สุรชล ชาญณรงค์

          หากพูดถึงผัดไทยก็คงเป็นอาหารที่มีขายอยู่ทั่วไป แต่วันนี้จะพาไปลิ้มรสผัดไทยที่เป็นต้นตำรับ เปิดขายมาตั้งแต่รุ่นแม่ตกทอดมาจนถึงรุ่นลูกร่วม ๕๐ ปี จะเป็นร้านไหนไปไม่ได้นอกจาก “ผัดไทห้วยราช เจ้เกี้ย เจ้าเก่า” ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล ต.ห้วยราช อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ด้วยเหตุที่ผัดไทยของร้านนี้มีรสชาติที่เด็ดและไม่เหมือนใคร เรียกได้ว่าเป็นตำนานของผัดไทยห้วยราชเลยก็ว่าได้ ทำให้มีลูกค้าจากทุกสาขาอาชีพตั้งแต่ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แม้แต่ดารา นักร้อง และนักฟุตบอลชื่อดังก็แวะเวียนมานั่งรับประทานที่ร้านและซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านกันแน่นร้านทุกวัน สำหรับความแตกต่างของผัดไทยห้วยราชกับผัดไทยที่อื่นต้องยกให้เส้นที่มีความเหนียวนุ่ม สีเข้มข้น และอร่อยถูกปากลูกค้าทุกเพศทุกวัยโดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม แต่หากลูกค้าคนไหนชอบรสจัดจ้านก็สามารถแจ้งทางร้านได้ ทางร้านมีเส้นหลายประเภทให้ลูกค้าได้เลือก ไม่ว่าจะเป็นเส้นเล็ก กลาง ใหญ่ วุ้นเส้น และมาม่า ในเรื่องของราคาขอบอกเลยว่าไม่แพง หากเป็นผัดไทยหมูชิ้นธรรมดาจะขายเพียงจานละ ๓๕ บาท หมูกรอบหรือกุ้งสด จานละ ๔๐ บาท และผัดไทยทะเลจานละ ๕๐ บาท เท่านั้น ปัจจุบันเปิดขายที่ร้านใน อ.ห้วยราช ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐–๑๖.๐๐ น. และยังขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสาขาอยู่ในตัวเมืองบุรีรัมย์เปิดขายตั้งแต่เวลา ๑๗.๐๐–๒๒.๐๐ น. นอกจากนั้นก็ยังมีบริการไปผัดตามงานเลี้ยงรับ-เลี้ยงส่งหรือเหมาไปเป็นโรงทานนอกสถานที่อีกด้วย ด้วยรสชาติและสูตรเด็ดที่ไม่เหมือนใคร จึงทำให้ผัดไทยห้วยราชมีรายได้เฉลี่ยวันละกว่า ๑ หมื่นบาท จันทร์เพ็ญ โสภณ และ วนิดา พิริยะโรจน์ ลูกค้าบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงพักเที่ยงจะแวะมารับประทานผัดไทยที่ร้านนี้เป็นประจำเพราะรสชาติอร่อยเข้มข้นถูกปากไม่ต้องปรุงเครื่องเพิ่ม แต่หากใครชอบรสเปรี้ยวหรือเผ็ด ก็เติมพริกป่นหรือมะนาวเพิ่มได้ ซึ่งร้านนี้ถือเป็นร้านเก่าแก่มีชื่อเสียงของอำเภอห้วยราช นอกจากคนในพื้นที่จะแวะมารับประทานคนที่ผ่านไปผ่านมาและนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด ก็จะแวะมารับประทานผัดไทยห้วยราชที่ร้านนี้ บางคนที่ติดใจก็จะบอกต่อๆ กันไป หรือถ่ายรูปโพสต์ลงในโซเชียล มีเดียเพื่อเชิญชวนให้คนมารับประทานกันอีกด้วย 

          นอกจากนี้ สุรชล ชาญณรงค์ อายุ ๓๘ ปี ทายาทเจ้าของร้านผัดไทยห้วยราชรุ่นที่สอง กล่าวว่า หลังจากผู้เป็นแม่ที่เป็นต้นตำรับทำผัดไทยห้วยราชขายมานานกว่า ๔๐ ปี ได้เสียชีวิตไปเมื่อปี ๒๕๕๓ ตนเองก็มาสืบทอดต่อ ซึ่งสูตรเด็ดเคล็ดลับก็ไม่มีอะไรมาก เพราะตนเคยเห็นแม่ทำมาตั้งแต่เด็กๆ แม่เคยบอกเคล็ดลับของการทำผัดไทยให้อร่อยและสีเข้มข้น ต้องเคี่ยวน้ำตาลปี๊บให้ได้ที่ ไม่ใจร้อน เพื่อให้ได้สีของผัดไทยที่เข้มข้นและเส้นเหนียวนุ่มไม่เหมือนใคร ซึ่งตนจะลงมือผัดเองทุกจานเพราะกลัวว่าหากให้คนอื่นผัดรสชาติจะเพี้ยนไปจากเดิม และกล่าวทิ้งท้ายว่ารู้สึกภูมิใจที่ได้สืบทอดอาชีพการทำผัดไทยจากแม่จนเป็นที่รู้จักถึงทุกวันนี้

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๑๕ วันเสาร์ที่ ๑๑ - วันพุธที่ ๑๕ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๐