January 03,2018
ตอนที่ ๑๒๘…เมนูสะกดสายตา..งูทอด
สวัสดีปีจอครับ ปีรองบ๊วยของราศีเลย แต่ปีไก่ที่ผ่านมาปีที่แล้วนั้น ต้องนับว่าเป็นไก่เดือยคมได้น้ำดีเอาเมื่อยกท้ายๆ ของการแข่งขัน เราผ่านปีไก่เดือยทองมาช่วงท้ายๆ ปีได้อย่างคึกคัก ไม่คึกคักยังไงไหวครับ ขนาดแม่ค้าส้มตำส่งถุงส้มตำให้พร้อมกับบอกเหนื่อย คนเดินทางท่องเที่ยวกันเยอะมาก อาหารขายดี ดีจนลูกน้องรับค่าแรงรายวันแล้วรุ่งขึ้นหายไปเลย ขนาดจ้าง ๔๐๐ บาทต่อวัน ..คงเดินเหนื่อย
เราผ่านปีไก่มาอย่างคึกคัก
ตัวเลขจีดีพี ปรับกันหลายรอบ
จากแย่สุด..สองวันนี้จะแตะสี่แล้ว
คึกคักครับ ผมไม่เห็นคนไทยกล้าจ่ายกันแบบนี้มานานแล้ว ขนาดผมนั่งทำงานอยู่ในบ้าน คือผมเอาบ้านมาทำเป็นฮับกาแฟเล็กๆ นั่งอยู่ในร้านมองไปถนนเส้น ๓๐๔ ที่อยู่หน้าร้าน ตรงสี่แยกไฟแดงรถติดยาวกว่าปกติสามถึงสี่เท่า แค่นี้ก็นึกออกแล้วว่า บนวังน้ำเขียวจะขนาดไหน และที่ไร่เอกชนที่เปิดแสดงนวัตกรรมพืชผลทางการเกษตรนั้นจะเท่าไร
นั่นละครับที่ผมดีใจมาตั้งแต่ก่อนปีใหม่มาแล้ว ทุกอย่างอยู่ที่ความเชื่อมั่นเท่านั้น ดอกผลการทำงานของรัฐบาล มันออกผลมาช้า แต่เมื่อถึงเวลามันไม่ใช่ผลไม้พิษ นั่นไงๆ ยังครับ ยัง ผมไม่วกเข้าไปคุยเรื่องการเมืองเด็ดขาดไม่ชอบ แค่หยิบสิ่งที่จับต้องได้มาเล่าสู่ฟัง
รถไฟทางคู่สายแรกของประเทศไทยก็ใกล้มาถึงโคราชแล้ว นี่ยังไม่รวมถึงรถไฟหัวกระสุน (ชิงกันเซน) ที่จะมาวิ่งทำรายได้ แข่งกับสายการบินเส้นทางกรุงเทพฯ เชียงใหม่เพิ่มอีก ตอนนั้น.. การรถไฟไทยยืนหัวแถวอาเซียนอีก
รถไฟทางคู่จะเปลี่ยนหน้าตาอีสาน
ผมสนใจรถไฟทางคู่ที่จะผ่านโคราชบ้านเรา เพราะที่หมายปลายทางของรถไฟสายนี้ สุดทางที่คุนหมิง ประเทศจีน โดยออกจากประเทศไทยที่หนองคาย วิ่งข้ามน้ำโขงเข้าเวียงจันทน์ เลาะขึ้นเขาภาคเหนือของลาวเรื่อยๆ และผ่านเมืองวังเวียงเสียด้วย เส้นทางรถไฟสายนี้ละ ที่จะเป็นเส้นเศรษฐกิจอาเซียนตอนบน โดยมีพี่จีนเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่
คุยเรื่องนี้ และมองเห็นสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนไปในเวลาอันใกล้แล้วยิ้มเลยครับ เขียนต่อเดี๋ยวจะว่าผมชเลียร์ใคร หรือหน่วยงานไหน พอแค่นี้ดีกว่า ไว้ได้ผ่านไตรมาสสองของปีจอนี้ไปก่อน เราจะตามดูเรื่องนี้กันอีกที ดูเรื่อยๆ ตอนนี้เราต่อเรื่องจากคราวที่แล้วอร่อยกว่า... อ า ห า ร เ ข ม ร
เริ่มที่..แซนวิชพื้นเมือง
ขนมปังแท่ง ผ่าท้องใส่เครื่อง
หลากหลายคล้ายก๋วยเตี๋ยว
ผมยังไม่เคยไปบรูไน เลยไม่รู้ที่นั่น Local sandwich มีหรือไม่ แต่แซนวิชตามห้างราคาสูงๆ มันมีอยู่แล้วละ ปีจอปีนี้ละผมจะได้ไปเที่ยวประเทศบรูไนอาเซียนด้วยกัน แต่รวยอู้ฟู้ที่สุดอยู่คนเดียว แล้วจะถ่ายรูปมาเล่าสู่กันฟัง
แซนวิชพันธุ์ทาง ต้องถือว่าเป็นเมนูฮอตฮิตในหมู่คนเดินทางเลย ถึงผมไม่เดินทางผมก็ชอบกิน มันง่ายๆ ดี รสถูกปาก ชอบรสจัดมากๆ ก็ราดซอสพริกลงเยอะๆ อร่อย
แซนวิชเมืองเขมรหน้าตาไม่ต่างจากลาวแซนวิชลาวที่เรียกกันว่า “ข้าวจี่ฝรั่ง” นั้น หน้าตาผมเอาลงให้ดูแล้วในฉบับที่แล้วและลงบ่อยด้วย แบบนั้นละครับเหมือนๆ กับของเขมรเลย แต่ที่เขมรไม่เหมือนใคร ก็ตรงใช้มะละกอนี่ละ
แซนวิชเขมรนั้น จะซอยมะละกอแช่เย็นวางลงเป็นท็อปปิ้งอีกที กินแล้วกรอบๆ กว่าแตงกวา ส่วนแซนวิชร้านหรูๆ นั้นผมไม่รู้ เพราะไม่เคยซื้อกิน เดินเจอตรงไหนแล้วพอดีกับอารมณ์หิวก็ยืนซื้อตรงนั้นเลย ทำให้มีประสบการณ์กับของกินอร่อยๆ แต่เรียบง่ายอย่างแซนวิชพันธุ์ทางแบบนี้
เวียดนามสุดยอดแซนวิชอาเซียน
เมนูติดปากที่มีหน้าตาหลากหลาย
เขียนแล้วขอลงลึกไปอีกหน่อย เวียดนามนี่สำหรับผมแล้วเรื่องอาหารการกินหรือ Street food ทำได้ไม่แพ้บ้านเราเลย ถนนอาหารของเวียดนามของกินหลากหลาย เวียดนามดัดแปลงอาหารได้เก่ง เก่งจนขึ้นมายืนเป็นคู่แข่งอาหารไทยได้ ชื่ออาหารเวียดนามติดสำรวจระดับโลกอยู่หลายสำนัก ถ้าเป็นมวยต่อยกัน อาหารไทยมีอาวุธเหนือกว่านิดหน่อย
คนเวียดนามเรียกแซนวิชว่า “บั๋นหมี่” อย่าเอาสำเนียงที่ผมเขียนเป็นหลักนะครับ เป็นเพียงคนที่เดินทางได้ผ่านเข้าไป แอบถามเอาจากคนขาย บางทีหูผมกับการออกเสียงภาษาพื้นเมืองอาจเพี้ยนไปจากต้นตำรับบ้างก็ขออภัย แต่ถ้าเห็นตู้มีแท่ง ขนมปังวางอยู่แบบนี้ เข้าไปยกนิ้วชี้ข้างขวาได้เลย ไม่นานคุณก็ได้แซนวิชอร่อยๆ มากิน ขอเติมซอสได้ครับ ถ้าชอบจัดหนักๆ
คุยเรื่องแซนวิชผมทะลุไปเวียดนามเฉยเลย กลับมาเมืองนางอัปสรดีกว่า ยังเหลืออาหารอีกหลายตัวที่เราไม่คุ้นตาดี เมนูนี้รับรองอย่าว่าแต่สาวๆ จะยี๊ หนุ่มมาดแมนก็อาจเผลอแอ๊บหลุดได้ง่ายๆ ใช่ครับมันคือ “งูทอดกรอบเค็ม”
หลายชาติในอาเซียนกินงูกันเป็นอาหาร เป็นเรื่องปกติครับที่ฟิลิปปินส์ในมะนิลาแท้ๆ ก็ยังมีร้านขายเลือดงูเห่าใส่กับเหล้าขาวกินเป็นยาโด๊ป หนุ่มฟิลิปปินส์วัยดึกๆ หน่อยนั่งกินเป็นยาบำรุงกันมาก ขายดีมากเลือดผสมกับเหล้าพื้นเมือง ตัวงูก็เอาไปต้มทำซุป ฟิลิปปินส์ชอบกินงูเห่าเหมือนเวียดนาม
ส่วนเราไทยแลนด์ ถ้าเอากลุ่มผมและเพื่อนๆ เป็นตัวดัชนีชี้วัดเรากินได้หลายงู โดยเฉพาะงูสิงดงนี่ตัวบักเอ๊บเป็นที่โปรดปราน งูสิงดงอยู่ตามนาบางทีก็เข้ามาเขตบ้าน คือตามหนูนา หนูป่าเข้ามาในบ้าน สุดท้ายก็ขดอยู่ในจานหรือไม่ก็ลาบงู
งูที่คนเขมรเอามาทำงูทอดนั้นคืองูปลา ก็งูที่เลื้อยหากินปลาตามห้วยหนองคลองลำน้ำบ้านเรานี่ละ ชอบอยู่ในน้ำขุ่นๆ เป็นงูไม่มีพิษ แต่ถ้าคนไม่รู้ลองได้เห็นว่ายอยู่ใกล้ๆ เป็นได้กระโดดขึ้นฝั่ง คุณพระคุณเจ้าทันที
งูทอดเมนูสะกดสายตานักท่องเที่ยว
งูทอดหาได้ไม่ยากครับ ตามสถานีขนส่งรถโดยสารระหว่างเมืองก็มีวางขาย ถ้าจะหาง่ายหน่อยก็ตลาดเย็นตามหัวเมือง ขายอยู่รวมกับพวกไก่ทอดไก่ปิ้ง ลองมองดูครับขดเป็นรูปตัวเอสเหลืองๆ มันๆ ไม่ต่างจากปิ้งไก่ ปิ้งหมู หอมดี
ปกติราคาเป็นเงินไทยประมาณไม้ละ ๒๐ บาท แต่ถ้าไปซื้อกินที่ถนนอาหาร ถนนแสงสีในเสียมเรียบ ราคาขึ้นไปที่ ๓๕ บาท บางร้านก็ปักราคาไว้หนึ่งดอลลาร์เลย เมืองเขมร ใช้เงินสองสกุลครับ สกุลเขมรกับดอลลาร์อเมริกัน แต่จ่ายด้วยเงินท้องถิ่นคุณได้กำไรดีกว่า เงินดอลลาร์เอาไว้จ่ายอะไรที่มีมูลค่าใหญ่ๆ หน่อย เช่น ค่าที่พัก ค่าโรงแรม แบบนี้ไม่ขาดทุน
งูทอดหาง่ายครับที่ถนนราตรีเมืองเสียมเรียบ ดูจะเป็นเมนูสะกดนักท่องเที่ยวเลยละ ถ้าเป็นแหม่มฝรั่งหน่อยก็จะยืนฉีกกินด้วยมือพร้อมผงกหัวงึกๆ ทำสีหน้านิ่งๆ ถ้าเป็นสาวญี่ปุ่นหรือกลุ่มสาวเกาหลีรับรองเป็นได้วี๊ดว้ายเสียงดังชัดเจนแต่ก็ยืนกินกันตรงนั้นละ ส่วนผู้ชายมีหลายๆ คนครับที่โดนเพื่อนยื่นไม้งูทอดนี้เข้าถึงจมูกโดยไม่บอกกันก่อน ผล..แต๋วแตกทันที มาดแมนๆ ไม่เหลือ มือไม้งี้ชี้ไปทั่ว
ไหนๆ ก็พาเดินดูเมนูสะกดสายตาในเสียมเรียบแล้ว ก็ดูกันต่อในย่านแสงสีนี่ละ เมนูนี้ใครก็แย่งไปจากไทยแลนด์ของเราไม่ได้ “ส้มตำ” ครับ ผมคุยกับเพื่อนต่างชาติ เขาก็ยังยกโป้งให้เราเรื่องส้มตำที่มีให้เลือกกินหลากหลาย ฝรั่งชอบตำไทย ชอบรสจัดที่ออกหวานๆ เปรี้ยวๆ แต่ไม่ชอบปลาร้า เขมรหรือในย่านถนนราตรีนี้ก็มีส้มตำ คล้ายๆ ของเราละครับ คล้ายๆ เท่านั้น
มีหลายรูปครับส้มตำเขมร สั่งมากินก่อนกินก็รีบๆ ถ่าย เก็บเอาไว้ใช้งาน ต้องรีบถ่ายนะครับ การไปจดๆ จ้องๆ ถ่ายรูปอาหารของเพื่อนบ้านนานๆ มันอาจจะดูไม่เหมาะ
ส้มตำเขมรมีหน้าตาคล้ายของไทย แต่รสชาติไม่เหมือนหรอก อย่างจานนี้ตำใส่กะปิมาด้วย ผมอาจคุ้นกับกะปิบ้านเรา พอไปได้กลิ่นกะปิในส้มตำบ้านเขา เอ๊ะ..ใส่มาให้ยังเนี่ย คือกะปิเขากลิ่นอ่อนๆ ครับ และเขมรไม่มีปลาร้าแบบเรากับประเทศลาว กลิ่นส้มตำเลยไม่คุ้น มีอีกอย่างที่กินคู่กับส้มตำได้ดี ในเมืองเขมรก็มีเหมือนกัน...ไส้กรอกเขมร
ไส้กรอกเขมรก็คล้ายกับของไทย คล้ายๆ เท่านั้นละครับ รูปนี้ผมถ่ายที่เมืองกะแจะทางตอนเหนือของเขมร กลิ่นเครื่องเทศน้อยกว่าไส้กรอกอีสาน หอมก็น้อยกว่า รสชาติจะใกล้เคียงกับไส้กรอกอีสานตอนเหนือๆ แถวมุกดาหารหรือนครพนม คือจะมีรสหวานนิดๆ
ถ้าคนชอบกินไส้กรอกเปรี้ยวๆ ชวนผมไปซื้อด้วยนะครับ เพราะผมจะได้กินไส้กรอกฟรีๆ เพราะคุณจะหาไส้กรอกเปรี้ยวๆ แบบอีสานบ้านเราในเขมรยาก เดี๋ยวคุยกันต่อครับ
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๗๗ วันจันทร์ที่ ๑ - วันศุกร์ที่ ๕ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๑
716 1,630