าไหม ผ้าพื้นเมือง ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของคนอีสาน โดยหอการค้าฯ มีการคุยผ่านบริษัททัวร์ในประเทศจีนให้มาสำรวจพื้นที่ภาคอีสานมากขึ้น ซึ่งการเดินทางสะดวกสบาย ไฟลท์บินจากจีนมากรุงเทพฯ จากกรุงเทพฯ มาขอนแก่นวันละประมาณ ๒๐ เที่ยวบิน การเดินทางอีกเส้นทางคือรถไฟความเร็วสูงจากคุนหมิงเชื่อมมายังเวียงจันทน์ สปป.ลาว จากลาวเดินทางมาขอนแก่นไม่เกิน ๓ ชั่วโมง น่าจะเป็น ๒ เส้นทางหลักสำหรับการเดินทาง

“ส่วนความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-๑๙ เชื่อว่ารัฐบาลจะวางแผนและดูแลเป็นอย่างดี เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยได้พิสูจน์แล้วว่า ระบบสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ด้านต่างๆ มีความพร้อมมาก และเชื่อว่าประชาชนได้รับวัคซีนแล้วประมาณ ๘๐% จึงทำให้มั่นใจว่า จะรับนักท่องเที่ยวเข้ามาในครั้งนี้ได้แน่นอน สำหรับการคาดการณ์นักศึกษามหาวิทยาลัยที่จะเข้ามารอบแรกประมาณ ๒,๐๐๐ คน และคิดว่าจะเพิ่มขึ้น แต่ยังกังวลเรื่องเกี่ยวกับการออกวีซ่าสำหรับนักศึกษาและนักธุรกิจที่จะเข้ามาในประเทศอาจจะยุ่งยากนิดหนึ่ง เรื่องการตรวจสอบประวัติ ตรวจคุณวุฒิวิชาชีพ และมีปัญหาเรื่องขาดแคลนครูภาษาจีน จึงต้องการให้การทำวีซ่ามีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น จะเป็นการอำนวยความสะดวกให้คนจีนที่จะเข้ามาเรียน มาทำงาน มาท่องเที่ยว” นายชาญณรงค์ กล่าว

ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า สำหรับเม็ดเงินที่คาดว่าจะได้รับในการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนปีนี้ นักศึกษาที่จะเข้ามาเรียน จะมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ บาทต่อปีต่อคน ซึ่งในจำนวน ๒,๐๐๐ คน ต่อปีน่าจะมีรายได้ประมาณ ๖๐๐ ล้านบาท จะทำให้เกิดห่วงโซ่ในการพัฒนาทำธุรกิจต่อในอนาคตได้อีกด้วย

ทางด้านนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศเปิดประเทศ ซึ่งส่งผลต่อความคึกคักที่นานาประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว การศึกษา การค้า และการลงทุน ที่สัมพันธ์แนบแน่นระหว่างจีนกับไทย เช่นเดียวกันกับ จ.ขอนแก่น ที่โดยปกติจะมีชาวจีนทั้งในส่วนของนักศึกษา นักลงทุน นักการทูต รวมไปถึงนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่ปีละกว่า ๒,๐๐๐ คน ดังนั้น เมื่อรัฐบาลจีนประกาศเปิดประเทศ การที่คนจีนจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลมั่นใจในการกระตุ้นด้านการท่องเที่ยวได้อย่างมากและส่วนหนึ่งจะมีการเชื่อมต่อมายัง จ.ขอนแก่นอีกด้วย

“ผมห่วงเรื่องกฎระเบียบ ข้อบังคับ ที่อาจจะยุ่งยาก และซับซ้อน ดังนั้น เมื่อรัฐบาลประกาศให้โรคโควิด-๑๙ เป็นโรคประจำถิ่น และประกาศมาตรการการรับชาวต่างชาติเข้าประเทศไทย ในภาวะปกติเช่นเดียวก่อนที่โควิดจะเกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อขณะนี้ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติก็และคนไทยยังคงสวมใส่หน้ากากอนามัย มีมาตรการป้องกันและควบคุมตามาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด การเดินทางเข้าประเทศไทยของชาวจีนที่จะต้องเดินทางมาในรูปแบบต่างๆ นั้นก็ควรที่จะดำเนินการเช่นเดียวกันกับประเทศอื่นๆ ที่เดินทางมาไทย จะมาเฉพาะเจาะจงว่าคนจีนจะเข้าไทยจะต้องซับซ้อนและมีขั้นตอนที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ นั้น โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยควรที่จะปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด”

นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวต่อว่า ขอนแก่นมีความพร้อมและมีมาตรการรองรับที่ชัดเจนและเข้มงวดอยู่แล้ว และชาวขอนแก่นยังคงการ์ดไม่ตก และคงไว้ซึ่งมาตรการอย่างรัดกุม ขณะนี้การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเทศบาลฯ ให้ความร่วมมือและสนับสนุนทุกหน่วยงานในการเดินหน้าต่อภายใต้สถานการณ์ที่ปกติและโรคประจำถิ่น ที่ทุกคนยังคงป้องกันตนเองอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้องค์กรจีนใน จ.ขอนแก่น เริ่มมีการประสานงานกับเครือข่ายชาวจีนในการที่จะเชื่อมโยงและประสานความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่นเดียวกันกับสถานกงสุลใหญ่จีน ที่ตั้งอยู่ที่ขอนแก่น มีการประสานการทำงานและขับเคลื่อนความร่วมมือเพิ่มขึ้น สถานศึกษาทั้งรัฐและเอกชนก็เริ่มส่งข้อมูลในการนำนักศึกษาจีนเข้ามาเรียนปกติ และส่งนักศึกษาไทยไปศึกษาที่จีนตามกรอบความร่วมมือต่างๆ ดังนั้น มั่นใจว่าการเปิดประเทศ ทั้งสองฝ่ายล้วนต่างได้รับผลประโยชน์และเกิดสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน ซึ่งขอนแก่นก็พร้อมที่จะแสดงศักยภาพรองรับคนจีนที่จะเดินทางเข้าพื้นที่ที่คาดว่าจะทยอยเดินทางเข้ามาตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป

นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น (สสจ.ขอนแก่น)

ในขณะที่ นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น (สสจ.ขอนแก่น) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้กำหนดมาตรการและเตรียมแผนรับมือนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนที่จะเดินทางมายังประเทศไทยหลังจากจีนเปิดประเทศ โดยได้กำหนดแผนเผชิญเหตุกรณีมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ซึ่งแผนดังกล่าวได้เสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่นได้รับการรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้วและพร้อมปฏิบัติทันที

“เรื่องการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข มีการสำรองเตียงให้เพียงพอสำหรับโรงพยาบาลทุกแห่ง ทั้งโรงพยาบาลประจำจังหวัดและอำเภอ ยารักษาเพียงพอ วัสดุทางการแพทย์เพียงพอ การเร่งสร้างภูมิคุ้มกันคือการฉีดวัคซีน ซึ่งตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้วจังหวัดได้มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งตั้งจุดฉีดวัคซีนรวมทั้งสถานพยาบาลทุกแห่งโดยมีวันฉีดวัคซีน หรือ “วัคซีนเดย์” ใน ๑ สัปดาห์อย่างน้อยจะมีคลินิกฉีดวัคซีนโควิด-๑๙ จำนวน ๑ ครั้ง แต่ถ้าประชาชนประสงค์จะไปฉีดเมื่อใดก็ตามในวันเวลาราชการก็สามารถเดินไปขอฉีดได้เลย”

นพ.ภาคี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวเป็นการช่วยให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นหลังจากที่ลำบากมาแล้วใน ๒-๓ ปีที่ผ่านมา เพราะเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้ประชาชน ถ้าประชาชนพร้อมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ อยากเชิญชวนให้รับมือนักท่องเที่ยวโดยการฉีดวัคซีน ถ้าคนไทยฉีดวัคซีนโดยเฉพาะเข็มกระตุ้นแล้วมีภูมิคุ้มกันเพียงพอ เราจะไม่กลัวโรค ไม่กลัวติดเชื้อ โอกาสติดเชื้อน้อยลง หรือติดเชื้อแล้วอาการไม่รุนแรง ประกอบกับเรามียารักษาโรคเพียงพอ มีเตียงให้บริการเพียงพอ เรามีความพร้อมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๘ ฉบับที่ ๒๗๔๙ วันที่ ๑๕ มกราคม - วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖