เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 พ.ค.2566 ที่ สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.เมธี  ศรีวันนา  รอง ผกก.(ป.)สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายชาธิษณ์ สุดชาดี อายุ 45 ปี อยุ่บ้านเลขที่ 147/3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ภายในหอพักแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์จำนวน 5 คัน ซึ่งคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์ในเขตพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น  ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีราโน่ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 2กค-1186 ขอนแก่น, รถจักรยานยนต์  ยามาฮ่า  สีน้ำเงินดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, รถจักรยานุยนต์  ฮอนด้า เวฟ สีขาวน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, รถจักรยานยนต์  ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีชมพูขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 

พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ชุดสืบสวนสอบสวนจึงสนธิกำลังร่วมฝ่ายปราบปราม ทำการสืบสวนสอบสวนด้วยการแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิด จนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสุชาธิษณ์ จึงได้เข้าจับกุมตัวได้ที่หอพัก ซึ่งพบว่ามีรถจักรยานยนต์ที่ได้ขโมยมา จอดทิ้งไว้บริเวณหอพักจึงได้ตรวจยึดและควบคุมตัวมาทำการสอบสวน

"ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าขณะนี้ตกงาน และ ค้างค่าเช่าหลายเดือน จึงคิดไม่ออกว่าจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าหอ ก่อนตัดสินใจตระเวนขโมยรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ที่สาธารณะหรือศูนย์การค้า ซึ่งจะใช้วิธีเข้าไปหักคอรถก่อนใช้กุญแจขับออกไป หรือหากจะเป็นรถที่มีการเสียบกุญแจทิ้งไว้ก็จะขโมยไปทันที ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุในคดียักยอกทรัพย์โดยได้ยืมรถจักรยานยนต์จากเพื่อน แล้วนำไปจำนำก่อนหลบหนีไปอีกด้วย"

พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวต่ออีกว่า สำหรับคดีที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ที่หอพักแห่งหนึ่ง และสามารถขโมยรถจักรยานยนต์ไปได้คืนเดียว 3 คันนั้นขณะนี้ตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้ว ซึ่งอยู่ในระหว่างการเตรียมออกหมายจับ ซึ่งเป็นแก็งค์ลักรถจักรยานยนต์ที่มีเครือข่ายใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว