29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

July 27,2019

“บอย” เดชา สร้างดี มีวันนี้ได้ด้วยกำลังแข้ง

“คนขยันไม่มีวันอดตาย” คำคมที่บาดใจคนกำลังท้อให้ลุกขึ้นสู้ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ “จะรวยจะจน” ถ้าไม่ขยันสักวันก็ต้องอดตาย นักฟุตบอลอาชีพไม่ต่างกัน หยุดพัฒนา ขี้เกียจซ้อม สักวันมันจะกลายเป็นแค่การออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพเท่านั้น 

นักฟุตบอลอาชีพ ยุคนี้ รายได้ไม่น้อย สามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้สบาย นักเตะอาชีพในเมืองไทย สร้างรายได้ให้กับตัวเองมหาศาล ถ้าเล่นในระดับไทยลีก ลีกสูงสุดของไทย ค่าเหนื่อยแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า ๕ หมื่นจนแตะหลักแสน ถ้าพ่วงดีกรีทีมชาติค่าเหนื่อยอาจทะลุถึงหลักล้าน

แม้จะมีรายได้ที่สูง แต่อาชีพก็ไม่ได้มีความมั่นคงยืนยาว บางคนอาจจะเล่นถึงอายุ ๓๕-๔๐ ปี แต่บางคนอาจจะดวงไม่ดี อายุแค่ ๒๕-๓๐ ปี อาจจะต้องเลิกเล่นด้วยสภาพร่างกายที่มีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง

นักเตะอาชีพจึงพยายามมองหาอาชีพเสริม เพื่อหวังเป็นตัวช่วยหลังจากเลิกเล่นฟุตบอล แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคนที่จะประสบผลสำเร็จจากธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ฟุตบอล 

ที่ผ่านมาตามโลกโซเชียลจึงเห็นนักเตะหลายคนไปลงทุนทำธุรกิจกันเยอะ ทั้งเปิดร้านอาหาร ร้านหมูกระทะ ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านสักลาย ร้านขายอุปกรณ์กีฬา หรือเปิดห้องเช่า และยังมีอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งน้อยคนนักที่จะประสบความสำเร็จ

• ไปรู้จัก แบ็คมาดเข้ม

‘โคราชคนอีสาน’ จะพาไปเปิดใจ วิงแบ็กมาดเข้ม “บอย” เดชา สร้างดี จากสโมสร “นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี” ถึงชีวิตการเล่นฟุตบอล พร้อมกับเส้นทางธุรกิจใหม่หารายได้เพิ่มจากการขาย “กล้วยฉาบ” ออนไลน์

“บอย” เดชา สร้างดี ย้ายมาจาก เชียงราย ยูไนเต็ด เมื่อปี ๒๐๑๔ มาอยู่กับ “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ปีนี้เข้าสู่ปีที่ ๕ นับเป็นสัญญาปีสุดท้ายของเจ้าตัว ซึ่ง “บอย” ยืนยันว่า พร้อมจะอยู่กับทีมต่อไป แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้บริหารและโค้ชว่า ต้องการที่จะรั้งตัวเขาไว้หรือไม่

• ตัวหลักของ “สวาทแคท”

ปัจจุบัน เดชา สร้างดี เป็นหนึ่งใน ๑๑ ตัวเลือกแรกของ “มิลอส โจซิค” กุนซือใหญ่ของทีม ด้วยความสามารถที่เจ้าตัวเล่นได้ทั้งสองเท้า จึงไม่เป็นอุปสรรคในการลงเล่นตำแหน่งแบ็คขวาหรือแบ็คซ้าย ด้วยวัย ๒๙ ปี อยู่กับทีมมานาน “บอย” คือกัปตันทีมอันดับ ๓ รองจาก พี่ใหญ่อย่าง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว และเมธี ทวีกุลกาญจน์ 
 
• ชีวิตยิ่งกว่าละคร

กองหลังมาดเข้มเครางาม เริ่มเล่าให้ฟังถึงชีวิตก่อนจะมีวันนี้ว่า ผมเกิดที่กรุงเทพมหานคร พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่ผมอยู่ ป.๕ พ่อเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่โรงแรมดังติดแม่น้ำเจ้าพระยา แม่ทำงานบริษัท บีพี เวิลด์ ขายกระเป๋าตามห้างพันธ์ทิพย์ และยูเนี่ยน มอลล์ มีน้องสาว ๑ คน ขณะนี้เรียนอยู่ ม.๔ ครอบครัวไม่ได้มีฐานะร่ำรวย ชีวิตต้องต่อสู้มาด้วยตัวเอง 

บอย เล่าเรื่องภาพติดตาเรื่องหนึ่งให้ฟังว่า เหตุการณ์สำคัญคือ สมัยเรียนอยู่ ม.๓ โรงเรียนสารวิทยาอยู่ใกล้บ้าน วันนั้นมองมาเห็นบ้านไฟไหม้ ทำให้ทุกอย่างที่แม่ทำมาต้องมาเริ่มกันใหม่ แต่บอยโชคดีที่ใช้โควตาช้างเผือกจากกีฬาฟุตบอลที่ตัวเองรักเข้ารับการศึกษาฟรี 

บอย เล่าต่อว่า ถึงแม้พ่อกับแม่จะแยกกันอยู่ แต่ผมจะเป็นคนกลางคอยเชื่อมระหว่างพ่อกับแม่ และน้องสาว ซึ่งอดีตเคยถามเรื่องราวต่างๆ กับแม่ แต่คำตอบที่ได้คือ “เมื่อโตขึ้นเราก็จะรู้เรื่องเอง” แม้กระทั่ง พ่อยังไม่รู้เลยว่า มีลูกอีก ๑ คน คือน้องสาวผม (อึ้ง!!ไป ๓ วิ นึกว่าละครหลังข่าว) ซึ่งถึงปัจจุบันนี้พ่อก็ยังไม่รู้ เพราะพ่อกับแม่แยกทางกันตอนแม่ตั้งท้องน้องสาว และตอนเด็กน้องก็ไปอยู่กับตายาย ผมก็หวังว่า เมื่อโตขึ้นน้องจะรู้เรื่องเอง

ถามว่า พ่อกับแม่สนับสนุนแค่ไหนเรื่องเล่นฟุตบอล “บอย” ตอบว่า ทั้งพ่อและแม่อยากให้เรียนหนังสือมากกว่า เพราะไม่รู้ว่า ฟุตบอลจะเลี้ยงดูเราได้ไหม แต่ด้วยฐานะครอบครัวเราก็ต้องช่วยตัวเอง ใจก็อยากจะสอบเข้ารับราชการตำรวจ แต่ส่วนตัวชอบฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก มี “พี่ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นแรงบันดาลใจ ดูแล้วเกิดความชอบ และอยากทำตาม ซึ่งตอนเด็กก็ไม่คิดว่า จะกลายเป็นอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว แต่สมัยที่เริ่มเล่นใหม่ๆ มี “อาชาญ” ที่ถือเป็นโค้ชคนแรก คอยสอนและพาเราไปเป็นผู้ช่วยกรรมการ พอมีรายได้ให้กับตัวเอง 

• นักบอลขาสั้น สู่ดาวดังสวาทแคท

เริ่มเล่นฟุตบอลแบบจริงจังเมื่อไหร่? บอย ตอบว่า หลังจากได้แชมป์บอล ๗ สี กับโรงเรียนสารวิทยาปี ๒๐๐๘ โดยส่วนตัวมีทักษะทั้งฟุตบอลและฟุตซอล จึงเริ่มเล่นฟุตซอลก่อนกับทีม “บางกอกกล๊าส” ในปี ๒๐๐๙ โดยรับเงินเดือนก้อนแรก ๒๘,๐๐๐ บาท ก่อนจะย้ายไปเล่นกับทีม “ทีโอที” แต่ด้วยวงการฟุตซอลมันแคบและโตยาก จึงตัดสินใจไปทดสอบฝีเท้ากับทีม บุรีรัมย์ เอฟซี ของ นายเนวิน ชิดชอบ ในปี ๒๐๑๐ และเล่นอยู่กับทีมจนคว้าแชมป์ดิวิชั่น ๒ ตอนนั้นรับเงินเดือนอยู่ที่ ๑๑,๐๐๐ บาท ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บีบีซียู ในดิวิชั่น ๑ ตอนนั้น “พี่ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง คุมทีม แต่ไม่มีโอกาสได้ลงเล่น จึงถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นให้กับ พัทลุง เอฟซี ในดิวิชั่น ๒ โดยมี “พี่จุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด คุมทัพ แต่ด้วยปัญหาภายใน ทีมพัทลุงจึงประกาศยุบทีม และปี ๒๐๑๑ ย้ายไปเล่นให้กับ ปตท.ระยอง ในดิวิชั่น ๑ ซึ่งมี “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน คุมทีม และรับเงินเดือน ๕๕,๐๐๐ บาท โดยอยู่กับ ปตท.ระยอง ๓ ปี แต่ทีมไม่สามารถขึ้นไทยลีกได้ ปี ๒๐๑๔ จึงย้ายไปอยู่กับ เชียงราย ยูไนเต็ด แต่อยู่ได้แค่ ๖ เดือน ทีมมีปัญหาจึงปล่อยผมมาอยู่กับ สวาทแคท และปัจจุบันก็อยู่ที่นี่มายาว ๕ ปี ช่วงแรกอาจต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ตอนนี้ถือว่า อยู่ในช่วงฟอร์มที่ดี

“บอย” เริ่มต้นจากการคัดตัวในตำแหน่งเซ็นเตอร์ แต่ด้วยรูปร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ แต่มีความเร็วทำให้เขาถูกผลักดันไปเล่นเป็นวิงแบ็คซ้าย แม้จะเจ้าตัวจะถนัดเท้าขวา โดยมี “โค้ชจุ่น” อนุรักษ์ ศรีเกิด เป็นผู้คอยให้คำปรึกษาและให้ดูการเล่นของนักเตะระดับโลกอย่าง มาร์เซโล่ กับ ฟิลิปป์ ลาห์ม เพื่อนำมาประยุกต์ให้เข้ากับตนเอง

เดชา สร้างดี ใช้เวลาเกือบ ๑๐ ปี บนเส้นทางลูกหนังอาชีพ จากเด็กหนุ่มพ่อแม่แยกทางกัน บ้านประสบปัญหาไฟไหม้ ฐานะไม่ได้ร่ำรวย แต่ด้วยใจที่รักลูกฟุตบอลทำให้เขามีวันนี้ 

ปัจจุบัน “บอย” มีรายได้จากกีฬาที่เขารักถึงเลข ๖ หลัก ซื้อบ้านให้พ่อ ซื้อบ้านใหม่ให้แม่ มีเงินเดือนให้แม่ใช้ ๒-๓ หมื่นต่อเดือน ให้แม่ออกจากงานมาอยู่บ้านดูแลน้องสาว

ส่วนเรื่องสถานะ เจ้าตัวบอกว่า “โสด” และเพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เมื่อปี ๒๕๖๑

• เส้นทางธุรกิจ “กล้วยบอย”

แม้จะมีรายได้ที่เลี้ยงดูครอบครัวแบบสบายๆจากการเตะบอล แต่ “บอย” ยังไม่หยุดที่จะหารายได้เพิ่มจากช่องทางอื่น จนมาเจอ “แบรนด์กล้วยบอย” ขายกล้วยฉาบ รสต่างๆ ผ่านออนไลน์ 

“บอย” เล่าว่า ธุรกิจนี้ทำเข้าสู่ปีที่ ๒ ผลตอบรับถือว่า ดีเกินคาด แฟนบอลให้การตอบรับดี เพราะถ้าไม่ไกลบอยจะไปส่งให้ถึงมือลูกค้าพร้อมกับถ่ายรูป ช่วงนี้เรามีผลงานที่ดี ทีมอยู่ในฟอร์มที่ดี แฟนบอลก็อยากเจอเรา กล้วยอาจจะเป็นแค่ส่วนประกอบ (แต่อร่อยนะ) ทุกวันนี้ยังพอมีแรงและไม่ได้เหนื่อยอะไรมากมาย เหมือนเป็นการสร้างแบรนด์ให้คนรับรู้ไว้ก่อน หากวันหนึ่งเราเลิกเล่นฟุตบอลไป คนก็ยังจะรู้จักสินค้าอยู่ แต่ถ้าวันหนึ่งเราติดทีมชาติขึ้นมาโอกาสที่ธุรกิจจะโตขึ้นก็มีสูง

ไปเจอ ธุรกิจนี้ได้อย่างไร “บอย” บอกว่ามีเพื่อน มาให้ลองกิน พอกินแล้วก็รู้สึกอร่อย เพลินดี ซึ่งก็มีเพื่อนที่เป็นที่ปรึกษาแนะนำให้ทำขายดู เขาบอกว่า อย่าเพิ่งคิดว่าขายไม่ได้ ให้ลองทำดูก่อน เพราะตอนแรกเรากลัวว่า จะขายได้ไหม 

ช่วงแรกเขินไหม เป็นนักฟุตบอลมีเงินเดือนมากมายมานั่งแพคกล้วยขาย ๓ ถุง ๑๐๐ “บอย” บอกว่า มีเขินบ้าง แต่เราไม่เคยลืมตัวตนว่า ก่อนที่เราจะมีวันนี้เราลำบากแค่ไหน แล้วเราจะมาอายทำไมแค่เรื่องขายของ สุดท้ายมันก็เป็นเงิน อย่าดูถูกอาชีพของเราเอง ไม่ว่าคุณจะขายอะไรก็แล้วแต่ “ทำทุกๆ วันให้มันดี แล้วพรุ่งนี้มันต้องดีกว่าเมื่อวาน”

“ทุกวันนี้ซ้อมบอลเช้า-เย็นก็เหนื่อยมากแล้ว กลับมาก็อยากพักผ่อน แต่ก็ต้องมานั่งบรรจุกล้วย อารมณ์ขี้เกียจมีอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องนั่งพักใช้เวลาสักพักแล้วค่อยทำ”

พ่อกับแม่ก็รู้ว่า เราทำกล้วยขาย แม่ยังบอกว่า ให้แม่ช่วยขายให้ไหม แต่บอยยังทำเองไหว แม้จะต้องทำเองทุกขั้นตอน ซึ่งก็ใช้ห้องพักของตัวเองเป็นโรงงานเล็กๆ

ฝากถึงทุกคนไม่ว่าจะทำอะไร เราต้องอยากทำก่อน แล้วจริงจังกับมัน และผลพลอยได้จะตามมาทีหลัง อย่าเลือกงาน คิดซะว่าทำแล้วได้เงินก็ให้ทำไป จะได้น้อยได้มาก อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ทำอะไร

“กล้วยบอย” อร่อยเพลิน เกินห้ามใจ จะมีทั้งหมด ๕ รส ได้แก่ รสต้นตำรับ, ปาปริก้า, กล้วยม้วนงา, รสหวาน และเบรกแตก ขายถุงละ ๓๕ บาท ๓ ถุง ๑๐๐ บาท จัดส่งฟรี กล้วย ๑ ถุง น้ำหนักประมาณ ๑๐๐-๑๓๐ กรัม รายได้อยู่ที่ประมาณ ๑๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน

ใครสนใจ อยากลองชิม ไปอุดหนุนที่ รังเหย้าสวาทแคท มีขายหน้าสนามทุกวันที่มีการแข่งขัน หรือจะติดตามผ่านทาง เฟซบุ๊ก   ชื่อ ‘เดชา สร้างดี’ และทางไลน์ Beboy1990 “กล้วยบอย” เดชา สร้างดี

• ปิดท้ายด้วยเป้าหมายในปีนี้ 

เดชา สร้างดี เล่าว่า เราอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดี ปัญหาในฤดูกาลก่อนหายไป แต่ก่อนเรารับดี แต่สกอร์ไม่มี มาปีนี้เรามีเกมรุกที่ดีขึ้น และมีโอกาสที่จะมีเซอร์ไพรส์ติด ๑ ใน ๕ ได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ขึ้นไทยลีกมา ส่วนทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์ ยังมองว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงแข็งแกร่งและเป็นตัวเต็ง โดยมีการท่าเรือและแบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นตัวสอดแทรก
นับเป็นหนึ่งนักกีฬาอาชีพตัวอย่าง ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจทั้งในสนามและนอกสนาม แม้ต้นทุนชีวิตคนเราจะไม่เท่ากัน แต่ถ้าเราไม่หยุดอยู่กับที่ สักวันความฝันมันจะมาหาเราเอง 

อนาคตทีมชาติคงไม่ไกลเกินรอ “บอย” เดชา สร้างดี

 

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๕๘๕ วันศุกร์ที่ ๒๖ - วันพุธที่ ๓๑ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

 

830 1462