October 08,2016
ตอน ๔๖ … BUI VIEN ถนนเเสงสี มากด้วยหนุ่มๆ สาวๆ
BUI VIEN ถนนเเสงสี มากด้วยหนุ่มๆ สาวๆ
ผมเดินละออกจากลานฝูงชนที่มากด้วยคน หยิบแผนที่เดินไปตามถนนที่หักซ้ายขวาไปเรื่อยๆ ผังเมืองลุงโฮมีรูป แบบเป็นบล็อกสี่เหลี่ยม การเดินตามแผนที่จึงไม่ยุ่งยากอะไร ไม่ นานผมก็มาถึงหัวถนนที่มีภาษาอังกฤษว่า PHAM NGU LAO อ๋อ..อ่านว่าฟามงูหลาว แต่คนเวียดนามจะออกเสียง “หลาว” เป็น “เหลว” ใครไปฟังสำเนียงกับเจ้าของประเทศได้ยังไงก็มาบอกกัน บ้างนะครับ แต่ไม่ใช่ฟาร์มงูหลามแน่ๆ เราชอบเอามาพูดกัน เล่นบนโซเชียลจนนึกว่ามาถึงเมืองลุงโฮแล้ว ต้องไปที่ฟาร์ม งูหลามที่แรกเลย หลาว..ครับหลาว
ถนน..มีแต่ฟามงูหลาว
ฟาร์มงูหลามไม่มี คนละเรื่องกัน
และแล้ว..ผมก็มาถึงถนนที่ต้องการมา แม้จะสี่ทุ่มนิดๆ แต่ความคึกคักก็ไม่ได้เบาลงเลยสำหรับชีวิตในเมืองใหญ่ ผมตั้งใจเดินหาโรงแรมนี้ซึ่งก็หาได้ไม่ยากเย็นอะไร อยู่ตรงกันข้ามกับสวนสาธารณะพอดีเลย KIM KHOI HOTEL
ผมทำการบ้านมาก่อนเดินทาง เห็นคนที่เคยมาพักที่นี่แล้วเขียนรีวิวเอาไว้ทั้งไทยทั้งเทศ ราคา ๑๖ ดอลลาร์ที่ได้มาต้อง ถือว่าไม่แพง ไม่ได้มาโฆษณาอะไรครับแต่เห็นสมราคาจริงตาม ที่ลงกันไว้ในโซเชียล แถมมีมื้อเช้าให้กินฟรีๆ ปกติไปการทำ งานต่างเมืองผมจะเปลี่ยนที่พัก เพื่อได้เจอผู้คนเรื่อยๆ แต่เมืองนี้ ใช้บริการที่นี่ตลอด อุปกรณ์ทุกอย่างมีให้ครบ เราใช้เป็นแค่ที่ล้มตัวลงนอน รุ่งเช้าก็ออกท่องเที่ยวต่อ
ใครที่จะมาเมืองนี้ เริ่มที่นอนที่นี่ก่อนก็ได้ครับ รุ่งขึ้น ค่อยไปเดินเลือกที่นอนใหม่มีเยอะแยะมากมาย ผมเดินดูมาให้แล้วมีราคาเท่าๆกัน แต่ที่ผมเลือกไว้นี้มีมื้อเช้าทั้งแบบเบาๆและหนักๆให้ได้เลือกกินพอมีแรงไว้เดินเที่ยวได้สบาย มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเวียดนาม ทั้งกาแฟไข่ดาวขนมปัง และกล้วยหอมเขียวใบเขื่องๆทั้งหมดนี้ฟรี แล้วผมจะไปจ่ายที่อื่นให้เป็นภาระกระเป๋าทำไมละ
ย่าน BACKPACKER ที่พักเยอะ
๖ ดอลลาร์ เป็นแบบ HOSTEL
เอาละทีนี้ผมได้ที่ซุกหัวนอนแล้ว ได้กุญแจพร้อมกับพูด คุยทักทายเจ้าของโรงแรมเล็กๆ นี้แล้วก็เดินเข้าลิฟท์ ลืมบอกไป เจ้าของที่เป็นผู้ชายสูงวัยเท่านั้นที่สื่อสารอังกฤษไม่ได้ แต่เมียกับลูกสาวที่ดูแลอยู่ สามารถแนะนำอะไรคุณเป็นภาษาอังกฤษได้ดี และไม่ได้แนะนำแบบพอแล้วๆ นะ รอยยิ้มครับ กันเองดีมาก
เข้าห้องได้ก็ล้างหน้าล้างตาพอแล้ว รออะไรละครับ เดินทางมาซะไกล ทุกเวลาที่นาฬิกาเดินเป็นเรื่องที่ควรอยู่นอกห้องมากกว่านอนดูทีวี วางทุกอย่างที่ไม่จำเป็นลงบนเตียง มีแค่กระเป๋าจิงโจ้คาดเอว ที่เอาไว้จ่ายเป็นค่าเบียร์นั่งดูผู้คนก็พอ เสร็จแล้วก็เดินเสยผมลงลิฟท์ หันไปบอกป้าที่กำลังรับลูกค้าอยู่ว่า GO FOR WALK ออกไปเดินเล่นแถวนี้ละครับ
ยืนดูรอบๆ พอทำความรู้จักเพิ่ม อยากไปเห็นถนนแสงสีและสีสันของเมืองนี้เต็มที ถนนแสงสีแห่งราตรีอยู่ใกล้ๆ กับที่พักนี่ละ อยู่ขนานกับถนนฟามงูหลาว มีตัวตึกกั้นกลางเท่านั้น ชื่อถนน BUI VIEN ถนนที่มากด้วยหนุ่มๆ สาวๆ และมากด้วยผู้คนหลายชาติ
ผมเดินลงจากโรงแรมก็เลี้ยวซ้ายไปเจอซอยแรก ในซอยไม่อนุญาตให้นำรถเข้า มีเพียงมอเตอร์ไซค์กับผู้คนเท่านั้นที่เดินสวนกันได้หนาตาดี เดินไปเรื่อยๆ จากถนนฟามงูหลาว จนมาถึงอีกด้านที่ชื่อถนน Bui Vien โอ้โห..คุณเอ๊ยสีสันแสงสี
ตลอดสามช่วงตึกตามความยาวของถนน เป็นย่านชุมชนแสงสีจริงๆ ผู้ประกอบการมีทั้งชาวเวียดนามเอง และมี ทั้งชาวต่างชาติยืนกวักมือขายดริ๊งให้คุณ และเช่นกันในย่านแสงสีนี้ไม่ได้มีแต่ชาวต่างชาติเท่านั้นที่เป็นนักเที่ยว คนเวียดนาม เองก็เข้ามาใช้บริการ นั่งหันหน้าออกถนนกันเต็ม
บนถนนแสงสีราตรี ถ้าเป็นถนนใหญ่จะมากด้วยคน ที่อายุยังไม่มาก ออกแนววัยรุ่นทั้งนั้น ส่วนคนสูงวัยหน่อยทั้ง เวียดนามและคนต่างชาติจะเดินกันอยู่ในซอยเล็กๆ ที่ผมเดินทะลุ ออกมา แน่นอนในซอยจึงคึกคัก แต่เป็นการคึกคักแบบแนวนุ่มๆ ไม่โฉ่งฉ่าง ซอยเล็กๆ แบบที่ว่านี้จะมีอยู่สามสี่ซอย หน้าร้าน จะไม่เห็นคนนั่ง แต่จะไปนั่งอยู่พื้นที่ในร้านกัน คนละรูปแบบกับแนววัยรุ่นจ๋าที่ถนนใหญ่ รูปที่มีโคมเหลืองโคมขาวๆ นั่นละครับ อยู่ในซอยเล็กๆ ที่บรรยากาศดูนุ่มๆ ลง สำหรับสูงวัยหน่อย
ทีนี้อยากรู้อะไรราคาเท่าไรแล้วซิ ผมก็เดินดูร้านไปเรื่อยๆ คาดว่าน่าจะหาที่นั่งดูผู้คนได้ถนัดๆ ใกล้ชิดหน่อย คืนนี้ขอเลือกแนววัยรุ่นหน่อย เพราะมันไม่เนิบๆ เคลื่อนไหวไวแน่นอน ที่ถนนใหญ่คือเป้าหมาย ระหว่างที่เดินอยู่ดูเหมือนผมจะป๊อปปูล่าร์มากๆ ใครก็กวักมือเรียกเข้าไปนั่ง สาวๆ ที่อยู่หน้าร้านก็เรียก ไม่ใช่อะไรหรอกครับ คือทุกร้านอยากได้ดอลลาร์ในกระเป๋าผมเท่านั้นเอง ทุกร้านแทบไม่มีที่นั่ง ต้องเดินไปเรื่อยๆ จนถึงสี่แยกที่สามารถเดินตัดกลับออกไปโรงแรมได้ ตัวเลือกเดินผ่านมาใช้เกือบหมดแล้ว คงต้องเลือกแล้วละ เอามันตรงสี่แยกนี่ละ ได้เห็นอะไรถนัดตาดี เด่นด้วย
ที่เห็นใส่หมวกมีเบียร์ขนาด ๓๓๐ ซีซีอยู่ด้วย นั่นไม่ใช่บอยแบนด์เกาหลีนะครับ ผมเลือกนั่งหัวมุมถนนเลยเห็นผู้คนชัด ยิ่งดึกคนยิ่งเดินกันเยอะ ราคาเบียร์ขวดเล็กนั้น ๕๐,๐๐๐ ดอง บวกค่าบริการอีก ๒,๕๐๐ ดอง กินมากกินน้อยค่าบริการเท่ากัน เป็นราคาปกติของแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน ขวดนั้นก็ประมาณ ๘๐ บาท นั่งแช่อยู่เกือบชั่วโมงก็ลุก ขวดเดียวพอครับ แค่อยากรู้เท่านั้นเอง และการมาอยู่ต่างถิ่นต้องดูแลตัวเอง เดี๋ยวผมเอารูปร้านนี้แบบมุมกว้างลงให้ดูบรรยากาศจะชัดเจนขึ้น
เห็นเสาไฟที่มีแสงเหลืองๆ ไหมครับ นั่นละผมนั่งอยู่ตรงนั้น นักท่องเที่ยวเยอะจริงๆ ทั้งคนเวียดนามเองและคนต่างถิ่นเรื่องถนนราตรีในโฮจิมินห์สีสันเยอะ เยอะกว่าในพนมเปญเสียอีก แต่เรียบๆ ไม่วุ่นวายไม่สร้างความรำคาญให้นักท่องเที่ยว คนที่เคยท่องเที่ยวผ่านพัทยามาแล้ว ที่นี่จะดูเป็นเด็กๆ ไปเลย เรียบร้อยครับ ผมเองยังไม่รู้สึกอึดอัดเลย
เรื่องรบกวนนักท่องเที่ยวนี่ บ้านเราเบอร์ต้นๆเลย ผมวัดจากคนต่างชาติที่พูดถึงเมืองไทย ตามสถานที่ต่างๆ ที่ผมได้คุยกัน
แสงสีราตรีเมืองลุงโฮเยอะ
เรียบร้อย ไม่วุ่นวาย ไม่จิกแขก
แค่ขวดเดียวเล็กๆ ก็พอทำให้รู้จักอะไรในเมืองนี้ได้บ้างไว้ วันหน้าค่อยเดินมาอีกสักขวด อยู่ใกล้ๆ หลังที่พักนี่เอง เดินลงบันไดออกมาเมื่อไรก็ได้ ตอนนี้ดึกแล้วครับ คงต้องเดินย้อนขึ้นไป ทางเก่าที่เดินมา พรุ่งนี้ว่ากันแต่เช้าเลย
ผมเล่าบรรยากาศรอบๆเพิ่มอีกนิด เวลาผมไปนั่งในร้านลักษณะแบบนี้ที่ประเทศอะไรก็ไม่รู้ แต่พูดภาษาไทยชัดเป๊ะ นั่งๆ อยู่ถ้าได้เวลาสักระยะ เป็นได้มีเสียงที่คนที่ไม่เกี่ยวข้องต้องรู้หลบเป็นปลีก รู้หลีกคนเมาตีกัน แต่กลางสี่แยกที่นั่งสังเกตดูผู้ คน ที่นี่ต่างคนต่างทำงาน เงียบๆ งานใครงานมัน เพลงก็ไม่ได้เปิดกันดังมาก และไม่มีสาวๆ นุ่งสองชิ้นยืนเต้นกันติดริมถนนให้ดูด้วย ดึกสมควรแก่เวลาแล้วครับ..หิวนอน
ลาทีแสงสีคืนแรก
ไม่ได้หมายความว่า..ลาก่อน
เดินกลับมาถึงที่ Kim Khoi Hotel ก็ปาเข้าไปหลังสองยาม ประตูโรงแรมปิดแล้วครับ ถ้ากลับไปดูรูปที่ผมถ่ายโรงแรมที่ผมพัก จะมองเห็นทางเดินขึ้นที่พักอยู่ด้านหน้าโรงแรมชั้นล่าง ก็จะเป็น VIETSEA TOURIST เอเจนซี่ทัวร์ที่คุณจะไปที่ไหนก็ได้ในประเทศนี้ มีรถไปถึงทุกที่
กลับมายืนที่หน้าประตูโรงแรมกับผมก่อน มันเป็นโรงแรมเล็กๆ นะครับ เพื่อความปลอดภัยยามวิกาล ประตูหน้าจะปิดเมื่อเวลาห้าทุ่ม ใครที่ออกไปท่องเที่ยวและกลับมาหลังข้อ ตกลงก็ต้องหาทางเข้าเอาเอง ไม่ยากครับมองทะลุกระจกเข้าไปถ้ามีเจ้าหน้าที่นั่งดูทีวีอยู่เขาก็จะลุกมาเปิดให้ทันที หรือหากกำลังหลับอยู่ก็กดกริ่งปลุกได้ทันที..คืนนี้ผมกดกริ่ง
หมดแล้วครับ สำหรับคืนแรกที่มาถึงเมืองใหญ่ พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวทะเลทรายมุ่ยเน่ แต่ไปซื้อตั๋วกันเองนะครับเป็นนักเดินทางอะไรที่จ่ายถูกกว่าก็ใช้ช่องทางนั้น การซื้อตั๋วเดินทางเองจะถูกเงินกว่าซื้อผ่านเอเจนซี่ทัวร์หลายตัง
นอนดีกว่าครับราตรีสวัสดิ์ พรุ่งนี้ไปซื้อตั๋วรถกัน ..
รูปไหล่ถนนแสงสีราตรี
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๓๙๐ วันพฤหัสบดีที่ ๖ - วันจันทร์ที่ ๑๐ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙
725 1,409