13thOctober

13thOctober

13thOctober

 

June 01,2019

อาลัย‘พลเอกเปรม’รัฐบุรุษ มอบทุนเด็กอีสานกว่า ๑๕๐ ล. ย้ำ‘เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน’

            ข้าราชการและประชาชนชาวอีสาน ร่วมลงนามแสดงความอาลัย “พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” ผู้ว่าฯ โคราชชูวลี “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” มูลนิธิฯ มอบทุนการศึกษาเด็กอีสานต่อเนื่อง ที่ “บ้านแม่ทัพ” ประชาชนวางพวงมาลาอาลัยจำนวนมาก ด้าน “ขอนแก่น” แนะปรับปรุง “หอเกียรติยศรัฐบุรุษ” ให้สง่างามสมเกียรติ

            เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๕.๓๐ น. ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทร โณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประกอบพิธีวางพวงมาลัยและลงนามแสดงความอาลัยแด่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยมี พล.ต.ต. วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, พล.ต.พันธุ์พิศิษฐ์ ทรรพวสุ เสนาธิการกองทัพภาคที่ ๒, นางณัฏฐินีภรณ์ จันทร โณทัย ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทย สาขานครราชสีมา และนายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส. นครราชสีมา เขต ๒ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ องค์การบริการส่วนจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมกว่า ๒๐๐ คน โดยแต่งกายชุดปกติขาว สวมปลอกแขนสีดำ ไว้ทุกข์ และชุดสีดำ พร้อมทั้งร่วมกันยืนสงบนิ่งไว้อาลัยเป็นเวลา ๑ นาที

            นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวไว้อาลัยแด่ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมว่า ตามที่ประกาศสํานักพระราชวัง เรื่อง พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ นั้น กระผมและพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้รับทราบด้วยความเศร้าและเสียใจ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ หรือ ป๋าเปรม ท่านมีความผูกพันกับพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา มาอย่างยาวนาน พวกเราจึงเปรียบเสมือนเป็นลูกหลานของท่าน และครั้งสุดท้าย ก่อนที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จะถึงแก่อสัญกรรม ท่านเดินทางมาที่บ้านพัก อําเภอเมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ สิ่งที่ท่านได้ทําไว้ให้กับแผ่นดินนี้ และชาวจังหวัดนครราชสีมา นับว่าเป็นประโยชน์และมีคุณูปการต่อแผ่นดินอย่างมาก

            ท่านได้ก่อตั้งมูลนิธิพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๗ โดยมีแม่ทัพภาคที่ ๒ เป็นประธานมูลนิธิฯ มีโครงการมอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่มีฐานะยากจนในระดับประถมศึกษากับปริญญาตรี ในพื้นที่ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือทุกจังหวัดปีละกว่า ๑,๘๐๐ ทุน ได้ก่อคุณประโยชน์ให้แก่นักเรียนในพื้นที่เป็นจํานวนมาก และยังดําเนินการต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นยังได้มอบทุนการประกวดโครงงานวิชาการดีเด่นของนักเรียน-นักศึกษาในเขตพื้นที่ภาคอีสานเป็นประจําทุกปี รวมทุนและรางวัล ประกวดโครงงานปีละ ๖ ล้านกว่าบาท ถึงปัจจุบันมูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดนครราชสีมา ได้มอบทุนไปแล้วกว่า ๑๕๐ ล้านบาท

            พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้อุทิศตนเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์และประเทศไทยมาเป็นเวลานานหลายทศวรรษ ผลงานตลอดช่วงชีวิตของท่านช่วยทําให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์ต่างๆ มากมาย เป็นที่ประจักษ์ถึงทุกวันนี้ นอก จากนี้ ท่านยังได้เป็นแบบอย่างในหลายเรื่อง เช่น การเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี ยึดมั่นการปฏิบัติตนเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน มีความประหยัด มัธยัสถ์ ที่สําคัญคือไม่ทุจริตคอร์รัปชั่นฉ้อราษฎร์บังหลวง ในโอกาสที่ประเทศของเราต้องสูญเสียปูชนียบุคคลอย่างไม่มีวันกลับของ “ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ ๑๖ ของประเทศไทย อย่าง พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณงามความดีอันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประเทศชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มาตลอดชีวิตของท่านนั้น ย่อมเป็นตัวอย่างที่ดีสําหรับวลีอันศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ซึ่งเป็นวลีที่เปรียบเสมือนแสงสว่างส่องทางอันถูกต้องให้แก่อนุชนรุ่นหลัง ได้ยึดเป็นหลักในการดําเนินชีวิตต่อไปอีกนานแสนนาน

            จากนั้น นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา อ่านบทกวีของ “ว.แหวนลงยา” คอลัมนิสต์ของ “โคราชคนอีสาน” เพื่อคารวาลัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ 

            ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา จะได้เปิดให้ประชาชนได้ร่วมลงนามแสดงความอาลัย ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ไปถึงวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๒ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น.

            นอกจากนี้ บรรยากาศที่บริเวณหน้าบ้านพักของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หรือที่รู้จักกันว่า “บ้านแม่ทัพ” ตั้งอยู่หน้าปากซอยสืบศิริ ๓๒ ถนนสืบศิริ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา ทางกองทัพภาคที่ ๒ จัดพื้นที่ให้ประชาชนจากทุกภาคส่วนได้มาร่วมแสดงความอาลัย ซึ่งมีประชาชนนำพวงมาลามาร่วมแสดงความอาลัยต่อการจากไปของรัฐบุรุษคู่แผ่นดิน ผู้ซึ่งทำประโยชน์เป็นคุณูปการต่อประเทศชาติมาโดยตลอด

            สำหรับ “มูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดนครราชสีมา” จัดตั้งขึ้นเมื่อ ๒ สิงหาคม ๒๕๒๘ โดยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ และข้าราชการ พ่อค้า คหบดี ในจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันบริจาคเงินกองทุนเพื่อจัดตั้งขึ้น โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท และได้รับการบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนมูลนิธิเพิ่มเติมจากผู้มีจิตศรัทธาเป็นประจำทุกปี ทั้งคณบดี พ่อค้า ข้าราชการ และประชาชน ทำให้เงินเพิ่มพูนถึงปัจจุบัน มูลนิธิฯ มีเงินกองทุน ๗๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ส่วนฝ่ายเลขานุการมูลนิธิฯ ตั้งอยู่ที่กองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ ๒ ค่าย สุรนารี 

            วัตถุประสงค์การก่อตั้งมูลนิธิฯ คือ ๑.เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการกีฬาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๒.เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษา ที่เรียนดี มีความประพฤติเรียบร้อยแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๓.เพื่อส่งเสริมสนับสนุนศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี อันดีงาม ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๔.เพื่อการกุศลสาธารณะ หรือร่วมมือกับองค์การสาธารณกุศลอื่นๆ ๕.เพื่อส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรม และ ๖.เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนนักศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองประการใด

            สำหรับคณะกรรมการมูลนิธิฯ ตามข้อบังคับมีไม่น้อยกว่า ๗ คน แต่ไม่เกิน ๔๕ คน ปัจจุบันคณะกรรมการมูลนิธิฯ มีจำนวน ๔๔ คน โดยมีแม่ทัพภาคที่ ๒ เป็นประธานกรรมการมูลนิธิฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ พ่อค้า คหบดี ในจังหวัดนครราชสีมา เป็นคณะกรรมการมูลนิธิฯ

            กิจกรรมของมูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดนครราชสีมา มี ๒ กิจกรรมหลัก ๑.การมอบทุนการศึกษา ตามวัตถุประสงค์ที่ดำเนินการเป็นประจำทุกปี คือ การส่งเสริมสนับสนุนการศึกษา โดยการมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา พระภิกษุ สามเณร และผู้พิการที่เรียนดีมีความประพฤติเรียบร้อย แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ของทุกจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน ๙ ประเภท ดังนี้ ๑) ทุนรายปี ๒) ทุนต่อเนื่อง ๓) ทุนส่วนกลาง ๔) ทุนนักเรียนโรงเรียนเทศบาลในจังหวัดนครราชสีมา ๕) ทุนนักเรียนตาบอด ๖) ทุนบุตร ทหาร ตำรวจ ที่พิการทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต จากการปฏิบัติราชการ ๗) ทุนส่งเสริมพระพุทธศาสนา ๘) ทุนนักเรียนพิการอื่นๆ และ ๙) ทุนนักเรียนโรงเรียนร่มเกล้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

            ๒.การจัดการประกวดโครงงานนักเรียนระดับภาค นักเรียน นักศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม ๗ ประเภทโครงงานคือ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ประวัติศาสตร์ และโครงงานคุณธรรมจริยธรรม

            สำหรับทุนการศึกษา มูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ ได้ใช้ดอกผลของกองทุน ซึ่งปัจจุบันมี ๗๗,๐๐๐,๐๐๐ บาท (เจ็ดสิบเจ็ดล้านบาทถ้วน) เป็นเงินมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันแล้ว รวมทั้งสิ้น ๕๑,๙๓๗ ทุน เป็นเงินทั้งสิ้น ๑๓๓,๑๒๐,๘๐๐ บาท

‘บุรีรัมย์’ร่วมแสดงความอาลัย

            ทางด้านจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ที่หอประชุมศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ นายดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นำข้าราชการ คณะกรรมการเหล่ากาชาด ชมรมแม่บ้านมหาดไทย พนักงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน และนักเรียนทุนมูลนิธิพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ แสดงความเคารพและลงนามแสดงความอาลัยแด่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ปูชนียบุคคลที่ทรงคุณค่า เป็นแบบอย่างเรื่องของความซื่อสัตย์ สุจริต ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความพอเพียง และยังช่วยเหลือด้านทุนการศึกษาให้นักเรียน นักศึกษา ที่มีความประพฤติเรียบร้อย เรียนดี แต่มีฐานะยากจนและขาดแคลนทุนทรัพย์ ตลอดทั้งพระภิกษุ สามเณร ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ผ่านมูลนิธิพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการศึกษาเล่าเรียนอย่างต่อเนื่อง

            สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดสถานที่ให้ประชาชนไปร่วมลงนามแสดงความอาลัย ณ หอประชุมศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ส่วนราชการ และประชาชนผู้ไปติดต่อราชการได้ร่วมลงนามแสดงความอาลัย ถึงวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๒ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. ซึ่งประชาชนสามารถร่วมลงนามแสดงความอาลัยได้ตามวันและเวลาดังกล่าว โดยแต่งกายชุดสุภาพสีดำ หรือสีขาว

‘ขอนแก่น’สงบนิ่งความดีวีรบุรุษ

            เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ที่บริเวณชั้น ๑ ภายในศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.สมชาย ครรภาฉาย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๓ หัวหน้าส่วนราชการและ ประชาชนชาวขอนแก่น ร่วมลงนามเพื่อแสดงความอาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พร้อมร่วมยืนสงบนิ่ง ที่บริเวณด้านหน้ารูปภาพ พลเอกเปรม เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของรัฐบุรุษ

            นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยแด่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ จังหวัดจัดสถานที่ลงนามเพื่อแสดงความอาลัย เพื่อให้ประชาชนที่รัก เคารพและเลื่อมใสศรัทธาในพลเอกเปรม มาร่วมแสดงความอาลัย นอกจากนี้ทางจังหวัดยังจัดให้มีการแสดงนิทรรศการชีวประวัติของ พลเอกเปรม ในคุณงามความดีที่สร้างไว้ให้กับชาติบ้านเมือง 

            “การลงนามไว้อาลัยจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้มาร่วมลงนาม ตั้งแต่วันนี้ไปถึงวันที่ ๒ มิถุนายนนี้ อีกทั้งยังมีการจัดแสดงนิทรรศการประวัติ และคุณงามความดีในด้านต่างๆ ของท่านไว้ให้กับประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนได้มาเรียนรู้และนำคำสอนหรือข้อคิดในด้านต่างๆ ไปใช้ให้เกิดประโชยน์และตอบแทนคุณแผ่นดิน อย่างไรก็ตามทางจังหวัดยังกำหนดให้ประชาชนทั่วไปได้ไว้ทุกข์ด้วยการแต่งชุดสุภาพ สีดำหรือสีขาว เพื่อแสดงออกถึงความอาลัยให้กับท่านอีกด้วย”

แนะบูรณะหอ“เกียรติยศรัฐบุรุษ

            นอกจากนี้ที่บริเวณหน้าโรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น นายชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ นายกสมาคมโรงแรมภาคอีสานและประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท โฆษะ กรุ๊ป ขอนแก่น นำชาวขอนแก่นร่วมกันทำบุญตักบาตร และทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ให้กับพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ที่ผ่านมา พร้อมทั้งร่วมกันยืนสงบนิ่งต่อหน้าภาพถ่ายของพลเอกเปรม ที่มีการติดตั้งไว้บริเวณด้านหน้าโรงแรมโฆษะ เป็นเวลา ๑ นาที เพื่อร่วมไว้อาลัยและสดุดีความดีและคุณูปการที่พลเอกเปรมทำเพื่อชาติมาตลอดชีวิต

            นายชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ นายกสมาคมโรงแรมภาคอีสาน กล่าวว่า สิ่งที่พลเอกเปรมทำมาตลอดชีวิตนั้นเป็นคุณูปการและเป็นตัวอย่างสำคัญที่ท่านได้ทำจริงและลงมือทำเอง โดยสิ่งที่ทำทั้งหมดนั้นทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริงดังนั้นเมื่อท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว แต่ คุณความดีในด้านต่างๆ ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของคนไทยไปโดยตลอด นอกจากการทำความดีที่ทุกคนนั้นทำได้อยู่ทุกที่และทุกเวลาแล้ว ยังคงมีสัญลักษณ์สำคัญที่ถึงเวลาแล้วที่คนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะกับรัฐบาลจะต้องเอาใจใส่และให้ความสำคัญคือหอเกียรติยศรัฐบุรุษ

            “หอเกียรติยศรัฐบุรุษ ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา จึงอยากให้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญและประสานการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อที่จะบูรณะอย่างเป็นรูปธรรม และนำความเป็นพลเอกเปรมในทุกผลงานที่ได้ดำเนินงานมาบรรจุไว้ในหอเกียรติยศรัฐบุรุษ เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศที่รักท่าน ซึ่งต้องการที่จะเรียนรู้และรู้จักท่านให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่ทุกคนนั้นรู้จักท่าน แต่ยังไม่ลงลึกในรายละเอียดในผลงานด้านต่างๆ ที่ท่านสร้างไว้ จึงอยากให้รัฐบาลได้มาพัฒนาและบูรณะหอเกียรติยศรัฐบุรุษ ให้คงอยู่คู่กับคนไทยตลอดไป”

            นายชาติชาย กล่าวต่ออีกว่า เพื่อสืบสานและต่อยอดคุณงามความดีที่ท่านได้ทำเพื่อประเทศไทยมาตลอดชีวิต จึงมีการจัดทำหนังสือที่ระลึก ‘เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน’ แจกจ่ายให้กับผู้ที่สนใจ เพื่อได้นำข้อคิดและคำสอนของท่านไปศึกษาและต่อยอดแนวทางการดำเนินชีวิตได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม คำสั่งเสียสุดท้ายที่ท่านได้ให้ไว้กับคนไทยทั้งประเทศคือการขอบริจาคเงินทั้งหมดให้กับคนยากจน เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ท่านทำทุกอย่างเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง แม้จะสิ้นลมหายใจไปแล้ว ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินงานตามคำสั่งเสียดังกล่าวของท่าน ต่อจากนี้ไป

 

 

 

 ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๗๕ วันเสาร์ที่ ๑-วันพุธที่ ๕ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒

 

863 1,542