October 31,2017
“ดอกดารารัตน์” ดอกไม้แห่งความรัก ในหลวงรัชกาลที่ ๙ กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
“ดอกดารารัตน์” หรือ “ดอกแดฟโฟดิล”(Daffodil)นอกจากเป็นดอกไม้เมืองหนาวแล้ว ยังเป็น ๑ ใน ๗ ดอกไม้จันทน์พระราชทาน ตามที่ “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึง “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” และทรงเข้าพระราชหฤทัยถึงความรู้สึกของประชาชนชาวไทยว่า ยังคงรำลึกถึงพระองค์มิเสื่อมคลาย และมีความประสงค์ที่จะกระทำสิ่งที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดกิจกรรม “โครงการจิตอาสาประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์พระราชทาน”เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งประกอบด้วยดอกไม้ ๗ ประเภท ได้แก่ ดอกดารารัตน์ ดอกกุหลาบ ดอกพุดตาน ดอกลิลลี่ ดอกกล้วยไม้ ดอกชบาทิพย์ และดอกชบาหนู
สำหรับ “ดอกดารารัตน์” หรือ ดอกแดฟโฟดิล (Daffodil) นั้น จัดอยู่ในดอกไม้ที่พสกนิกรไทยร่วมกันประดิษฐ์เป็นดอกไม้จันทน์พระราชทานมากที่สุด เนื่องจากเป็นดอกไม้แห่งความรักความผูกพันระหว่าง “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” กับ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ”
โดยเมื่อครั้งที่ยังไม่อภิเษกสมรส “พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” ทรงศึกษาและประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อมีเวลาว่างพระองค์จะขับรถยนต์ข้ามพรมแดนมาเยี่ยมเยียน “พระบรมราชินีนาถ” (ม.ร.ว.หญิงสิริกิติ์ กิติยากร) ซึ่งทรงประทับอยู่ที่ปารีส (ฝรั่งเศส) กับครอบครัว (เนื่องจากพระบิดาของ ม.ร.ว.สิริกิติ์ เป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำฝรั่งเศส) อย่างสม่ำเสมอ โดยทุกครั้งพระองค์ท่านจะนำ “ดอกแดฟโฟดิล” สีเหลืองสวยงามมามอบแก่สมเด็จพระราชินีอยู่เสมอ โดยสีเหลืองเป็นสีประจำวันพระราชสมภพอีกด้วย
“ดอกแดฟโฟดิล” จึงเสมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักระหว่างสองพระองค์ และเป็นดอกไม้ที่ผู้คนนิยมมอบให้แก่ผู้เป็นที่รัก โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน นอกจากนี้ยังสื่อถึงเกียรติยศ ความกล้าหาญ สัญลักษณ์ของความหวังอีกด้วย
เมื่อเสด็จสวรรคต และมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ พสกนิกรไทย จึงร่วมประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ “ดอกดารารัตน์” เพื่อร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย
นอกจากนี้ ยังมีผู้บันทึกไว้ถึงตำนานกรีกเกี่ยวกับ “ดอกแดฟโฟดิล” ว่า ...นาร์ซิสซัส (Narcissus) เป็นวีรบุรุษแห่งดินแดน Thespiae ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มรูปงามที่สุด ทรนงและหลงใหลในความงดงามของตนเอง มีหญิงสาวมาหลงรักมากมาย รวมไปถึงเทพหลายองค์ เช่น เทพธิดาเอคโค่ ที่ถูกสาปโดยพระนางเฮียร่า ให้พูดตามผู้สนทนา เทพเอคโค่ผิดหวังจากนาร์ซิสซัส ทำให้ร่างกายกลายเป็นหิน เหลือเพียงเสียงสะท้อนมาถึงทุกวันนี้ ทำให้เทพแห่งความรัก “แอฟโฟได”ไม่พอใจที่นาร์ซิสซัสหลงตัวเอง เช่นนั้น และดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น จึงสาปให้นาร์ซิสซัสตกหลุมรักตัวเอง ต่อมาในวันหนึ่งนาร์ซิสซัสพบเงาของตัวเองในสระน้ำ จึงตกหลุมรักหนุ่มรูปงาม ไม่เป็นอันกินอันนอน ร่างกายซูบผอม พ่อแม่มาตามให้กลับบ้านก็ไม่ยอมกลับ อาหารก็ไม่ยอมรับประทาน อาศัยอยู่แต่ที่ริมสระน้ำท้ายที่สุดจึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะไม่อาจทรมานคนรักที่อยู่ในน้ำ ที่ร่างกายซูบผอมและทุกข์ใจเช่นกัน จึงใช้กริชแทงที่หัวใจของตัวเองตาย
เหตุการณ์นั้น ทำให้เทพแอฟโฟไดเกิดความสงสาร จึงเนรมิตดอกไม้ให้เกิดขึ้นตรงบริเวณที่นาร์ซิสซัสตาย เรียกต้นไม้ดังกล่าวว่า ต้นนาร์ซิสซัส หรือ “แดฟโฟดิล” ดังในปัจจุบัน
จึงมีผู้เปรียบเทียบไว้ว่า การได้โอบกอดช่อดอกแดฟโฟดิลไว้เต็มอ้อมแขนเสมือนได้โอบกอดแสงอาทิตย์ไว้เลยทีเดียว แดฟโฟดิลทุกสายพันธุ์ล้วนมีกลิ่นหอม แต่แดฟโฟดิลสีเหลืองมีกลิ่นหอมที่สุด ซึ่งดอกไม้ชนิดนี้มีความหมายพิเศษที่ว่า “เกียรติยศแห่งอัศวิน”
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๖๔ วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ - วันอังคารที่ ๓๑ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐
686 1,656