27thApril

27thApril

27thApril

 

April 04,2025

‘กรมโยธาธิการและผังเมือง’ เปิดเวที รับฟังความคิดเห็นต่อร่างผังนโยบายระดับประเทศ  ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของภาคอีสาน

 

วันนี้ (วันที่ 4 เมษายน 2568) เวลา 10.00 น. นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดการประชุม โดยมี นางสาวจริยาพร จิตต์ใจมั่น รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้กล่าวรายงานการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างผังนโยบายระดับประเทศของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมจำนวนกว่า 800 คน ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนองค์กรพัฒนาเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิ ภาคเอกชน ประชาชน สื่อมวลชน เข้าร่วมประชุมทั้งในรูปแบบ On-Site และ Online ณ โรงแรมเซ็นทารา โคราช จังหวัดนครราชสีมา

กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการวางผังนโยบายระดับประเทศ ตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบาย และยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในด้านการใช้พื้นที่ การพัฒนาเมืองและชนบท การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่พิเศษ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตลอดทั้งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ดำเนินการจัดประชุมขึ้นทั้งในรูปแบบการประชุมแบบ On-Site และการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (VDO Conference) ระบบ Zoom Webinar เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมแสดงข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างผังนโยบายระดับประเทศอย่างทั่วถึง

นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

ภายในงานมีการนำเสนอข้อมูลสำคัญในช่วงแรก ได้แก่ การนำเสนอภาพรวมของโครงการ และกรอบนโยบายการใช้พื้นที่ของประเทศและภาค โดย คุณมนต์ชัย วงษ์กิตติไกรวัล และคุณทวีรัตน์ จิรดิลก ซึ่งได้นำเสนอถึง “การพัฒนาประเทศไทยผ่านผังนโยบายระดับประเทศ” ในฐานะแผนระดับที่ 3 ของชาติ ที่พร้อมขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติโดยอาศัยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวยังได้นำเสนอถึงข้อมูลสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในระดับโลก หรือ Megatrends ประกอบด้วย การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ภาวะสงครามทางการค้าและการแบ่งขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจโลก แนวโน้มของความเป็นเมืองที่เพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคมยุคดิจิทัล และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากนั้นได้นำเสนอประเด็นการพัฒนาสำคัญของประเทศไทยที่ต้องตระหนักถึงและให้ความสำคัญอย่างยิ่งปัจจุบัน ได้แก่


• การวางแผนรับมือกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 
• การเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างประชากรจากการก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ พร้อมกับภาวะการขาดแคลนแรงงานที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 
• การจัดเตรียมที่อยู่อาศัยในเขตเมืองอย่างเพียงพอรองรับการเพิ่มขึ้นของประชากรเมืองของประเทศ
• การสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศด้วยการพัฒนาเกษตรสร้างมูลค่า อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต ท่องเที่ยวคุณค่าสูง และการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษให้เป็นศูนย์ด้านการลงทุนในระดับภูมิภาค 
• การกำหนดการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้เกิดความสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์มากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การลดลงอย่างต่อเนื่องของพื้นที่ป่าไม้ของประเทศไทยที่ต้องเร่งสร้างความยั่งยืนโดยเพิ่มพื้นที่
ป่าไม้ให้ได้ร้อยละ 35 ของพื้นที่ประเทศ พร้อมทั้งเร่งแก้ปัญหาการขยายตัวของพื้นที่เมืองอย่างไร้ทิศทาง (Urban Sprawl) สร้างผลกระทบต่อการลดลงของพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่แหล่งน้ำ และพื้นที่ป่าไม้ 
• การกำหนดแนวทางการตั้งถิ่นฐานปลอดภัย พร้อมทั้งการแก้ปัญหาความไม่สมดุลของโครงสร้างระบบเมืองจากการที่ประเทศไทยมีเมืองขนาดใหญ่และขนาดกลางจำนวนน้อยไม่เพียงพอต่อการกระจายโอกาส
การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะได้อย่างเพียงพอ โดยการสร้างสมดุลของระบบเมืองเป็นลำดับศักดิ์และยกระดับการพัฒนาเมืองรองให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค 
• การผลักดันการพัฒนาประเทศไทยสู่การแข่งขันในระดับสากลในด้าน Global Aviation Hub, Digital Hub และ Medical Hub
• การสร้างความมั่นคงทางพลังงาน และส่งเสริมให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานสะอาด 

นางสาวจริยาพร จิตต์ใจมั่น รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง


ผังนโยบายระดับประเทศจึงเป็นแผนนโยบายด้านกายภาพที่จะช่วยแก้ปัญหาและพร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ของประเทศอย่างเป็นองค์รวม สร้างโอกาสการมีงานทำ และกระจายโอกาสการพัฒนาอย่างทั่วถึง เพื่อให้ประเทศไทยเป็น “ประเทศที่น่าอยู่สำหรับทุกคน เชื่อมโยงภูมิภาค ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม พร้อมรับการเติบโตอย่างยั่งยืน” ตามวิสัยทัศน์ ปี พ.ศ. 2580 ของโครงการ นอกจากนี้ จากการเห็นพ้องร่วมกันของทุกภาคส่วนในเวทีการประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3 ที่ผ่านมา จึงได้กำหนดแนวทางการพัฒนาประเทศไทยภายใต้กรอบนโยบายการใช้พื้นที่ของประเทศและภาค พ.ศ. 2580 ไว้ดังนี้ 

• การเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่ง โครงข่ายสื่อสาร และโครงข่ายพลังงานทั้งในและระหว่างประเทศ 
• การพัฒนาเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมมูลค่าสูงแห่งอนาคต 
• การพัฒนาศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคมในทุกภูมิภาคของประเทศเพื่อการเติบโตอย่างทั่วถึงและลดความเหลื่อมล้ำ 
• การพัฒนาพื้นที่เมืองและชนบทให้เติบโตอย่างสมดุล น่าอยู่ 
• การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค 
• การอนุรักษ์และฟื้นฟูฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 
• การสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

ช่วงเวลาสำคัญถัดมาของการประชุมคือ การนำเสนอ “ร่างผังนโยบายรายสาขา” ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของงานประชุมในครั้งนี้ นำเสนอโดย รศ.ดร.พนิต ภู่จินดา ผู้เชี่ยวชาญการวางแผนภาคและเมือง ร่วมกับ ผศ.ดร.ศิรดล ศิริธร ผู้เชี่ยวชาญด้านการคมนาคมและการขนส่ง คุณบุรี สุวรรณรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำ และ รศ.ดร.มนตรี แย้มกสิกร ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา เพื่อบรรยายให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านทราบถึงนโยบายการพัฒนาพื้นที่ประเทศไทย ปี พ.ศ. 2580 ในด้านต่าง ๆ ทั้งหมด 14 สาขาได้แก่
• นโยบายการใช้ประโยชน์พื้นที่
• นโยบายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศ
• นโยบายการตั้งถิ่นฐานและระบบชุมชน
• นโยบายการพัฒนาเมืองและชนบท
• นโยบายโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยว
• นโยบายศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
• นโยบายพื้นที่พัฒนาพิเศษ
• นโยบายโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมและการขนส่ง
• นโยบายการเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาค
• นโยบายโครงสร้างพื้นฐานการพลังงาน
• นโยบายโครงสร้างพื้นฐานการจัดการน้ำ
• นโยบายโครงสร้างพื้นฐานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
• นโยบายโครงสร้างพื้นฐานการสาธารณสุข
• นโยบายโครงสร้างพื้นฐานการศึกษา

และทั้งหมดนี้คือ ภาพรวมของทิศทางการพัฒนาพื้นที่ประเทศไทยในอนาคต ที่จะเกิดขึ้นจาก
กรอบนโยบายการพัฒนาพื้นที่ที่ผังนโยบายระดับประเทศกำหนด เพื่อให้การพัฒนาประเทศไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเกิดความยั่งยืน

จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนการระดมความคิดเห็นต่อ “ร่างผังนโยบายระดับประเทศ” ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองได้รับความร่วมมือจากผู้เข้าร่วมประชุมเป็นอย่างดียิ่ง และจะนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในที่ประชุมมาใช้ปรับปรุงผังนโยบายระดับประเทศต่อไป


 


75 3,934