6thDecember

6thDecember

6thDecember

 

October 12,2024

เลือกตั้ง‘นายก อบจ.ขก.’ เชื่อ‘พงษ์ศักดิ์’ทิ้งห่าง แม้อดีตส.ส.‘วัฒนา’ท้าชิง

ลาออกก่อนหมดวาระอีกราย นายก อบจ.ขอนแก่น “พงษ์ศักดิ์” นายก ๖ สมัยลงสมัครอีก มั่นใจชนะล้านเปอร์เซ็นต์ที่ผ่านมาไม่มีประวัติเสียหาย ด้าน “วัฒนา ช่างเหลา” ท้าชิงอ้าง ๒๐ กว่าปีไม่มีเปลี่ยนแปลง คนการเมืองฟันธงคนเก่าชนะแบบไม่สูสี มีฐานเสียงเดิมทั้งจังหวัด

เมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น. วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๗ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ นายก อบจ.ขอนแก่น ได้ยื่นหนังสือลงวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๗ เพื่อขอลาออกจากตำแหน่ง นายก อบจ.ขอนแก่น และให้มีผลวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๗ โดยระบุสาเหตุของการลาออกครั้งนี้ด้วยเหตุผลบางประการ จึงส่งผลให้การปฏิบัติงานของ นายก อบจ.ขอนแก่น และคณะผู้บริหาร ประกอบด้วย รอง นายก อบจ.ขอนแก่น, เลขานุการ นายก อบจ.ขอนแก่น และที่ปรึกษา นายก อบจ.ขอนแก่น ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๗ เป็นต้นไป โดยมีปลัด อบจ.ขอนแก่น ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.ขอนแก่น ทั้งนี้ จะต้องมีการเลือกตั้งภายใน ๖๐ วัน ซึ่งจะครบกำหนดตามกรอบเวลาภายในวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

ต่อมา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดขอนแก่น (กกต.ขอนแก่น) ประกาศให้มีการรับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.ขอนแก่น ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๗ กันยายน ๒๕๖๗ และกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ ซึ่งอยู่ในช่วงระยะเวลาตามกรอบระยะเวลา ๖๐ วัน เพราะเป็นกรณีที่ตำแหน่งว่าง และตามกฎหมายกำหนดว่าจะต้องมีการจัดเลือกตั้งภายในระยะเวลา ๖๐ วัน

โดยนายวัชระ สีสาร ผู้อำนวยการ กกต.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า “กกต.กลางมีหนังสือแจ้งไปยังทุกจังหวัดให้ดำเนินการสำรวจในการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่สืบเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไม่ให้นำจำนวนประชาชนทั้งหมดที่เป็นบุคคลต่างด้าวมาคำนวณประชากรในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นจึงต้องมีการประกาศแบ่งเขตใหม่ ซึ่งขอนแก่นมีทั้งหมด ๒๖ อำเภอ จำนวนสมาชิก อบจ. ทั้งหมด ๔๒ เขต จากการสำรวจเบื้องต้นจะมีผลกระทบที่ต้องแบ่งเขตใหม่มีเพียง ๑ อำเภอคืออำเภอเมือง มีทั้งสิ้น ๙ เขต เหตุที่มีการแบ่งเพราะประชากรในแต่ละเขตมีความแตกต่างกันเกินค่าเฉลี่ยร้อยละ ๑๐ จำเป็นต้องแบ่งให้มีประชากรใกล้เคียงกันมากที่สุด ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีประชากรออกมาใช้สิทธิมากน้อยเพียงใด แต่ถึงอย่างไรดิมประชาชนมีการทราบอยู่แล้วว่าจะมีการครบวาระของ นายก อบจ. และสมาชิก อบจ. ในวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๗ ซึ่ง กกต.เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว อย่างไรก็ดีในการเลือกท้องถิ่นเป็นการเลือกตั้งที่ใกล้ชิดประชาชนซึ่งเชื่อว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิจำนวนใกล้เคียงกับการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมาคือมีผู้มาใช้สิทธิเกือบ ๗๐% จากผู้มีสิทธิทั้งหมด ๑,๔๐๐,๐๐๐ คน

ต่อมาเมื่อเวลา ๐๘.๓๐ น. วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นวันแรกของการรับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.ขอนแก่น ที่หอประชุม อบจ.ขอนแก่น ซึ่งนายพันธ์เทพ เสาวโกศล รอง ผวจ.ขอนแก่น ในฐานะประธาน กกต.เลือกตั้งนายก อบจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายวัชระ สีสาร ผอ.กกต.จ.ขอนแก่น และนายพงเจตน์ พรกุณา ปลัด อบจ.ขอนแก่น ในฐานะ ผอ.กกต.อบจ.ขอนแก่น ร่วมสังเกตการณ์รับสมัครฯ โดยมีนายวัฒนา (ต้อม) ช่างเหลา ประธานสโมรสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด และอดีต ส.ส.ขอนแก่น เดินทางมาสมัคร ซึ่งมีบิดาคือนายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เดินทางมาให้กำลังใจท่ามกลางผู้สนับสนุน

นายวัฒนา ช่างเหลา หมายเลข ๑

ในเวลาต่อมา นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ อดีตนายก อบจ.ขอนแก่น หลายสมัย เดินทางมาสมัครเช่นกัน โดยมีทวีสันต์ วิชัยวงษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น ลูกเขยและคณะมาให้กำลังใจด้วย ซึ่งผลการจับหมายเลขปรากฏว่า นายวัฒนา ช่างเหลา ได้หมายเลข ๑ และนายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ ได้หมายเลข ๒

นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ ผู้สมัครหมายเลข ๑ อดีตนายก อบจ.ขอนแก่น ๖ สมัย เปิดเผยว่า จากประสบการณ์การเป็นนายก อบจ.ขอนแก่น ถึง ๖ สมัย รู้ปัญหาประชาชนชาวขอนแก่นเป็นอย่างไรและแก้ไขปัญหามาตลอด ถ้าได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาคราวนี้จะประสานงานต่อก่องานใหม่ สร้างให้ชาวขอนแก่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการศึกษา การสาธารณสุข การท่องเที่ยว การค้าลงทุน และรู้สึกพอใจกับเบอร์ที่ได้เบอร์ ๒ เป็นเบอร์คู่เป็นเบอร์ที่ดีมาก ในวันนี้ที่ตนและทีมงานใส่เสื้อสีเขียว แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์และแสดงถึงชัยชนะ นอกจากนี้ ยังใส่กำไลของหลวงปู่ศิลาเพื่อเป็นสิริมงคลและพกพระหลวงปู่ประจำตัวมาตลอด การที่เป็นนายก อบจ.มาหลายสมัยเป็นการได้เปรียบคู่ต่อสู้แน่นอน ประวัติไม่เคยเสีย มั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ ๑ ล้านเปอร์เซ็นต์

นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ หมายเลข ๒

ขณะที่ นายวัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมสรฟุตบบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า พร้อมเต็มที่สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนมองว่า อบจ.ขอนแก่นอยู่ที่เดิมมา ๒๘ ปีแล้ว และ ๑๐ กว่าปีที่ผ่านมา ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย จึงอาสาเข้ามาเป็นนายก อบจ.ขอนแก่น เพื่อให้ทุกคนมีทางเลือกใหม่ ขอเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาลงสมัครเป็นนายก อบจ. ในครั้งนี้ ตนจะเป็นคนทำขอนแก่นให้ก้าวไปข้างหน้า เพราะเคยเป็นรองนายก อบจ.มาแล้ว ๗ ปี เห็นปัญหาต่างๆ ของ อบจ. วันนี้มีพ่อมาให้กำลังใจด้วย ตอนนี้บ้านเมืองต้องการความเปลี่ยนแปลง ขอนแก่นต้องก้าวไปข้างหน้าในฐานะคนรุ่นใหม่ ต้องใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบดิจิทัล เข้ามารับเรื่องร้องเรียน ความรวดเร็วในการทำงาน การดูแลแต่ละพื้นที่ ความเดือดร้อนของชาวบ้านต้องปรับปรุงในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา ๑๐ กว่าปี เราจะเข้าไปทำทั้งหมด วันนี้ได้เวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว ฝากชาวขอนแก่นมาเลือกตั้งกันเยอะๆ เพราะการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่ที่คะแนนเสียงชาวขอนแก่น

ต่อมาในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ “โคราชคนอีสาน” สัมภาษณ์นายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น ในฐานะผู้สนใจการเมือง เกี่ยวกับสนามเลือกตั้งนายก อบจ.ขอนแก่น ครั้งนี้ ซึ่งแสดงทัศนะว่า นายพงษ์ศักดิ์อยู่ในตําแหน่งนี้มาหลายสมัยแล้ว มีฐานเสียง ซึ่งอบจ.ต้องเป็นฐานเสียงทั้งจังหวัด จากทั้ง ๒๖ อำเภอของขอนแก่น มีฐานเสียงหนาแน่นมาแต่เดิม และทุกครั้งจะมีเสียงอยู่ที่ประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ กว่าคะแนนทุกครั้งไม่ว่าจะแข่งกับใครก็ตาม มีฐานเสียงอยู่ระดับนี้ เพราะฉะนั้นถ้ายึดฐานเสียงตรงนี้เป็นเกณฑ์ในการที่จะชนะเลือกตั้ง ก็แปลว่าคู่แข่งที่เข้ามาใหม่ (นายวัฒนา ช่างเหลา) ซึ่งเป็นอดีตส.ส.เขต ๒ แต่สมัยที่ผ่านมาสอบไม่ผ่าน จึงมาลงสมัครนายก อบจ. ตนมองว่า ด้วยวัยวุฒิที่ยังเป็นคนหนุ่มแต่วัยก็ไม่ใช่อุปสรรค แต่ตนมองว่าด้วยประสบการณ์ วุฒิภาวะ ความรู้ปัญหา ความจัดเจนในตําแหน่งนายก อบจ.ของนายพงษ์ศักดิ์เหนือกว่าคู่แข่งค่อนข้างเยอะ แม้ว่านายวัฒนาจะได้ฐานเสียงจากเคยเป็นส.ส.เขต ๒ และพ่อมีฐานเสียงในเขต ๑ บางส่วน แต่ก็ถือว่ามีฐานเสียงแค่ ๒-๓ อำเภอเท่านั้น

นายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น

นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า ส่วนเบอร์ ๑ ได้ยินมาว่าไปสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยหมาดๆ อาจจะอาศัยโลโก้เพื่อไทยเพื่อลงสนาม แต่อย่าลืมว่าในอดีตเขาไม่เคยลงสมัครส.ส.เพื่อไทย และปัจจุบันพ่อก็เป็นส.ส.พรรคภูมิใจไทย ก็อาจจะต้องการอาศัยฐานเสียงของคนเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเพื่อที่จะสู้กับแชมป์เดิม แต่เพื่อไทยจะให้เขาใช้โลโก้ไหมได้ยินว่ามีปัญหา ได้ยินว่าเพื่อไทยยังไม่ได้เคาะ ขณะเดียวกันก็มีแกนนําพรรคเพื่อไทยในขอนแก่นออกมาไม่เห็นด้วยที่จะใช้โลโก้พรรค

เมื่อถามว่า การบริหารที่ผ่านมาของนายพงษ์ศักดิ์เป็นอย่างไร? นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาต้องถือว่า ไม่มีคู่แข่งให้เปรียบเทียบ เนื่องจากเป็นนายก อบจ.ติดต่อกันหลายสมัย ถ้าเปรียบกับคนที่เป็นก่อนนายพงษ์ศักดิ์ต้องถือว่านายพงษ์ศักดิ์ดีกว่ามาก เป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่ไม่โดน complain เสียงตําหนิต่อว่ายังไม่มี ส่วนคนใหม่ที่มาลงแข่งนั้นยังไม่เห็นผลงานด้านการบริหาร แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสู้ไม่ได้ แม้จะเคยเป็นส.ส. ซึ่งผลงานของส.ส.กับ อบจ.ไม่เหมือนกัน ตนมองว่าเอามาเปรียบกันไม่ได้ ส่วนการเป็นประธานสโมสรฟุตบอลก็น่าจะได้ฐานเสียงของคนที่นิยมฟุตบอลในพื้นที่อยู่แล้ว

“ถ้าให้ฟันธงผมมองว่าน่าจะสู้กันยาก คิดว่าเบอร์ ๒ (นายพงษ์ศักดิ์) ก็ต้องมาเหมือนเดิม และคะแนนไม่สูสีด้วย” นายวิฑูรย์ กล่าวย้ำ

ท้ายสุด นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ความจริงแล้วตําแหน่งนายก อบจ.มีคนอยากลงเล่นเยอะ แต่ได้แค่อยาก เพราะประเมินแล้วว่าลงไปก็สู้ไม่ได้ ถ้าไม่สังกัดพรรค ไม่มีพรรคหนุน คนที่ลงไปก็ต้องลงสมัครอิสระ เงินทุนที่ใช้ในการเลือกตั้งก็ต้องมี จึงเท่ากับว่ามีคนอยากลงสมัครแต่ประเมินแล้วว่าคงไม่ชนะ สู้ไม่ได้ ก็ไม่ลงให้เจ็บตัว

ทั้งนี้ ภายหลังปิดรับสมัครนายก อบจ.ขอนแก่น ปรากฏว่ามีผู้สมัคร ๔ คน ดังนี้ หมายเลข ๑ นายวัฒนา ช่างเหลา, หมายเลข ๒ นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์, หมายเลข ๓ นายโตบูรพา สิมมาทัน และหมายเลข ๔ นายณัฏฐ์ ก้อนคำ แต่ กกต.ประกาศตัดสิทธิ์หมายเลข ๔

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๕๐ ฉบับที่ ๒๗๖๙ ประจำวันที่ ๑๕ เดือนกันยายน - ๑๔ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๗


301 4,175