January 09,2020
‘กิติพงศ์’ชิงนายกเทศมนตรี ลุยหาเสียงแบบลูกทุ่ง ‘ทำงานฉับไวเพื่อประชาชน’
“กิติพงศ์ OK” หลังจากลาออก ส.อบจ.สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ล่าสุดหันกลับสู่การเมืองท้องถิ่นอีกครั้ง เปิดตัวเป็นผู้สมัครนายกเทศมนตรี นำทีม “คิดใหม่ ทำใหม่” ลุยเปิดเวทีพบปะรับฟังปัญหาประชาชนเต็มที่ พร้อมสโลแกน “ทำงานฉับไว เพื่อประชาชน”
ตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งท้องถิ่นมีการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จำนวน ๖ ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๖๒, พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๖๒, พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๕๖๒, พ.ร.บ.สภาตําบลและองค์การบริหารส่วนตําบล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๖๒, พ.ร.บ.เทศบาล (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ.๒๕๖๒ และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๖๒ โดยปัจจุบันเหลือเพียงมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะมีการเลือกตั้งในระดับใด และเมื่อใดเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามมาตรา ๑๔๒ แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือ ผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๖๒ ที่ระบุว่า “การ กําหนดวันเลือกตั้งเป็นอํานาจของคณะรัฐมนตรีที่เห็นสมควรให้มีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด แล้วแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ”
สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นฉบับใหม่ จะแบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ๑ ตําแหน่ง สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ๕๐ ตําแหน่ง, เมืองพัทยา ประกอบด้วย นายกเมืองพัทยา ๑ ตําแหน่ง สมาชิกสภาเมืองพัทยา ๒๔ ตําแหน่ง, องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ ๗๖ จังหวัด ประกอบด้วย นายก อบจ. ๗๖ ตําแหน่ง และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ๒,๓๑๖ ตําแหน่ง, เทศบาลนคร ๓๐ แห่ง มีนายกเทศมนตรีนคร ๓๐ ตําแหน่ง และสมาชิกสภาเทศบาลนคร (ส.ท.) ๗๒๐ ตําแหน่ง, เทศบาลตําบล ประกอบด้วยนายกเทศมนตรี ๑๗๙ ตําแหน่ง สมาชิกเทศบาลตําบล ๓,๒๒๒ ตําแหน่ง และองค์การบริหารส่วนตําบล (อบต.) มีนายก อบต. ๕,๓๓๒ ตําแหน่ง และสมาชิก อบต. ๕๖,๙๖๐ ตําแหน่ง รวมการเลือกตั้งท้องถิ่นจะต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งสิ้น ๙๗,๙๔๐ ตําแหน่ง นั้น
โดยจังหวัดนครราชสีมา มีทั้งหมด ๓๒ อำเภอ ๒๘๙ ตำบล ๓,๗๔๓ หมู่บ้าน ๗๓๗,๓๗๗ ครัวเรือน มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ๓๓๔ แห่ง แบ่งเป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัด ๑ แห่ง, เทศบาลนคร ๑ แห่ง, เทศบาลเมือง ๔ แห่ง, เทศบาลตำบล ๘๕ แห่ง, องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ๒๔๓ แห่ง มีประชากรจำนวน ๒,๖๑๐,๑๖๔ คน
สำหรับเทศบาลตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นสนามเลือกตั้งที่สำคัญนั้น มีข่าวว่า นายกิติพงศ์ พงส์สุรเวท อดีต ส.อบจ.นครราชสีมา อำเภอเมืองฯ เขต ๑ (๒ สมัย) เปิดตัวลงสมัครนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลาง โดยจัดเวทีพบปะประชาชนอย่างต่อเนื่องในชื่อ “ทีมคิดใหม่ ทำใหม่” ภายใต้สโลแกน “นำโพธิ์กลางก้าวไกล ทำงานฉับไวเพื่อประชาชน”
นายกิติพงศ์ พงส์สุรเวท ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลาง เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่าจะลงสมัครนายก อบจ.นั้นไม่จริง เพราะเป็นสนามใหญ่เกินไป ตนไม่กล้า คงไม่ได้มีวาสนาขนาดนั้น เพราะเป็นตำแหน่งที่ใหญ่เกินไป อยู่แบบนี้ดีแล้ว แต่จะลงสมัครนายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์กลางแน่นอน
“ในส่วนที่ผมตัดสินใจมาลงสมัครนายกเทศมนตรีโพธิ์กลาง เนื่องจากสนามไม่ใหญ่เกินไป รวมถึงต้องการจะพัฒนาพื้นที่ให้เป็นตัวอย่างว่า เราสามารถทำได้ อีกทั้งผมยังมีความคุ้นเคยกับประชาชนโซนนั้นมากที่สุดด้วย เพราะเป็นพื้นที่ในสมัยที่ผมเป็น ส.อบจ. อำเภอเมือง เขต ๑ อยู่แล้ว”
เมื่อถามว่า มีผู้สมัครรายอื่นที่เป็นคู่แข่งหรือไม่? นายกิติพงศ์ เปิดเผยว่า เรื่องคู่แข่งนั้นต้องมีอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดตัวว่าเป็นใคร สำหรับตนยังมีสโลแกนประจำตัวว่า “กิติพงศ์ OK” แต่การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีฯ นี้ ตนใช้ชื่อทีมว่า “คิดใหม่ ทำใหม่” พร้อมสโลแกนประจำทีมว่า “นำโพธิ์กลางก้าวไกล ทำงานฉับไว เพื่อประชาชน” ซึ่งทีมของเราหาเสียงแบบลูกทุ่ง ไปร่วมงานสังคมต่างๆ มีการปั่นจักรยานไปพบปะประชาชนอยู่ตลอด หาเสียงแบบบริสุทธิ์ลูกทุ่ง ได้รับเลือกตั้งก็โอเค ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ช่วงนี้ก็ออกพบปะประชาชนไปก่อน
“โคราชคนอีสาน” ถามว่า เหตุใดไม่ลงสมัครในพื้นที่อำเภอสูงเนิน เนื่องจากมีบ้านพักอาศัยและประกอบธุรกิจในพื้นที่อำเภอสูงเนิน ซึ่งในประเด็นนี้ นายกิติพงศ์ เปิดเผยว่า “หากผมไปลงสมัครที่อื่นก็เท่ากับว่าไปแย่งพื้นที่ของคนอื่น แต่ที่เทศบาลตำบลโพธิ์กลาง เป็นพื้นที่ว่าง อีกทั้งผมไม่ต้องการไปทะเลาะกับใคร ส่วนที่สูงเนินก็มีแต่คนรู้จักทั้งนั้น จึงไม่อยากไปแย่งพื้นที่ เดี๋ยวจะมีศัตรูมากกว่ามิตร และต้องขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ตลอด ผมอยู่ตรงไหนก็ได้ แล้วแต่ประชาชนสนับสนุนและเมตตา”
อนึ่ง นายกิติพงศ์ พงศ์สุรเวท เป็นอดีต ส.อบจ.อำเภอเมืองนครราชสีมา เขต ๑ กว่า ๒ สมัย ในสังกัดกลุ่มโคราชชาติพัฒนา ซึ่งก่อนนี้เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แต่ภายหลังได้ลาออก จากนั้นในการเลือกตั้งส.ส.ทั่วประเทศเมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ ย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย โดยลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยด้วย ช่วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต ๓ หาเสียงอย่างหนัก กระทั่งได้รับชัยชนะ ที่ผ่านมานายกิติพงศ์มีบทบาททางสังคมไม่น้อย มีตำแหน่งต่างๆ อาทิ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, ส.อบจ.นครราชสีมา อำเภอเมือง เขต ๑, ประธานสภา อบจ.นครราชสีมา เป็นต้น
เทศบาลตำบลโพธิ์กลาง มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๕ ซึ่งนายอำพร มณีกรรณ ได้รับเลือกตั้ง และแถลงนโยบายเข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๕ จากนั้นดำรงตำแหน่งจนหมดวาระแต่ยังอยู่ในตำแหน่งตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๑/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ จากนั้นในวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๑ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่า นายอำพร มณีกรรณ นายกเทศมนตรีโพธิ์กลาง จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ กรณีไม่แสดงรายการกู้ยืมเงิน จำนวน ๑ ล้านบาท จึงมีคำสั่งให้นายอำพร มณีกรรณ นายกเทศมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๑ โดยในปัจจุบันมีว่าที่ร้อยตรีทศพล ขุนภิรมย์ ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรี
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๑๐ วันพุธที่ ๘ - วันอังคารที่ ๑๔ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
952 1,617