4thOctober

4thOctober

4thOctober

 

August 03,2024

มทส.เปิด SUTx บริษัทโฮลดิ้งมูลค่า ๔๐ ล. ปั้น‘ซิลิคอนวัลเลย์’ที่โคราช สร้างความมั่นคงด้านการเงินให้มหา’ลัย

 

มทส.เปิด SUTx บริษัทโฮลดิ้งมูลค่า ๔๐ ล้านบาท พร้อมบริษัทในเครืออีก ๔ แห่ง สนับสนุนนักคิด นักวิจัย และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หวังสร้าง “โคราชโมเดล” ให้เป็นซิลิคอนวัลเลย์แห่งใหม่ของไทย เชื่อมั่นช่วยยกระดับขีดความสามารถทางนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยให้ยั่งยืน สร้างความมั่นคงด้านการเงิน ลดการพึ่งพิงงบจากรัฐ


เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ณ โถงกลางอาคารวิชาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) รศ.ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี มทส. ในฐานะประธานกรรมการบริษัท SUTx แถลงข่าวเปิดตัว SUTx บริษัทโฮลดิ้งมูลค่า ๔๐ ล้านบาท สร้างระบบนิเวศนวัตกรรมครบวงจรสำหรับสตาร์ทอัพไทย พร้อมกลุ่มบริษัทในเครืออีก ๔ แห่ง ได้แก่ SUTIP ดูแลด้านทรัพย์สินทางปัญญา, SUTVB กองทุนร่วมลงทุนและบริการธุรกิจครบวงจร, SUTxPonix บริษัทร่วมทุนเน้นลงทุนใน AI และเทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะ และ SUTVCC จับมือกับบริษัทสิงคโปร์ร่วมลงทุนใน Deep Tech ระดับโลก โดยมีผู้บริหาร มทส.เข้าร่วม อาทิ ผศ.ดร.พงษ์ชัย จิตตะมัย รองอธิการบดีฝ่ายการเงิน ทรัพย์สิน และวิสาหกิจ ศ.ดร.หนึ่ง เตียอำรุง รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี อ.ดร.มัลลิกา สังข์สนิท รองอธิการบดีฝ่ายพันธกิจสัมพันธ์ นวัตกรรม รวมทั้งผู้ประกอบการ คณะผู้บริหารและบุคลากร เข้าร่วม

รศ.ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี มทส.

รศ.ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี มทส. เปิดเผยว่า “ในโอกาสที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จะมีอายุครบ ๓๔ ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยในวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗ มหาวิทยาลัยพร้อมก้าวสู่บทบาทใหม่ในฐานะผู้นำการขับเคลื่อนระบบนิเวศนวัตกรรมของประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวบริษัท เอสยูที เอ็กซ์ จำกัด หรือ SUTx บริษัทโฮลดิ้งมูลค่า ๔๐ ล้านบาท จะไม่เพียงเป็นบริษัทลงทุนทั่วไป แต่ยังเป็นระบบนิเวศนวัตกรรมครบวงจรที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนักคิด นักวิจัย และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ตั้งแต่การพัฒนาไอเดีย การจัดการทรัพย์สินทางปัญญา ไปจนถึงการระดมทุนและขยายธุรกิจ ที่พร้อมผลักดันสตาร์ทอัพไทยสู่เวทีระดับโลก SUTx จะเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของนวัตกรรมไทย เราไม่ได้แค่สร้างสตาร์ทอัพ แต่กำลังสร้างผู้นำทางเทคโนโลยีของอาเซียน การร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจ แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยสู่การใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดนครราชสีมาและประเทศไทยโดยรวม”

บริษัท เอสยูที เอ็กซ์ จำกัด (SUTx) เป็นนิติบุคคลของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่มหาวิทยาลัยเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ ๙๙.๙๙ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามวิสัยทัศน์ SUT2025 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมของมหาวิทยาลัย เพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน มหาวิทยาลัยแห่งการประกอบการอย่างเป็นรูปธรรรม และสอดรับกับ พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยและนวัตกรรม (TRIUP Act) ที่ส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยนำผลงานไปใช้ประโยชน์ผ่านรูปแบบต่างๆ รวมถึงการจัดตั้งนิติบุคคล นอกจากนี้ ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญาของมหาวิทยาลัย เพื่อสร้าง IP Management Platform รองรับการทำ Startup/Spin-off ของคณาจารย์และนักศึกษา ซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้ตามภารกิจที่สำคัญของมหาวิทยาลัยในอนาคต เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินของมหาวิทยาลัยอย่างยั่งยืนต่อไป ซึ่ง SUTx พร้อมสนับสนุนนักคิด นักวิจัย และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ตั้งแต่การพัฒนาไอเดียไปจนถึงการขยายธุรกิจ โดยหวังสร้าง “โคราชโมเดล” ให้เป็น Silicon Valley แห่งใหม่ของไทย เชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะช่วยยกระดับขีดความสามารถทางนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยให้เกิดความยั่งยืนตามยุทธศาสตร์การบริหารงาน SUT2025 ที่มุ่งมั่นจะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งนวัติกรรมและความยั่งยืน ทั้งยังเชื่อว่า SUTx จะเป็นส่วนหนึ่งของกลไกการขับเคลื่อนนวัตกรรมของประเทศ ในการเชื่อมโยงงานวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์และภาคอุตสาหกรรม และสร้างผู้นำทางเทคโนโลยีของอาเซียนในอนาคต

สำหรับ SUTx มีบริษัทในเครือ ๔ แห่ง ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ประกอบด้วย ๑. SUTIP ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญา ที่จะช่วยนักวิจัยและสตาร์ทอัพในการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญามูลค่าสูง พัฒนากลยุทธ์การใช้ประโยชน์จากงานวิจัยในเชิงพาณิชย์ และวางแผนการใช้ประโยชน์จาก IP เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

๒. SUTVB เป็นกองทุนร่วมลงทุนที่เข้าใจความต้องการของสตาร์ทอัพ ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การลงทุนในระยะเริ่มต้น Pre-Seed ไปจนถึง Series B จัดหาเงินทุนในรูป Soft Loan เพื่อเสริมสภาพคล่อง รวมถึงการจัดโปรแกรมบ่มเพาะธุรกิจแบบครบวงจร นอกจากนี้ SUTVB ยังทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างสตาร์ทอัพกับเครือข่ายนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

๓. SUTxPonix เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง มทส. และบริษัท Ponix ของศิษย์เก่า มุ่งเน้นการลงทุนใน AI, Smart City และ Climate Tech โดยมี นายพงศกร นาควิเชียร ผู้ร่วมก่อตั้ง SUTxPonix ซึ่งระบุว่า “เรากำลังสร้างโคราชโมเดล ให้เป็น Silicon Valley แห่งใหม่ของไทย ด้วยการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ที่มีไฟและไอเดียบรรเจิด” ปัจจุบัน SUTxPonix มีโครงการนำร่องที่น่าจับตามองแล้ว ๒ โครงการ ได้แก่ บริษัท เดโวนิกซ์ ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยี Digital Twin เพื่อสร้างเมืองเสมือนจริง ซึ่งมีศักยภาพในการปฏิวัติการวางผังเมืองและการบริหารจัดการเมืองในอนาคต และอีกโครงการคือการวิจัยระบบไฮโดรเจน ที่มุ่งหวังจะเป็นทางเลือกด้านพลังงานสะอาดให้กับโลกยุคใหม่

และ ๔. SUTVCC เป็นความร่วมมือระหว่าง มทส. และ Origgin บริษัทจากสิงคโปร์ ที่จะเป็นประตูสู่ตลาด Deep Tech ระดับโลก โดย SUTVCC มุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีศักยภาพระดับโลก สร้างเครือข่ายกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยชั้นนำทั่วโลก และใช้ Venture Co-Creation (VCC®) framework เพื่อเร่งการพัฒนานวัตกรรมสู่ตลาด ทั้งนี้ SUTx บริษัท Origgin และ รศ.ดร.สินีนาฏ ศิริ ได้ร่วมมือลงทุนผลิต AptaDiol แพลตฟอร์มการตรวจฮอร์โมนเพศหญิง ถือเป็นการบริหารทรัพย์สินทางปัญญาตัวแรกของมหาวิทยาลัยอีกด้วย

ทั้งนี้ บริษัท SUTx พร้อมเปิดรับข้อเสนอโครงการจากสตาร์ทอัพที่มีแนวคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมล้ำสมัย ซึ่งในส่วนของรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุนจะประกาศให้ทราบเพิ่มเติมในภายหลัง ด้วยความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคเอกชน และเครือข่ายระดับนานาชาติ SUTx มุ่งมั่นที่จะสร้างยูนิคอร์นสายพันธุ์ใหม่ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไทยและภูมิภาค การเปิดตัว SUTx ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของ มทส. ในการยกระดับขีดความสามารถทางนวัตกรรมของประเทศ โดยการสร้างพื้นที่และโอกาสให้กับนักคิด นักวิจัย และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้พัฒนาศักยภาพและเติบโตในระดับสากล ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศในระยะยาว นับเป็นตัวอย่างที่ดีของการผสานความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและภาคธุรกิจเพื่อสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ตลาดและสังคมอย่างแท้จริง

รศ.ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี มทส. และประธานกรรมการ บริษัท SUTx จำกัด ย้ำในท้ายสุดว่า “จะทำให้ มทส.เป็นมหาวิทยาลัยแห่งนวัตกรรม ความยั่งยืน หรือเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการประกอบการที่แท้จริง และสิ่งที่เกิดขึ้นในปลายทางสุดท้ายคือ ความมั่นคงด้านการเงินของมหาวิทยาลัยที่เราไม่ต้องพึ่งพาเงินจากรัฐบาลอย่างเดียวอีกต่อไป เราสามารถพึ่งพาตนเองได้ และเราจะเป็นที่พึ่งของสังคมด้วย”


นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๕๐ ฉบับที่ ๒๗๖๗ วันที่ ๑๕ เดือนกรกฎาคม - วันที่ ๑๔ เดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๗


331 903