" /> ">

 

12thMarch

12thMarch

12thMarch

 

February 17,2025

สภาทนายความนำลูกจ้าง “ฟูไน” 55 คน ฟ้องศาลแรงงานภาค 3 หวั่นถูกเพิกเฉยไม่จ่ายค่าชดเชย

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศาลแรงงานภาค 3 นครราชสีมา นายวีระศักดิ์ บุญเพลิง กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 3 พร้อมด้วยนายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมาและทีมทนายความอาสานัดหมายกลุ่มอดีตลูกจ้าง บริษัท ฟูไน (ไทยแลนด์) จำกัด สาขา อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โรงงานผลิตชิ้นส่วนวิทยุ โทรทัศน์และอุปกรณ์ไฟฟ้าส่งออกต่างประเทศ จำนวน 55 คน ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบกรณีโรงงานได้ประกาศปิดกิจการถาวรและเลิกจ้างลูกจ้างทั้งหมด 831 คน โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ทำให้เป็นคนว่างงานกะทันหันและกังวลใจการรับเงินชดเชย โดยบริเวณหน้าประตูทางเข้าศาลแรงงาน มีอดีตแรงงานชูป้าย “นายจ้างญี่ปุ่น เหยียบย่ำศักดิ์ศรีคนไทย ปิดโรงงานไม่จ่ายค่าชดเชย”, “กระทรวงแรงงานช่วยลูกจ้างด้วย ปิดโรงงานฟ้าผ่า นายจ้างลอยแพ ลูกจ้างตกงานไม่มีค่าชดเชย”, “ประกาศเลิกจ้าง ค่าชดเชยอยู่ไหน” และ “นายจ้างอยู่ไหน รัฐบาลอุ้งอิ้ง ช่วยตามหน่อย”

นายวีระศักดิ์ บุญเพลิง กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 3 เปิดเผยว่า ในฐานะสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เตรียมทีมทนายความอาสาให้ช่วยเหลือทางด้านกฎหมายกับกลุ่มอดีตลูกจ้างฟูไน กรณีได้รับความเดือดร้อนถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม เพื่อนำคดีขึ้นสู่ศาลฯพิจารณา รวมทั้งช่วยเหลือเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาภายในศาล จำนวน 55 คดี ที่ผ่านมาช่วยเหลือไปแล้ว 150 คดี โดยในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2568 ทยอยขึ้นศาลฯ เฉลี่ยวันละ 50 คดี ซึ่งเป้าหมายดำเนินการให้ครบทั้ง 764 คดี

 

ด้านนายพรเทพ เจริญพงษ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า พบความเคลื่อนไหวของทางฝ่ายนายจ้างฟูไน ได้ทำการยกเลิกบริษัท การส่งหมายเรียกของสำนวนคดีจึงต้องส่งไปที่ผู้ชำระบัญชีของบริษัทแทน ส่วน 150 คดีแรกที่ตัดสินไป ศาลได้ออกหมายยึดที่ดินที่ตั้งโรงงาน แต่นายจ้างสร้างความลำบากให้แก่คดีที่กำลังจะทยอยขึ้นศาล จึงต้องส่งหมายเรียกใหม่กว่า 400 คดี

นายประวิทย์ วิสวิสูตร อายุ 50 ปี อดีตผู้จัดการฝ่ายผลิต เปิดเผยว่า ตนทำงานกับโรงงาน 11 ปี ถูกเลิกจ้างแบบฟ้าผ่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมาย ถึงวันนี้ผ่านมาแล้ว 90 วันยังเฝ้าติดตามความคืบหน้า เพื่อให้ได้ข้อสรุป พวกเรารู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่สภาทนายความและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญ สนับสนุนช่วยเหลือลูกจ้างได้รับความเป็นธรรม

ทางด้านนางปุณชรัตสมิ์ สลักคำ อายุ 49 ปี อดีตหัวหน้างานฝ่ายผลิต เปิดเผยว่า ทำงานที่โรงงานนี้ประมาณ 19 ปี 6 เดือน ต้องได้รับเงินค่าชดเชยประมาณ 2.9 แสนบาท ขอขอบคุณสภาทนายความและอธิบดีศาลแรงงานช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรม ทำให้ได้รับค่าชดเชยอย่างเป็นธรรม ส่งผลให้ได้มีเงินทุนนำไปต่อยอดประกอบอาชีพอื่นต่อไป เพราะอดีตลูกจ้างส่วนใหญ่อายุเกินเกณฑ์รับสมัครแรงงานไม่สามารถกลับใช้แรงงานได้ จำเป็นต้องประกอบอาชีพอิสระ


17 700