5thFebruary

5thFebruary

5thFebruary

 

December 26,2024

‘ทักษิณกับมุมมองต่ออีสาน’ ที่ยังมืดมน จะพันธบัตรคริปโต ขอดิจิทัลวอลเล็ตก่อนไหม?

เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๗ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษหัวข้อ “อนาคตอีสาน โอกาสประเทศไทย” ในงานสัมมนา “ISAN NEXT: พลิกเศรษฐกิจไทย ฝ่าวิกฤตโลก” ที่หอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยกล่าวถึง ภาคอีสานในมุมมองของตน ซึ่งเป็นที่น่ากังวลในหลายมุมมองของนายทักษิณ ที่มีต่อภาคอีสาน และรวมถึงวิสัยทัศน์ในด้านต่างๆ ว่า สิ่งเหล่านั้นจะสามารถพัฒนาภาคอีสานได้จริงหรือ? เราลองมาวิเคราะห์กันทีละประเด็น โดยเริ่มจาก

นายทักษิณ อ้างถึงการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ เพราะสามารถฝึกทักษะความชำนาญได้ โดยเอาวัฒนธรรมที่มีอยู่ของคนอีสาน ที่มีความยากลำบาก จากพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร เอาความอดทนของคนอีสานมาแตกแขนงออกไปในแต่ละด้าน 

คำว่าซอฟต์พาวเวอร์ ยังคงเป็นคำยอดฮิต ที่ยังใช้อยู่เรื่อยๆ แต่ประเด็นหลัก ควรจะพัฒนาความเป็นอยู่คนอีสานให้ดียิ่งขึ้น ปรับปรุงพื้นที่ๆ ยังไม่ได้พัฒนา ที่ๆ กันดาร ตามที่นายทักษิณกล่าวอ้าง จะเป็นการแก้ปัญหาให้ตรงจุดมากกว่า ที่จะใช้ซอฟต์พาวเวอร์ มาแก้ปัญหาหรือเปล่า?

การพัฒนา OTOP ก็ยังไม่มีอะไรแปลกใหม่ ซึ่งนายทักษิณ ยังอุบไว้หลังปีใหม่นี้ เขาจะมาอธิบายให้ฟังว่าจะปรับปรุงอย่างไรให้ขายได้ทั้งโลก เป็นสมัยใหม่มากขึ้น สามารถเทียบแบรนด์หรูๆ ได้โดยไม่ทิ้งวัฒนธรรมของไทย เพียงต้องประยุกต์ให้เป็นสากล

และก็ประเด็นที่ฟังแล้ว ทำไมไม่ทำตั้งแต่แรก อย่าง แอปรายงานพื้นที่ขายยาเสพติด หากมีแอปฯ นี้มันจะเป็นดาบ ๒ คม หรือเปล่า? การนำใช้ให้เกิดผลได้จริง ส่วนนี้ก็น่าติดตามว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่ๆ ของอย่างนี้ควรจะมีตั้งนานแล้ว ซึ่งไม่ควรนำมาเป็นแอปฯ ให้ดาวน์โหลดกันได้ทั่วไป ควรเป็นระบบปิดสำหรับเจ้าหน้าที่ อันนี้เข้าท่า!  

แต่ประเด็นสำคัญที่ฟังแล้ว อิหยังวะ คงไม่พ้นการทำพันธบัตรคริปโตให้ประชาชน ทักษิณบอกว่า วันนี้ประเทศไทยเป็นหนี้สูงกว่า ๖๐% ของ GDP ซึ่งเรามีเพดานอยู่ที่ ๗๐% เพราะฉะนั้นจึงกู้ไม่ไหว รัฐบาลจึงต้องลดหนี้ด้วยการเพิ่ม GDP ที่ผ่านมารัฐบาลออกพันธบัตรขายให้สถาบันการเงินเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ กลับเข้ามาเป็นประธานาธิบดีรอบที่ ๒ และเอาจริงเอาจังเรื่องบิทคอยน์และคริปโตเคอร์เรนซี ถ้าเราไม่ทำก็ไม่ทันเขา แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนไม่เกิดความเสี่ยง

หากเรานำพันธบัตรที่ออกทุกปีปีละ ๘ แสนล้านบาทมาขายให้บุคคลทั่วไป และทำให้อายุพันธบัตรสั้นลงเพื่อหมุนเวียนในตลาดในรูปแบบของเหรียญคริปโต เงินเหล่านี้จะอยู่ในมือประชาชน ดีกว่านำไปแช่ไว้ในสถาบันการเงินซึ่งจะทำให้ GDP ไม่มีทางโต 

เอาตรงๆ ประเด็นคริปโตเคอเรนซี่ ยังเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ที่คนทั่วไปจะเข้าใจ หากไม่ได้ศึกษา ซึ่งการที่จะออกเหรียญดิจิทัล ให้ประชาชนสามารถซื้อ เสมือนการถือแทนพันธบัตรรัฐบาลนั้น ถามว่าทำได้ไหม ขอตอบว่าทำได้ โดยการนำเทคโนโลยี block chain มาช่วยให้สิ่งที่นายทักษิณพูดมาเป็นจริงได้ และจะมีความโปร่งใส ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ด้วย หากใช้ระบบที่เป็นมาตรฐาน และได้รับการยอบรับ ซึ่งตัวอย่างของการใช้ Block chain ในระบบของ Bitcoin ในระบบ poof of work ซึ่งถือเป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับ ๑ ของโลก ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสินทรัพย์ในรูปแบบ “ทองคำดิจิทัล”

แต่คำพูดของนายทักษิณ ทำให้คริปโตดูแย่ลง เพราะอะไรนั่นหรือ ก็เงินดิจิทัลที่หาเสียงไว้นักไว้หนา ยังทำไม่ได้เลย ปล่อยให้คนรอลมๆ แล้งๆ แล้ง แล้วจะหันมาเล่นใหญ่ ทำพันธบัตรคริปโต

เอาเรื่องเก่าให้จบก่อนไหม?

 

• พอพาน

 

           


247 896