January 10,2025
ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดอดีตนายกเทศมนตรีตำบลจอหอ และพวก ซื้อเครื่องออกกำลังกายสนามพร้อมติดตั้ง 79 รายการ 4.4 ล้าน แพงกว่าราคาในท้องตลาด
วันที่ 9 มกราคม 2568 สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา เผยแพร่คดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ที่เกี่ยวข้องกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ดังนี้
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายคณะไต่สวนเบื้องต้นดำเนินการไต่สวนเบื้องต้น เรื่องกล่าวหา นายเสรี ไชยกิตติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กับพวก ทุจริตการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายสนามพร้อมติดตั้ง จำนวน 79 รายการ
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อปีงบประมาณ 2555เทศบาลตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดซื้อเครื่องออกกำลังกายสนาม พร้อมติดตั้ง จำนวน 79 รายการ จำนวนเงิน 4,482,000 บาท ตามสัญญาซื้อขายเลขที่ 32/2555 ลงวันที่ 25 กันยายน 2555 ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการค้าที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้มีสิทธิเข้ายื่นเสนอราคากับเทศบาลตำบลจอหอ เป็นกลุ่มบุคคลที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน กล่าวคือ กลุ่มผู้ประกอบการค้า ทั้ง 3 บริษัท ที่ยื่นใบเสนอราคา คือ บริษัท ไลฟ์สตรอง เซอร์วิส จำกัด, บริษัท เพลย์กราวน์ แอนด์ ฟิตเนส มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และบริษัท อินครีซ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด เป็นกลุ่มผู้ประกอบการค้าที่เข้ายื่นเสนอราคาแข่งขันในการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องออกกำลังกายของเทศบาลตำบลจอหอ ดังนั้นจากข้อเท็จจริงในเรื่องความสัมพันธ์ของกลุ่มผู้ประกอบการค้าที่ตรวจพบทำให้ราคาที่เสนอราคามีราคาที่ใกล้เคียงกันซึ่งไม่เป็นไปตามราคาในท้องตลาดอย่างแท้จริง ทำให้เทศบาลตำบลจอหอต้องจัดซื้อสินค้าในราคาแพงกว่าราคาที่เป็นอยู่จริงในท้องตลาดทั่วไป นอกจากนี้ ยังพบว่าในการกำหนดราคาค่าซื้อเอกสารประมูล การกำหนดราคากลาง การกำหนดเงื่อนไขคุณสมบัติของผู้เสนอราคา การกำหนดรายละเอียดแบบและคุณสมบัติเครื่องออกกำลังกายสนาม พร้อมติดตั้ง มีลักษณะเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้มีอาชีพขายเครื่องออกกำลังกายสนามดังกล่าวกรณีนี้จึงเข้าข่ายเป็นการตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยการหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม และเป็นเหตุให้ผู้มีอาชีพค้าเครื่องออกกำลังกายสนามรายอื่น ไม่มีโอกาสแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้บริษัท ไลฟ์สตรอง เซอร์วิส จำกัด ได้รับคัดเลือกเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับเทศบาลตำบลจอหอ ทำให้เทศบาลตำบลจอหอได้รับความเสียหาย
• คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
การกระทำของนายเสรี ไชยกิตติ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหรือหน้าที่ในการอนุมัติการพิจารณาหรือการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคาครั้งใด รู้หรือมีพฤติการณ์ปรากฏแจ้งชัดว่าควรรู้ว่าการเสนอราคาในครั้งนั้นมีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ละเว้นไม่ดำเนินการเพื่อให้มีการยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอราคาในครั้งนั้น ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไข หรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดได้มีสิทธิเข้าสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 และมีมูลความผิด ฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย หรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือมีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาล หรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73
การกระทำของนางฐิติรัตน์ ชุดทะเล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไขหรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดได้มีสิทธิเข้าสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออ านวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และฐานปฏิบัติราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544 ข้อ 3 และข้อ 6 วรรคสอง
การกระทำของนางยุพาพร พิทักษ์วงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นายสมศักดิ์ คูเกาะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 และนางชนิตา ฤกษ์มี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 จากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า ได้กระทำความผิดทางอาญาตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความอุตสาหะ เอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของราชการและประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544 ข้อ 5 วรรคหนึ่ง
การกระทำของบริษัท ไลฟ์สตรอง เซอร์วิส จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 และนางสาวอุทัยทิพย์ แก้วมณี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดหาหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไขหรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใด ได้มีสิทธิเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
การกระทำของบริษัท อินครีซ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 นางสาวชฎาธาร ณ น่าน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 บริษัท เพลย์กราวน์ แอนด์ ฟิตเนสมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 10 และนายภูมิพัฒน์ สามสีเนียม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 11 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายเสรี ไชยกิตติ นางฐิติรัตน์ ชุดทะเล บริษัท ไลฟ์สตรอง เซอร์วิส จำกัด นางสาวอุทัยทิพย์ แก้วมณี บริษัท อินครีซ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด นางสาวชฎาธาร ณ น่าน บริษัท เพลย์กราวน์ แอนด์ ฟิตเนสมาร์เกตติ้ง จำกัด และนายภูมิพัฒน์ สามสีเนียม และให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัยกับนายเสรี ไชยกิตติ นางฐิติรัตน์ ชุดทะเล นางยุพาพร พิทักษ์วงศ์ นายสมศักดิ์ คูเกาะ และนางชนิตา ฤกษ์มีตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) มาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ
รวมทั้งแจ้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการกระทำของบริษัท ไลฟ์สตรอง เซอร์วิส จำกัด บริษัท เพลย์กราวน์ แอนด์ ฟิตเนสมาร์เก็ตติ้ง จำกัด บริษัท อินครีซ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด นางสาวอุทัยทิพย์ แก้วมณี นางสาวชฎาธาร ณ น่าน และนายภูมิพัฒน์ สามสีเนียม ให้กรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้เป็นผู้มีลักษณะเป็นผู้ทิ้งงาน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต่อไปด้วย
ทั้งนี้ การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
39 1,634