25thDecember

25thDecember

25thDecember

 

October 05,2016

ตอน ๒๔ ... หิมะพม่า

 

         ผมจำได้ว่า สามปีที่ผมออกท่องเที่ยวเลาะตามตะเข็บชายแดนบ้านเรา เป็นสามปีที่ผมหาเงินได้น้อยที่สุดในประวัติการทำงาน แต่มันกลับเป็นสามปีที่ผมมีความสุขที่สุด รู้สึกสบายไม่เร่งรีบกับสิ่งรอบข้าง ไม่ต้องวุ่นวายกับคนมากๆ ผมเลิกสะสมสิ่งที่เป็นวัตถุ เอาเท่าที่มีอยู่ก็ไม่เดือดร้อน ไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลยครับ แต่เมื่อเลิกสะสมเลิกนิยมวัตถุ ความต้องการต่างๆ ที่เคยมีมากๆ มันก็เลยรู้สึกเฉยๆ ของที่จะซื้อมันก็ยังใช้งานได้นี่น่า

ลดความอยาก ก็มีเหลือ
ลดความต้องการ ก็ไม่ต้องจ่าย


         เมื่อก่อนงานมอเตอร์โชว์ผมต้องขอเข้าไปดู ดูว่ามีรถอะไรใหม่ๆ สวยๆ ที่พอจะเปลี่ยนมาใช้บ้าง ช่วงนั้นมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมเปลี่ยนรถป้ายแดงมาใช้ปีเว้นปี รถคันที่ใช้อยู่ก็ห้าปีแล้ว แต่ก็เฉยๆ กับมัน มันพาผมไปได้ทุกที่เหมือนรถใหม่ๆ ความคิดที่จะเปลี่ยนทิ้งก็เลยไม่มี อีกสองปีข้างหน้าค่อยว่ากัน เอาเงินไปเที่ยวก่อนดีกว่า มีเงินเมื่อไรก็ซื้อรถใหม่ๆ ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามีเงินจะเดินทางไปท่องเที่ยวได้เสมอ เพราะเงินมากไม่ได้บอกว่ามีสุขภาพดีตามไปด้วย เพื่อนผมหลายคนมีเงินมากกว่าผมเยอะแยะ แต่ให้หิ้วเป้เดินทางข้ามเส้นประเทศออกไปคนเดียวไปไม่ได้ เพราะปัญหาหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็หมายถึงสุขภาพด้วย รักษาสุขภาพกันมากๆ ครับ เป็นคำพูดที่ง่ายๆ แต่ปฏิบัติตามยากมาก แม้แต่คนที่กำลังอ่านบทความผมอยู่ก็เช่นกัน พอบอกให้ออกกำลังกายบ้างจะโบ้ยหน้าทันที พร้อมส่ายหัวพูดว่า ไม่มีเวลาว่ะ..จริงไหมครับ


         เราเป็นอาเซียนด้วยกัน ก็ไม่ต่างจากเขตประเทศเรากว้างออกไปไกลมาก เรามีสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มมาอีกมากมายที่เรามีแค่หนังสือเดินทางก็เดินเข้าไปได้แล้ว เอาง่ายๆ อยากไปเล่นหิมะบ้าง เราก็ไม่ต้องนั่งเครื่องไปไกลให้เมื่อยก้น หิมะที่พม่านี่เองครับใกล้ๆ คนสิบคนเดินมาผมว่าทั้งสิบคนไม่รู้ว่าในพม่ามี หิมะ และที่สำคัญเราก็ไปเล่นได้เสียด้วย

อาเซียนใครว่าไม่มีหิมะ
ตอนเหนือสุดของพม่า..มีหิมะ
และที่สำคัญกำลังเปิดเมือง


         ที่เห็นในรูปหิมะนะครับ นี่ละหิมะในอาเซียนที่มีมานาน นานมาก นานก่อนคุณกับผมจะเกิดเสียอีก หิมะมันก็ตกอยู่บนยอดเขานี้มาตั้งแต่โลกเริ่มเย็นตัว แต่เราไม่รู้ว่ามันอยู่ใกล้ๆ แค่ปลายจมูกนี่เอง รู้จักเมืองปูเตาไหมครับ


         เมืองปูเตา เป็นหัวเมืองทางเหนือสุดของพม่า ติดกับเทือกเขาหิมาลัย เป็นเมืองที่ปกครองโดยชนกลุ่มน้อยที่ยังไม่ลงรอยกับรัฐบาลทหารของพม่ามานาน แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลา ยิ่งพม่าปกครองด้วยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง อะไรที่เคยเป็นกฎกติกาที่ยุ่งยาก ก็เริ่มคลายตัวออกเรื่อยๆ


         สวยถูกใจน่าไป น่าหลงใหลไหม นี่ละครับผมเอาให้ดูอีกมุมของยอดภูเขาหิมะในพม่า (ขอบคุณรูปจากอินเทอร์เน็ต) เห็นแล้วหลายคนคงแทบจะคว้าปฏิทินมากา   วันหยุดพักร้อนกันไปเลย ใจเย็นๆ ครับ ค่อยๆ ทำความเข้าใจ ทำความรู้จักกันไป เพราะเมืองนี้ยังใหม่กับโลกภายนอกนัก


         เมื่อสองปีที่แล้ว เคยมีการเจรจาเปิดสายการบิน บินตรงจากเชียงใหม่มาเมืองหิมะพม่า แต่ผลการเจรจาก็ยังไม่มีข้อยุติ เพราะยังไม่ได้จุดลงตัวกันเรื่องผลประโยชน์ พื้นที่นี้ยังอยู่ในอาณัติของชนกลุ่มน้อย มันเกี่ยวกับความปลอดภัย..ต้องรอครับ


         อย่างที่ผมบอกตอนนี้ในพม่าเป็นรัฐบาลพลเรือน อะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลงได้ หากผ่านการเจรจาที่พอใจกันสามฝ่าย ชนกลุ่มน้อยกับรัฐบาลกลางพม่าและเอกชนไทย คงได้มีข่าวที่ดีออกมา ถึงวันนั้นผมจะเอามาบอกที่คอลัมน์นี้ทันที ยังไงได้ไปแน่ครับ

นาทีนี้เมืองหิมะพม่าก็ปรับเปลี่ยน
การเข้าไปเที่ยวยังต้องมีมัคคุเทศก์ประจำ


         บ่ายวานนี้ (๑๐ มิ.ย.๕๙ ) ผมก็ได้สอบถามเจ้าหน้าที่สถานทูตของพม่าเรื่องเมืองปูเตา ก็ได้คำตอบว่าสามารถเดินทางไปได้ แต่ต้องขอวีซ่าพิเศษและต้องมีมัคคุเทศก์เข้าไปด้วย เพราะในพื้นที่นั้นได้จัดเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวแบบ ECO-TOURISM


         แหม..ได้ยินแค่นี้ก็ดีใจแล้ว ใครจะคิดละว่าเรื่องที่ผมกับเพื่อนพูดคุยกันเล่นๆ เมื่อห้าปีที่แล้ว จะเริ่มซื้อตั๋วเดินทางกันได้ในช่วงชีวิตนี้ เพราะพม่าปกครองแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยรัฐบาลทหารมานาน นานจนโลกลืม ลืมเพราะถูกโดดเดี่ยว 


         พม่าโดดเดี่ยวไม่ติดต่อกับใคร จนเราก็ลืมไม่รู้ว่าพม่าเป็นหนึ่งเดียวในอาเซียนที่มีหิมะอยู่ตลอดปี ที่ใช้คำว่าตลอดปีก็เพราะในลาวในเวียดนามก็เคยมีหิมะนะครับ มีหลักฐานบันทึกไว้ด้วย นั่นไงคุณก็ไม่เชื่ออีกว่าลาวเคยมีหิมะตก มีครับในฝั่งลาวเคยมีหิมะ รู้จักยอดเขาภูเบี้ยไหมครับ ภูเขาที่เฮลิคอปเตอร์ของทหารลาวบินไปชนตายยกลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ชั้นสูงรัฐบาลลาวอีกสิบกว่านาย เป็นข่าวใหญ่ไปเมื่อสองปีที่แล้วนั่นละภูเบี้ย


         เห็นไหมครับรอบบ้านเราใกล้ๆ แค่นี้เอง มีเรื่องที่เราไม่รู้อีกเยอะ หิมะที่ภูเบี้ยไม่ได้ตกตลอดปีมีเป็นบางช่วงเท่านั้น แต่ที่เราไม่ได้ข่าวอะไรออกมาจากภูเบี้ยก็เพราะในพื้นที่นั้นยังปกครองด้วยชุมชนเผ่าม้งเกือบ ๖๐,๐๐๐ คน ที่เพิ่งเริ่มสงบสงครามกลาง เมืองกับฝ่ายรัฐบาลไปเมื่อปี ๒๕๔๙ นี่เอง ภูเบี้ยจึงยังเป็นเรื่องที่เดินทางเข้าไปถึงได้ยาก ดูห่างไกลที่จะเดินทางเข้าถึง ทั้งๆ ที่อยู่แขวงเชียงขวาง แค่นี้เอง ก็คงเหมือนๆ กันละครับเพราะโลกใบนี้มันเล็ก เล็กเกินกว่าจะปิดกั้นอะไรกันได้ เทคโนโลยีมีกันทุกหมู่ บ้านทุกมุมเมือง ภูเบี้ยก็เหมือนกันที่ไม่อาจต้านกระแสสังคม คงพัฒนาไปในทางสงบราบรื่นปลอดการสู้รบขึ้นเรื่อยๆ แล้วไม่แน่ น่าหนาวปีใดปีหนึ่งคุณอาจได้ไปเห็นหิมะที่ภูเบี้ยบ้าง

สงสัยหรือเปล่า
ทำไมภูเบี้ยมีหิมะได้
แล้วดอยอินทนนท์ทำไมไม่มี


         คืออย่างนี้ครับตอบแบบทุบโต๊ะกันเลย ภูเบี้ยมีความสูงกว่ายอดเขาใดๆ ในประเทศไทยบ้านเรา ยอดเขาที่สูงที่สุดของเราก็ต้องดอยอินทนนท์เชียงใหม่ แต่มันก็เตี้ยกว่าภูเบี้ยครับดอยอินทนนท์ของเราสูง ๒,๕๖๙ เมตร แต่ภูเบี้ยสูง ๒,๘๑๙ เมตร  สูงกว่าเราร่วมสามร้อยเมตร ในระดับความห่างจากเส้นศูนย์สูตรก็อยู่ในระนาบเดียวกัน แต่ตรงความสูงกว่าเราสามร้อยเมตรนี่ละครับ ที่มีการบันทึกไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๐ น่าหนาวมีหิมะปกคลุมบนยอดภูเบี้ยเป็นครั้งคราว ทุกวันนี้ การเดินทางเข้าไปยังไม่ปลอดภัยนัก ข้อมูลของยอดภูเบี้ยนี้จึงมีออกมาโลกข้างนอกน้อยนัก แต่มันก็อยู่แค่เชียงขวางเองครับ ยังอยู่ในพื้นที่ที่ผมเดินทางเลาะเป็นประจำ ทุ่งไหหินไงครับ


         ทุ่งที่มีไหที่ทำจากหินใบใหญ่ๆ ฝังอยู่โผล่ขึ้นมาแต่ปากไห ให้ผู้คนสอบถามกันเล่นๆ ถึงที่มาว่าใครเป็นคนสร้างไว้ ภูเบี้ยที่ผมว่าก็อยู่ไม่ไกลจากทุ่งไหหินนี้ ไว้เข้าไปเชียงขวางจะหาชาวม้งที่เป็นคนพื้นที่พาขึ้นไปให้ใกล้ภูเบี้ย ให้ได้ข้อมูลใหม่ๆ ออกมาบ้างผมไปเที่ยวครับไม่ใช่นักสร้างสาระคดีอะไรใหญ่โต เดินเอาเป้ขึ้นหลังไปคนเดียวผมว่ามันคล่องตัวดี 

ภูเบี้ยต้านแรงหมุนของโลกไม่ได้
วันหนึ่ง..ต้องปรับไปตามโลกภายนอก


         เรื่องความปลอดภัยสำหรับผมไม่รู้สึกกลัวอะไรเฉยๆ อยู่ที่ไหนก็ตายครับ อยู่เมืองไทยบ้านเรานั่งกินข้าวคุยกันอยู่หน้าบ้านตัวเองแท้ๆ ยังมีคนเอาปืนมายิงคว่ำตายคาชามข้าว ตายแบบไม่รู้ตัวเลย ตายแบบมีห่วง และอีกอย่างผมเข้าไปฝั่งโขงไม่ได้ไปทำอะไรผิดกติกาของชนท้องถิ่น และคนท้องถิ่นก็สื่อสารภาษาไทยได้เป็นส่วนมาก พูดกันเข้าใจไม่มีอะไรถึงตายหรอก..ผมว่านะ


         กลับไปเมืองพม่าดีกว่า วกเข้าลาวซะหลายบรรทัด ผมเอาแผนที่แสดงที่ตั้งของเมืองหิมะพม่าให้ดู ซ้ายเป็นอินเดียขวาเป็นจีน แต่เมืองหิมะของพม่าแหลมทะลุขึ้นไปจนถึงเทือก เขาหิมาลัย ไม่ต้องสงสัยทำไมจะไปเล่นสกีที่เมืองโสร่งไม่ได้

ยอดเขาพม่าสูงที่สุดในอาเซียน


         ผมจะไล่ความสูงยอดเขาในอาเซียนให้ อันดับหนึ่งข่ากาโบราซีในพม่าสูง ๕,๘๘๑ เมตร ที่สองคินาบาลมาเลเซียสูง ๔,๐๙๕ เมตร ที่สามฟานซีปันเวียดนามสูง ๓,๑๔๓ เมตร ที่สี่ก็ภูเบี้ยของลาว ๒,๘๑๙ เมตร และน้องนุชสุดของเราความสูง ๒,๕๖๕ เมตรที่ ดอยอินทนนท์ 

         วันนี้จบด้วยสถิติ ความสูงของยอดเขา อ้อ..ที่สูงที่สุดของโลกก็ต้องเอเวอเรสต์ พี่ใหญ่นี้สูง ๘,๘๔๔ เมตร เขียนให้อ่านง่ายขึ้นก็คือมันสูงแทงขึ้นไปบนฟ้าถึงเกือบ ๙ กิโลเมตร บนนั้นฟ้าใสสวย แต่ออกซิเจนบางเบาหายใจลำบาก  เราไปเล่นหิมะเพื่อนบ้านในอาเซียนด้วยกันดีกว่า เพราะไปมาง่ายหน่อย

        เอาไว้รอฟังผลการเจรจาสามฝ่าย ไทยพม่าและชนกลุ่มน้อยเสร็จเมื่อไร จะเอาความคืบหน้าแวะเดินมาบอกกันทันที พร้อมที่พัก และอาหารการกินการอยู่ในเมืองหิมะพม่า..


นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๖๘ วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ - วันจันทร์ที่ ๒๐ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๙


696 1,443