เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ที่โคราชฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” จังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รอง ผวจ.นครราชสีมา กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยนางสาวเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา รวมทั้งนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา เข้าร่วมด้วย ซึ่งจัดโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สำนักงานยุติธรรมจังหวัดนครราชสีมา และกรมบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดนครราชสีมา เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินผู้กู้ยืม พร้อมปลดภาระผู้ค้ำประกัน เปิดโอกาสให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม

ภายในงานมีการให้บริการต่างๆ เช่น การเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย สร้างการตระหนักรู้ เกี่ยวกับ การวางแผน สร้างวินัยทางการเงิน การจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ ให้คำปรึกษาทางกฎหมายหรือการเงิน การให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ทั้งก่อนฟ้องและหลังศาลมีคำพิพากษา โดยมีภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ประกอบด้วย กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.), ธนาคารออมสิน เขตควบคุมและบริหารหนี้ ภาค 13, ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธ.อ.ส.),  สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา, ธนาคารกรุงไทย,  การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชน และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ฯลฯ มีผู้เข้าร่วมลงทะเบียน กยศ. จำนวน 1,300 คน จากจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด 131,982 คน จำนวนหนี้กว่า 1 หมื่นล้านบาท ลูกหนี้สถาบันการเงินอื่นๆ 3,854 คน รวม 5,062 คน ทุนทรัพย์กว่า 1,300 ล้านบาท

กิจกรรมนี้ จัดขึ้นเพื่อให้ลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หนี้เช่าซื้อรถยนต์ หนี้สินข้าราชการ หนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ผิดนัดชำระหนี้เข้าเกณฑ์จะถูกฟ้องดำเนินคดีหรือไม่มีกำลังผ่อนชำระตามสัญญา ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย และรู้สิทธิตามกฎหมาย เข้าถึงความยุติธรรม รวมถึงสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผน และสร้างวินัยทางการเงินให้ประชาชนเป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ลูกหนี้ได้รับโปรโมชั่นนอกจากจะไม่ถูกฟ้องคดี ไม่ถูกยึดทรัพย์ ไม่ถูกขายทอดตลาด แล้วยังจะได้รับสิทธิพิเศษส่วนลดจบหนี้ ส่วนลดดอกเบี้ย ลดค่างวดและขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ และสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกจำนวนมากจากสถาบันการเงิน
 

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า เป็นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ได้มอบให้กระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะเรื่องหนี้ครัวเรือน สำหรับหนี้นอกระบบนั้นทางกระทรวงมหาดไทยรับไปดูแล ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนประเทศไทยวันนี้มีถึง 91% ตรวจสอบจำนวนเงินมีถึง 16 ล้านล้านบาท ที่เครดิตบูโรอยู่ประมาณ 13 ล้านล้านบาทและหนี้สหกรณ์ และหนี้ กยศ.ยังไม่รวมหนี้นอกระบบ สำหรับปัญหาหนี้สินรัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะคุณภาพคนมีความสำคัญที่สุด แต่เมื่อคนไทยเราเป็นหนี้สิน คือหาเงินมาได้แทนที่จะนำไปเลี้ยงครอบครัว กลับต้องนำไปใช้หนี้ ภาครัฐต้องการลดภาระของหนี้ครัวเรือนให้ประชาชน ซึ่งการลดภาระคือเป็นหนี้ยังใช้หนี้อยู่ แต่ว่าทำอย่างไรให้เขาเอาเงินไปใช้ในส่วนอื่นบ้าง เรามีทั้งหนี้กู้ยืมและการศึกษา มีหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต หนี้รถ และหนี้ต่างๆ ที่ประชาชนเป็นหนี้อยู่ ซึ่งในวันนี้เฉพาะที่โคราชที่เดียว หนี้ กยศ.ของประชาชนมีตัวเลขกว่าหมื่นล้านบาทถือว่าเยอะมาก มีจำนวนประชาชนที่ผู้กู้ประมาณแสนกว่าคน วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการปรับโครงสร้างหนี้ ในการคิดเงินใหม่ตามกฎหมายใหม่ มีทั้งบางส่วนได้คืนเงิน มีบางส่วนไม่ต้องส่งต่อ และมีบางส่วนส่งต่อก็เหลือน้อยลง รัฐบาลต้องการแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมจับต้องได้

"อย่างไรก็ตาม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเฉพาะ อบจ.นครราชสีมา มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนนโยบาย ร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เนื่องจาก อบจ. เป็นองค์กรที่อยู่ใกล้ชิดประชาชน ส.อบจ. ทั้ง 32 อำเภอ ถูกเลือกมาจากประชาชน ต้องมีข้อมูลและทราบดีว่าประชาชนในพื้นที่ตัวเองเป็นหนี้จำนวนเท่าใดบ้าง" พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กล่าว